ร้อนฉ่า “พิมพ์ภัทรา” เปิดคลิป “ไตรรงค์” ซัดเดือดบนเวที มีพวกสีเทา-สีดำ ยึดพรรคเก่า แถมพยายามปล่อยข่าวเล่นงานหนัก – เจ้าตัวโพสต์ซ้ำ บาดลึก “แม้จะเป็นผู้หญิงแต่รู้จักให้เกียรติคนอื่น” เผย ทีมถูกขู่หนัก

วันที่ 7 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ จ.นครศรีธรรมราช เปิดปราศรัยใหญ่ที่สนามหน้าเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.66) ที่นำโดย นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำพรรคหลายคน แนะนำผู้สมัครทั้ง 10 เขต ของนครศรีธรรมราช เป็นเวทีใหญ่ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้

โดยพบว่า ช่วงเดียวกันมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญหลังจากที่เพจของ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ผู้สมัคร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ เขตเลือกตั้งที่ 10 นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้สมัครเต็งหนึ่งในทุกการสำรวจหยั่งความนิยมของทุกสำนัก รวมทั้งกระแสการตอบรับที่สูงมากเป็นที่จับตามองจากทุกฝ่าย และมีความพยายามในการปล่อยข่าวโจมตีอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกันนั้นยังพบว่า อดีต ส.ส.คนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์หลายคน ได้ลาออกในเวลาไล่เลี่ยกันจนสร้างแรงสะเทือนให้กับพรรคอย่างมาก ทั้งยังถูกตั้งคำถามถึงปัญหาที่เกิดจากตัวผู้บริหาร และการบริหารในพรรคหรือไม่

...

ช่วงที่มีการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ เพจนางสาวพิมพ์ภัทรา ได้เผยแพร่คลิปปราศรัยของ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ขึ้นเวทีปราศรัยให้กับนางสาวพิมพ์ภัทรา เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 ที่ผ่านมาอย่างดุเดือด ตรงไปตรงมา ตามสไตล์ของ ดร.ไตรรงค์ ซึ่งอาจเป็นการสื่อความหมายบางอย่างครั้งสำคัญ โดยมีใจความสำคัญระบุว่า "ที่ผมไม่ใส่เสื้อสีขาว แต่จะใส่สีดำตลอด เพื่อบอกประชาชนว่ามีพวกธุรกิจสีเทา ธุรกิจสีดำ เข้ามามีอิทธิพลในพรรคการเมือง"

“นี่ถ้าผมไม่ลาออกจากพรรคเก่ามาคงไม่ฮือกันแบบนี้ คนตกใจ 38 ปีทำไมผมถึงลาออก ผมไม่ได้พูดอะไร ผมไม่ได้ด่าพรรคเก่าแก่ของผม แต่ผมด่าคนเปรตที่มาอยู่ในพรรคเก่าแก่ผมนั่นแหละ ผมไม่ได้เผาบ้าน แต่ผมเผาปลวกที่มากินบ้านเก่าผม” นายไตรรงค์ ระบุ

นายไตรรงค์ ยังระบุถึงประเด็นที่ นางสาวพิมพ์ภัทรา ถูกบางคนพยายามโจมตีว่าสาเหตุที่ย้ายพรรคเพราะถูกซื้อตัว พร้อมทั้งหลุดด่าเป็นภาษาถิ่นอย่างเผ็ดร้อน ว่า “ใครที่บอกว่าพิมพ์ภัทราออกมาเพราะถูกซื้อตัว หรือขายตัวออกมา เย...แม่มม ขี้หก (โกหก) ที่เขาออกตามผมมา คนอย่างผมใครก็ซื้อไม่ได้ ตายายที่ไหนจะมาซื้อกู”

นอกจากนั้น ยังพบว่าเพจของนางสาวพิมพ์ภัทราได้เผยแพร่ข้อความ ย้ำถึงเรื่องมารยาท และศักดิ์ศรี ที่เคยพูดถึงเรื่องนี้หลายครั้งซึ่งอาจเป็นข้อความที่ซ่อนความหมาย หรือเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสำคัญให้มีการตัดสินใจย้ายพรรคความว่า “มารยาท เป็นสิ่งที่ ปุ้ย รักษามาโดยตลอด ไม่กล่าวให้ใครเสียหาย ทั้งที่ปุ้ยรู้อยู่เต็มอกว่า มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับปุ้ยบ้าง ปุ้ยมีศักดิ์ศรี”

โดยมีบางช่วงบางตอนบนเวทีมีใจความสำคัญว่า “เป็นผู้แทนช่วยเหลือคนพื้นที่ ยืนอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ให้ใครมากดขี่ข่มเหง แต่เมื่อใดที่กลายเป็นลูกไล่ ลูกน้อง กลายเป็นกลไกเพื่อขับเคลื่อนผู้มีอิทธิพลบางกลุ่มบางพวกภายในพรรค จะให้อยู่ต่อได้อย่างไร แต่คนในพรรคเมื่อเราออกมาแล้วกลับว่าร้ายไม่ดีสักอย่าง ดีแต่พูดให้ร้าย กลับกันคนที่ย้ายมาจากพรรคอื่นมาอยู่เห็นเขาดีทุกอย่าง อดทนไม่พูดเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นคนมีมารยาท และเป็นคนสำนึกในบุญคุณตลอด แต่สิ่งที่ตนได้รับคือถูกรุม ปุ้ยคนเดียวไม่พอ ทั้งทีมงานยังถูกคนโทรศัพท์มาข่มขู่คุกคามตลอด นี่จึงเป็นเหตุผลที่มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี เราอยู่กันแบบพี่น้อง ไม่ข่มเหงใคร พร้อมยืนยันว่าจะมุ่งมั่นในการรณรงค์หาเสียงต่อไป”

ทั้งนี้ การเผยแพร่คลิปครั้งดังกล่าวอาจถือเป็นครั้งสำคัญที่มีการสื่อความหมายอย่างชัดเจนหลังจากที่เจ้าตัวพยายามที่จะไม่เคลื่อนไหวในทางสื่อ ถึงเหตุผลการย้ายพรรค โดยระบุว่าเพื่อรักษามารยาทและเดินออกมาจากพรรคเก่าอย่างให้เกียรติทุกคน โดยล่าสุดนั้นพบว่ามีการกล่าวโจมตี นางสาวพิมพ์ภัทรา อย่างหนักบนเวทีปราศรัยของพรรคเก่า และเมื่อตีความตามการเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลครั้งนี้ อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงเหตุผลการย้ายพรรคที่อาจถูกกดดันจากกลุ่มพวกสีเทา หรือพวกอิทธิพล เช่นที่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี กล่าวไว้อย่างดุเดือดหรือไม่