ไทยรัฐดีเบตเดือด ปมเลือกตั้งผู้ว่าฯ “หมอวรงค์” ไล่ “ไอติม” ไปอ่านหนังสือใหม่ เจอตอกกลับพีก ทุกอย่างกูเกิลได้ ก้าวไกลต้องการเสนอเป็นรัฐเดี่ยว แนะอ่านหนังสือของพรรคพอจะได้คำตอบที่ถ่องแท้
วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 รายการไทยรัฐดีเบต “เลือกตั้ง’66 #เริ่มใหม่ไทยแลนด์ กับไทยรัฐ” ดำเนินรายการโดย “จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์” พาบุกไปดีเบตกันที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช กับการประชันวิสัยทัศน์ ประชันนโยบายจากแต่ละพรรคการเมือง ถึงนโยบายสันติภาพชายแดนใต้
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวว่า สิ่งที่ตนเองไปสัมผัสคือประชาชนต้องการแก้ปัญหาปากท้อง มีเงิน แต่ต้องยอมรับว่ามันยังมีปัญหาเรื่องความมั่นคงอยู่ และพวกเขายอมรับว่ามีเรื่องแบ่งแยกดินแดนอยู่บ้าง แต่มันถูกสมทบเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันและการใช้อำนาจมิชอบ และบางครั้งฝ่ายการเมืองเองก็มีอคติกับฝ่ายทหารที่บางสิ่งบางอย่างทำถูกต้องและก็มีสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
“ผมต้องเคลียร์กับพรรคก้าวไกลเหมือนกันว่า ท่านต้องการจะเลือกตั้งผู้ว่าฯ ผมไปอ่านในรายละเอียดของท่านมันไม่ได้เป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เหมือนที่ท่านบอกว่าเหมือนญี่ปุ่น หรือ ผู้ว่าฯ กทม. แต่เป็นการเลือกตั้งที่ต้องการไปสู่การแบ่งแยกดินแดน ซึ่งไทยภักดีไม่เห็นด้วย” นพ.วรงค์ กล่าว
...
ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ต้องยืนยันในเชิงข้อเท็จจริงว่าเรื่องการกระจายอำนาจผู้ว่าของพรรคก้าวไกลไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแบ่งแยกดินแดน แต่สิ่งที่พรรคต้องการนำเสนอคือการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่น และรัฐส่วนกลางยังมีอำนาจตัดสินใจเหมือนที่ญี่ปุ่น โดยตนเองก็ติดตามการสัมภาษณ์ของนพ.วรงค์เช่นเดียวกัน แต่เราต้องการกระจายอำนาจจาก negative list เป็น positive list และท้ายสุดแล้วเมื่อเป็นรัฐเดี่ยวสามารถเรียกกลับคืนได้และส่วนกลางยังมีบทบาทกำหนดมาตรฐานของบริการสาธารณะ
ขณะที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ตนเองเป็นคนเสนอให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ แต่บริบทของตนกับก้าวไกล แตกต่างกัน แต่ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดนแต่ให้เขาตัดสินใจเองได้ และไม่ได้ตำหนิ 2 ลุง เมื่อลุงนั่งบนบอร์ดบริหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราต้องถามเขาว่าอยากได้อะไร ไม่ใช่เราไปยัดให้เขา แทนการคิดแทนและยัดเหยียด
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ฟังอย่างนี้ก็พาดพิงอีกแล้ว ลุงต้องการอย่างเดียว คือให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีเศรษฐกิจที่ดี ที่พูดมาไม่เห็นพูดถึงเรื่องนี้ พูดแต่ความคิดของตัวเองที่อยากเห็น
ส่วนนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ขอใช้สิทธิ์พาดพิง บอกว่า อยากให้นายพริษฐ์ กลับไปอ่านหนังสือกระจายอำนาจของญี่ปุ่น เพราะสิ่งที่เสนอ ไม่ใช่ พูดแบบนี้มันเหมือนศรีธนญชัย ด้านนายพริษฐ์ แย้งว่า ไม่ใช่ ทุกอย่างกูเกิลได้
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า “ไปอ่านเนื้อหาของพรรคก้าวไกลโดยละเอียดแล้ว เป็นการมอบให้ทุกอย่าง ในความเป็นจริงแล้วเนื้อหาของญี่ปุ่นไม่ใช่แบบนี้และเป็นการกระจายอำนาจรูปแบบคล้ายๆ กทม. ที่ต้องใช้งบฯ ต้องผ่านรัฐบาลกลาง มันไม่ใช่ ขอให้กลับไปอ่านหนังสือใหม่”
ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า “ต้องขออนุญาต คงไม่ไปสั่งสอนใครให้ไปอ่านหนังสือหรือว่าไปขึ้นเสียงกับใคร” แต่ขอชี้แจงแบบนี้ คือรัฐธรรมนูญยังเขียนไว้ชัดเจนว่ายังเป็นรัฐเดี่ยว แผนของพรรคก้าวไกลจึงไม่สามารถขัดรัฐธรรมนูญได้ และที่บอกว่าก้าวไกลจะทำแบบนิวซีแลนด์นั้น ขอแจงว่านิวซีแลนด์เป็นรัฐเดี่ยวไม่ใช่สหพันธรัฐ
นพ.วรงค์ ขอใช้สิทธิ์พาดพิงนายพริษฐ์ ว่า สิ่งที่กำหนดไว้ ยกเว้น 4 อย่าง ไม่ว่าเรื่องทหาร ศาล เงินตรา และการต่างประเทศ นี่มันคือรูปแบบเหมือนกับผู้ว่าการรัฐในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา นายพริษฐ์ จะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ จังหวัดเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง
“ส่วนที่ผมไม่สบายใจ เพราะท่าทีของพรรคก้าวไกลหลายครั้ง หัวหน้าเขา อย่างเรื่อง ม.112 ที่พูดว่าเดี๋ยวแก้เดี๋ยวไม่แก้ อย่างนี้เหมือนได้คืบแล้วจะเอาศอก ทำให้ตนเองไม่ไว้วางใจท่าทีของพรรคก้าวไกลในการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ครับ”
ขณะที่นายพริษฐ์ กล่าวว่ารอบแรก ตนเองก็ไม่ได้พาดพิงใคร ตนเองแค่ชี้แจงของตนเอง เอาเป็นว่าคุณหมออาจจะไม่สบายใจกับท่าทีก้าวไกล แต่ไม่เป็นไร แต่ผมจะอธิบาย โดยหวังว่าคุณหมอและประชาชนที่รับฟังอยู่ ที่มีข้อสงสัยเหมือนหมอวรงค์สบายใจขึ้น จึงขอแจง 2 ประเด็น คือ รัฐบาลส่วนกลางสามารถเพิ่มและลดอำนาจได้ตลอดเวลา
“ส่วนเรื่องโดนไล่ไปอ่านหนังสือ ผมว่าง่ายๆ เลย ประชาชนสามารถกูเกิลข้อเสนอของก้าวไกล และมีการระบุสิ่งที่ตนเองอธิบายชัด ถ้าอยากจะอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เราเคยเสนอไปยังรัฐสภาแล้ว ก็จะทราบอย่างชัดเจนว่า เราไม่ได้ต้องการให้เป็นรูปแบบรัฐอย่างอื่นใดแค่เสนอเป็นรัฐเดี่ยว ไม่ต้องไปอ่านของญี่ปุ่นอ่านของก้าวไกลนี่แหละครับ ก็จะได้คำตอบที่ถ่องแท้แล้ว”