ต้องบอกว่าสถานการณ์เลือกตั้งกำลังเดินเข้าสู่ทางตรง เพราะเหลือเวลาเพียงแค่ 9 วันเท่านั้นที่จะต้องไปกาบัตรเลือกตั้งแล้วชี้อนาคตของประเทศ...

ว่าไปแล้วจนถึงวันนี้ผู้มีสิทธิลงคะแนนคงไม่ได้จดจ่อกับนโยบายที่แต่ละพรรคนำเสนอ เพราะต่างก็ทราบกันดีว่าพรรคไหนจะทำอะไรกันบ้าง

มีแต่เพียงการตัดสินใจจะเลือกใครพรรคไหนเท่านั้น

ก่อนจะไปกาบัตรทวนความจำเรื่องกฎกติกากันสักหน่อยเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด การเลือกตั้งครั้งนี้มีบัตร 2 ใบ คือ บัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตและบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แบบแบ่งเขตจำนวน 400 คน ปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน รวม 500 คน

บัตรเลือกตั้งสีม่วงเลือกแบบแบ่งเขตมีหมายเลขผู้สมัครและช่องสำหรับกากบาทโดยไม่มีชื่อผู้สมัครและโลโก้พรรค

บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อสีเขียวมีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายของพรรคการเมืองและมีชื่อในบัตรเลือกตั้ง

ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด 1,899 คน จาก 67 พรรคการเมือง ผู้สมัคร ส.ส. แบบเขตเลือกตั้งมีจำนวน 4,781 คน ที่ กกต. รับรองคุณสมบัติแล้ว

แคนดิเดตนายกฯ 62 คน จาก 43 พรรค

ที่น่าสังเกตก็คือการเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักการเมืองหน้าใหม่มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้เลือกทำให้การเมืองมีสีสันด้วยความตื่นตัวทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

จึงคาดหวังว่าประชาธิปไตยจะเบ่งบานแตกหน่อออกช่อสะพรั่งจนทำให้การเมืองไทยเติบโตก้าวหน้าไม่ต้องมีเหตุเว้นวรรคสะดุดระหว่างทางอีกแล้ว

แม้ความจริงยังมีปัญหาความขัดแย้งที่ดำรงอยู่แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่มิอาจปฏิเสธได้แต่ขอเพียงว่าก้าวต่อไป

ให้เป็นความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ที่มีมุมสว่างให้กับสังคม

ยังคงหวังไม่ได้ว่าผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ไปจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นในทันที แต่อย่างน้อยให้มีสิ่งที่ดีกว่าที่ผ่านมา

...

“นักการเมือง” ที่ดี มีคุณธรรม ไม่โกงไม่กินต้องได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากกว่าอดีตด้วยการเลือกอย่างแยกแยะของประชาชน

อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสะสางนักการเมืองเลวออกไปจากระบบเพราะทำให้บ้านเมืองเสียหาย

เพราะนี่คือ “ต้นตอ” หนึ่งที่ทำให้สังคมการเมืองไทยต้องมีปัญหาวนเวียนอยู่กับวงจรเลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

วันนี้คนไทยตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใคร?

โดยเฉพาะ “พลังเงียบ” ซึ่งเป็นพลังสำคัญของบ้านเมืองมาทุกสมัยที่คิดและตัดสินใจอย่างเป็นเหตุเป็นผล

นักการเมืองโกงไม่มีทางที่จะคิดใหม่ทำใหม่ได้

เพราะ “สันดาน” มันแก้ไม่ได้!

“สายล่อฟ้า”