ก้าวไกล เปิดตัว คาราวาน 5 สาย โกยคะแนนโค้งสุดท้ายหาเสียง มั่นใจจับมือเพื่อไทยได้ 300 ที่นั่ง หวังได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สวนกลับ รทสช. อย่าเอาความเคยชินมาป้ายสีกระแสพรรคในโซเชียลเป็น IO
วันที่ 4 พ.ค. 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงเปิดตัวคาราวานก้าวไกลถนนทุกสายมุ่งสู่ทำเนียบ 5 สาย 7 วัน ทุกที่ทั่วไทย ขณะนี้พรรคก้าวไกลเข้ามาสู่ช่วงโค้งสุดท้ายและได้รับเสียงตอบรับล้นหลาม ทั้งจากเวทีปราศรัยและผลโพล โดยช่วงโค้งสุดท้าย 10 วันจะจัดคาราวานไปหาประชาชนทั่วประเทศ ประกอบด้วย
ภาคเหนือ: สายมาเหนือ นำโดย ชัยธวัช ตุลาธน, พรรณิการ์ วานิช และกรุณพล เทียนสุวรรณ
ภาคใต้: สายในใต้หล้า นำโดย รังสิมันต์ โรม และพริษฐ์ วัชรสินธุ
ภาคตะวันออก: สายบูรพาไม่แพ้ นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ศิริกัญญา ตันสกุล, เบญจา แสงจันทร์ และวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ภาคอีสาน #1: สายเลือดอีสาน นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, และอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
ภาคอีสาน #2: สายมิตรภาพ นำโดย ปิยบุตร แสงกนกกุล, ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ และอภิชาติ ศิริสุนทร
โดยคาราวานจะแห่โดยเน้นปราศรัยใหญ่และย่อย เน้นดาวกระจาย ไปพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ขอประชาชนกาก้าวไกลทั้งสองใบ
...
สำหรับขบวนคาราวานทั้ง 5 คัน จะมาบรรจบกันที่เวทีปราศรัยใหญ่ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 เพื่อรวมพลังประชาชนทั่วประเทศส่งก้าวไกลเข้าทำเนียบรัฐบาล และเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะเลือกด้วยความหวัง ไม่ใช่เลือกด้วยความกลัว เลือกเพื่อความสำเร็จในอนาคตไม่ใช่เพราะความสำเร็จในอดีต และในช่วง 10 วันสุดท้ายของการหาเสียง ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทั้ง 400 เขต อาสาสมัครในทุกจังหวัด และหัวคะแนนธรรมชาติ จะทำงานหนักถึงที่สุด เพื่อเป้าหมายสุดท้าย คือ ได้ ส.ส. 160 ที่นั่ง และเพื่อให้ก้าวไกลได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
นายชัยธวัช ยังย้ำว่า คาราวาน 5 สายที่ปล่อยออกไป ไม่ใช่เพราะกระแสของก้าวไกลที่ดีขึ้นในช่วงหลัง แต่ได้มีการวางแผนมานานแล้ว และพรรคก้าวไกลเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนพุ่งสูงและเป็นไปตามคาด
ส่วนผลสำรวจโพลของพรรคก้าวไกล ที่มีคะแนนพุ่งขึ้นสูง ทิ้งห่างพรรคเพื่อไทยเกินครึ่งไม่ได้เหนือความคาดหมาย เพราะเราวางเป้าหมายไว้แล้ว พร้อมขอบคุณประชาชนที่ตอบรับ และเข้าใจสิ่งที่พรรคก้าวไกลสื่อสารออกไปตลอดการเดินสายหาเสียง และสะท้อนให้เห็นว่าราทำงานอย่างหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา พร้อมขอบคุณการตอบรับของประชาชน และสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนต้องการให้นายพิธาเป็นนายก ซึ่งถือว่านายพิธาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดในตอนนี้ ส่วนพรรคก้าวไกลจะสามารถเดินเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลได้หรือไม่นั้น หากได้ ส.ส. 160 คน ก้าวไกลก็จะจัดตั้งรัฐบาลได้
โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าคิดเห็นอย่างไรกับคำว่า “ชนะเลือกตั้ง แต่ไม่ได้หมายความจะจัดตั้งรัฐบาลได้” นายชัยธวัช ระบุว่า สถานการณ์การเลือกตั้งตอนนี้ ต่างจากสถานการณ์การเลือกตั้งในปี 2562 หากประเมินจากผลสำรวจต่างๆ ที่ออกมาจะเห็นว่าทั้งหมดมีความสอดคล้องกัน ทั้งจากโพลของฝ่ายความมั่นคง และโพลพรรคการเมืองต่างๆ ทุกอันสอดคล้องกันทั้งหมด
และสิ่งที่ต่างกันมากของการเลือกตั้งครั้งนี้ และปี 2562 ฝ่ายขั้วรัฐบาลเดิม จะไม่มีโอกาสได้ ส.ส. ค่ะ รวมกันเกิน 180 ที่นั่ง ขณะที่ ขั้วฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล รวมกันแล้วจะถึง 300 เสียง ฉะนั้นความห่างของพรรคขั้วรัฐบาลอันดับ 1 คะแนนห่างกันนับ 100 เสียง จึงไม่มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลได้ และไม่ต้องกังวลว่าเสียงของพรรคหลักสองพรรค จะตัดกันเองและทำให้พรรคคะแนนอันดับ 3 ขึ้นมาแทรกอย่างไรก็ตามการเลือกตั้งในครั้งนี้จะไม่สถานการณ์ตาอยู่ แต่สถานการณ์เรือล่มในหนอง และยังมั่นใจว่าขั้วฝ่ายค้านเดิมจะได้จัดตั้งรัฐบาล และเป็นรัฐบาล
นอกจากนี้ นายชัยธวัช ยังเชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยยังไปด้วยกัน และจะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันได้ แม้เงื่อนไขบางอย่างอาจจะมีความเห็นไม่ตรงกัน และเชื่อว่าหลังเลือกตั้งจะมีการพูดคุยกัน พร้อมย้ำว่า เงื่อนไขบางอย่างที่พรรคเพื่อไทยอาจจะไม่เห็นพ้องโดยเฉพาะมาตรา 112 นั้น การเสนอแก้ไข กฎหมายอาญา ผู้ที่ทำความผิดหมิ่นประมาทบุคคลรวมถึ 112 พรรคก้าวไกลได้ยื่นค้างไว้ในสภา เมื่อสภาเปิดจึงเป็นหนึ่งในเงื่อนไขจะต้องผลักดันให้สำเร็จ จึงคิดว่าการตั้งรัฐบาลร่วมกัน สิ่งที่ก้าวไกลอยากจะเห็น คือ การทำข้อตกลงที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ในประเด็นที่เป็นเรื่องใหญ่ ทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง จะปฏิรูปกองทัพ เริ่มต้นจากการบังคับเกณฑ์ทหาร รวมไปถึงการปลดล็อกท้องถิ่นเลือกตั้งผู้ว่าฯ ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่เพื่อไทยจะอ้างไม่ได้ พร้อมย้ำว่า นายพิธา ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีในโลกโซเชียล ทั้งติ๊กต่อก ทวิตเตอร์เท่านั้น รวมทั้งกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า พรรคก้าวไกลใช้ IO ปั่นกระแสในโลกออนไลน์ คนที่เล่นโซเชียลมีเดียจะแยกออกว่าอันไหนเป็น IO อันไหนเป็นของจริง และทัศนคติของพรรครัฐบาลเดิมอาจจะเป็นความเคยชินที่ถนัดใช้แต่ IO จากกองทัพ จากฝ่ายความมั่นคง ที่มาปั่นกระแสสร้างข้อมูลเท็จ และความแตกแยกในสังคมมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ทำ อย่าว่าแต่ทำ IO การซื้อโฆษณาเฟซบุ๊กยังไม่ทำ