“ทิม พิธา” ขอบคุณประชาชน หลังนิด้าโพลเผยเป็นอันดับ 1 ที่ประชาชนหนุนเป็นนายกฯ ย้ำโค้งสุดท้ายไม่เสียสมาธิ แม้จะมีความพยายามสาดโคลนอย่างที่เคยทำกับอนาคตใหม่ ปลุกพรรคก้าวไกลไปสู่ชัยชนะ
จากกรณีที่นิด้าโพล (NIDA Poll) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ครั้งที่ 3 พบว่า บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ อันดับ 1 คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยคะแนนเพิ่มจาก 20.25% ในการสำรวจครั้งที่ 2 พุ่งขึ้นเป็น 35.44% เช่นเดียวกับคะแนนนิยมพรรคก้าวไกลที่เพิ่มขึ้น แบ่งเป็น
1. พรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต จาก 21.20% ในการสำรวจครั้งที่ 2 เพิ่มเป็น 33.96%
2. พรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จาก 21.85% ในการสำรวจครั้งที่ 2 เพิ่มเป็น 35.36%
...
ทางด้าน นายพิธา กล่าวในวันนี้ (3 พฤษภาคม 2566) ว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนับสนุน เชื่อว่าความนิยมในพรรคก้าวไกลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องมาจากจุดยืนของเราที่ชัดและพร้อมชัดในจุดยืน คือ “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคทหารจำแลง ไม่ว่าจะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และความพร้อมในการเป็นรัฐบาล จากการเสนอ 300 นโยบาย พร้อมแผนงานขับเคลื่อนให้เป็นจริงภายใน 100 วัน ภายใน 1 ปี และภายใน 1 สมัย เชื่อว่าทั้ง 2 เหตุผลนี้ ทำให้ประชาชนเห็นถึงความมุ่งมั่น ความตรงไปตรงมา และความใส่ใจในปัญหา จนเกิดความมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นรัฐบาล ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
ทั้งนี้ แม้โพลเป็นสิ่งสำคัญแต่ไม่ใช่ทุกอย่าง สิ่งที่สำคัญกว่าคือการพบปะประชาชนที่เวทีปราศรัยในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยให้มากที่สุด โดยในช่วงโค้งสุดท้ายพรรคก้าวไกลจะสู้อย่างเต็มที่ แม้รู้ว่าการเมืองแบบเก่าพยายามสาดโคลนสกปรก เล่นวิชามารใส่ อย่างที่เคยทำกับพรรคอนาคตใหม่ แต่พรรคก้าวไกลยืนยันจะสู้ด้วยความจริงใจ ด้วยความสร้างสรรค์ ด้วยการเมืองแห่งความหวัง
“โคลนสาดโคลนไม่ช่วยอะไร ความมืดสู้ความมืดไม่ได้ ต้องใช้ความสว่างเข้าสู้ เราต้องไม่หลงกล และมีสมาธิกับการทำงานในช่วงโค้งสุดท้าย เดินหน้าหาเสียงเต็มที่ เหลือเวลาอีกเพียง 11 วัน ขอให้ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ทีมงานจังหวัด อาสาสมัคร และหัวคะแนนธรรมชาติ จับมือกันเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้ทุกคนขับเคลื่อนด้วยความหวังดีต่อประเทศที่เรารัก ชัยชนะของพรรคก้าวไกลจะเป็นชัยชนะของพวกเราทุกคน เป็นชัยชนะที่รัฐบาลก้าวไกลจะนำพาสังคมไทยออกจากอดีตเพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคต”.