ใกล้วันเลือกตั้งคนที่ตื่นเต้นมากที่สุดก็น่าจะเป็น ผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละพรรคการเมือง และบรรดากองเชียร์ทั้งหลาย นั่นหมายถึง แคนดิเดตนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทยที่ต้องลุ้นกัน สองกระทอกคือ ต้องได้ ส.ส.มากกว่า 25 คน ขึ้นไปพอที่จะเสนอชื่อนายกฯในสภาได้ และต้องสามารถได้ ส.ส.เข้าสภามากที่สุดหรือเกินกว่า 250 ที่นั่งยิ่งดี ความวุ่นวายในการตั้งรัฐบาลและเลือกนายกฯในสภาก็จะน้อยลง แต่ถ้าได้เสียงเข้ามาก้ำกึ่ง หรือ เสียงพรรคร่วมปริ่มน้ำ จะเป็นความยุ่งยากและวุ่นวายกว่าการแลนด์สไลด์แน่นอน

โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งนี้ เดาใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ยากกว่าทุกครั้ง เพราะมีปัจจัยที่เป็นแรงจูงใจหลายประเด็น ไม่ใช่เลือกขั้วและเลือกข้างใดข้างหนึ่ง เช่น ฝ่ายประชาธิปไตย หรือ อนุรักษนิยม จะเป็น ขั้วฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล แต่จะเป็นการเลือกฝ่ายที่เอาขั้วอำนาจปัจจุบัน ขั้วอำนาจเดิมและขั้วอำนาจใหม่

ชั่งน้ำหนักดูแล้ว กระแส จะแรงกว่า กระสุน เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ถามว่าทุกพรรคมีการซื้อเสียงไหม คำตอบคือมีทุกพรรค จะด้วยวิธีใดก็ตามเพื่อจูงใจให้ไปลงคะแนนเลือกตั้ง ตามแบบฟอร์ม เงินไม่มา กาไม่เป็น แต่ด้วยสาเหตุที่รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศมานานกว่า 8 ปี ความได้เปรียบเสียเปรียบ จึงเห็นได้ชัดเจน และที่ไปที่มาของอำนาจ คนส่วนหนึ่งจึงมีแรงจูงใจที่จะไปเลือกตั้งเพื่อการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะคนที่ไม่ฝักใฝ่การเมืองขั้วใดหรือสีใดเป็นพิเศษ ไม่ได้พึ่งพาการดำรงชีวิตจากรัฐบาลโดยตรง แต่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หรือสามารถจะพึ่งพาตัวเองได้อยู่แล้ว เช่น บ้านคนมีรั้ว จะยึดเอาภาพรวมของอนาคตประเทศไทย เป็นหลัก

บวกกับที่ชอบและไม่ชอบตัวบุคคลตามกระแส

เป็นคำตอบว่าทำไมกระแสแรงกว่ากระสุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีคะแนนที่เกิดจากการจัดตั้งของแต่ละพรรคการเมืองที่ต้องยกให้การเมืองที่มีการจัดตั้งได้เป็นระบบมากที่สุดทั้งองค์กรภายในและภายนอกพรรค

...

มีคำถามเป็นร้อยครั้งว่า เพื่อไทย จับมือกับ พลังประชารัฐ หรือ รวมไทยสร้างชาติ ได้ไหม หรือจับมือกับ ก้าวไกล ได้ไหม จับมือกับ ประชาธิปัตย์ หรือ ภูมิใจไทย ได้ไหม

คำตอบไม่ได้อยู่บนเวทีดีเบต แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลังวันที่ 14 พ.ค.ไปแล้ว

การตั้งรัฐบาลในปี 2562 เป็นตัวอย่าง มีหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันมาก่อน เช่น การคิดคะแนนแบบสัดส่วนผสมของ กกต. ทำให้ได้พรรคการเมืองพรรคเล็กเข้ามาช่วยตั้งรัฐบาลถึง 11 พรรค หรือการที่พลังประชารัฐที่ได้คะแนนเป็นอันดับสองชิงตั้งรัฐบาลได้ก่อนเพื่อไทย ต้องถือว่าการตั้งรัฐบาลเที่ยวนั้นพรรคเล็ก มีบทบาทในการตั้งรัฐบาลเป็นตัวชี้ขาดว่าฝ่ายไหนจะเป็นรัฐบาล ซึ่งตามระบอบประชาธิปไตยแล้วจะขัดหูขัดตา แต่นี่คือประเทศไทย ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ในที่สุดแล้วเพื่อไทยอาจต้องไปจับมือกับรวมไทยสร้างชาติหรือก้าวไกลหรือพลังประชารัฐใครจะไปรู้

เมื่อวิถีประชาธิปไตยในประเทศไทยยังไม่มีความสมบูรณ์.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th