"พิธา" ขึ้นเหนือนำทีมก้าวไกลช่วยผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย หาเสียงรักษาฐานเดิมเพิ่มเขตใหม่ ชูนโยบายประกันสังคมถ้วนหน้า ปรับปรุงการป้องกันไฟป่าลดฝุ่น PM 2.5 ข้าวโพดเพื่อนบ้านต้องผ่าน GAP เหมือนไทย

เมื่อคืนวันที่ 1 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล และนายมานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อชาวปกาเกอะญอ ได้ลงพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อช่วยผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย โดยก่อนการขึ้นเวทีปราศรัย น.ส.พรรณิการ์ และนายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 1 เบอร์ 3 ก็ได้ขึ้นรถยนต์ตระเวนไปตามถนนสายต่างๆ ใน อ.เมืองเชียงราย โดยมีเหล่าบรรดาแฟนคลับตามข้างทางให้ความสนใจโบกมือและชูสามนิ้วให้กำลังใจกับคณะคาราวานรถแห่กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงที่รถแห่แนะนำตัวผู้สมัครเดินทางมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารเก่า ก็ได้มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้ติดตามมาขึ้นรถแห่เพื่อแนะนำตัวผู้สมัครและเชิญชวนแฟนคลับให้ไปร่วมรับฟังการปราศรัย ซึ่งมีผู้ที่ชื่นชอบในพรรคก้าวไกลได้หยุดรถทักทายและถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก บางส่วนก็ขับรถติดตามมาเพื่อร่วมรับฟังการปราศรัย

...

จากนั้นได้จัดเวทีปราศรัย ที่บริเวณที่ทำการพรรคก้าวไกลประจำจังหวัดเชียงราย ใกล้กับลานโบว์ลิ่งเก่า สี่แยกแม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย โดยมีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 7 เขตเลือกตั้งใน จ.เชียงราย ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงประกอบด้วยเขต 1 นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ เขต 2 นายรัตน์ธนวัตร พุทธจันทร์ เขต 3 นายฐากูร ยะแสง เขต 4 นายเจริญ บุญเลิศ เขต 5 นายสิริวัฒน์ นาโพนงาม เขต 6 นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม และเขต 7 นายประหยัด เสียงดัง โดยมีมวลชนเข้ารับฟังประมาณ 3,500 คน จนแทบล้นลานโบว์ลิ่ง

การปราศรัยเริ่มจากผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 7 เขต ได้ขึ้นไปแนะนำตัวและโชว์วิสัยทัศน์คนละ 5 นาที เริ่มจากผู้สมัครเขต 7 ไล่มาจนถึงเขต 1 จากนั้นมีนายมานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของความหลากหลายที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับผู้คนในสังคมทุกๆ กลุ่มอย่างทั่วถึง ได้ขึ้นมาแนะนำตัว จากนั้นก็ตามด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ซึ่งขึ้นเวทีมาพร้อมกับช่อดอกไม้เล็กๆ ที่แฟนคลับบรรจงจัดมาจากบ้านและมามอบให้ก่อนการปราศรัย และยังมีกำไลข้อมือจากแฟนคลับรุ่นเก๋าเป็นคุณยายวัยประมาณ 70 ปี ที่มามอบเป็นกำลังใจ หลังจากรอบก่อนรู้สึกผิดหวังที่คนซึ่งตนเองเลือกได้ย้ายไปอยู่พรรคอื่น แต่รอบนี้ให้อภัยเหตุการณ์ในอดีตและพร้อมจะกลับมาเลือกพรรคก้าวไกลไปเปลี่ยนประเทศอีกครั้ง

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ถึงแม้ที่ผ่านมาพวกเราจะถูกยุบพรรคมาแล้ว 1 ครั้ง คนที่เป็นหัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรคและ ส.ส.ถูกกลั่นแกล้ง แม้แต่เรื่องงานศพพ่อตัวเอง ก็นำมาเป็นประเด็นแต่พรรคก้าวไกลก็เดินหน้ามาได้เพราะมีแรงสนับสนุน และก็ต้องขอโทษที่มีงูเห่า 2 คนจากการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา สำหรับครั้งนี้ยืนยันจะไม่ให้มีการแปลงกายเป็นงูเห่าอีกอย่างเด็ดขาด เพราะผู้สมัครรอบนี้ผ่านการคัดเลือกจากพรรคมาเป็นอย่างดี และส่วนใหญ่ก็ทำงานร่วมกับพรรคมาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่กลัวอย่างเดียว คือ การโกง เพราะทุกวันนี้แม้แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็มีผู้ลงชื่อขับไล่มากกว่า 1 ล้านคน ขอให้พวกเราสู้ต่อไป และหลังจากปิดหีบเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. แล้ว ให้พวกเราไปนั่งดูที่หน่วยเลือกตั้ง อย่าให้มีการแย่งคะแนนเสียงของเรา ถ่ายภาพ ถ่ายคลิปได้ ถ้า กกต.ไม่ยอมให้ถ่าย ให้ถ่ายแล้วเผยแพร่ลง TikTok ได้เลย และหากมีใครนำเงินไปซื้อเสียงให้รับเลยแต่ขอให้เลือกพรรคก้าวไกล

ด้านนายพิธา กล่าวว่า เนื่องในวันแรงงานเราพบว่า จ.เชียงราย มีแรงงานในระบบประมาณ 600,000 คน และยังมีแรงงานนอกระบบรวมทั้งผู้สูงอายุ ถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลจะมีประกันสังคมถ้วนหน้าให้อย่างแน่นอน สำหรับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ชาวเชียงรายเลือกพรรคอนาคตใหม่เกือบ 170,000 คน และได้รับเลือก 2 เขตเลือกตั้ง จึงจะพยายามรักษาเขตเดิมและเพิ่มเติมให้ได้เขตใหม่

"สำหรับปัญหา PM 2.5 ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะทำให้เห็นผลภายใน 100 วัน โดยให้นำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านต้องผ่านจีเอพี (Good Agricultural Practice) เหมือนผลผลิตในประเทศไทย และให้งบประมาณตำบลละ 3 ล้านบาท เพื่อป้องกันไฟป่าอย่างมีประสิทธิภาพ" หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

การจัดเวทีปราศัยในวันนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวเชียงราย และแฟนคลับพรรคก้าวไกลชาวพะเยาที่ติดตามมาร่วมรับฟังการปราศรัยด้วย ทำให้บริเวณที่จัดกิจกรรมซึ่งได้จัดเก้าอี้ไว้สำหรับผู้มาร่วมกิจกรรมแค่ 1,000 ที่ จึงทำให้คนที่มาทีหลังต้องนั่งกับพื้นหรือต้องยืนฟังการปราศรัย และระหว่างการปราศรัยของนายพิธาก็ได้มีแฟนคลับมอบชุดชาติพันธุ์ให้ ซึ่งนายพิธาก็ได้นำมาสวมใส่ขณะทำการปราศรัยด้วย จากนั้นการปราศรัยก็ดำเนินไปจนสิ้นสุดเมื่อเวลา 20.00 น. ตามกำหนดการ.