ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา เต็มที เหลืออีกแค่ 5 วัน จะถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง ล่วงหน้าสำหรับประชาชน ที่ไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งของตัวเอง
ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ มีจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากว่า 2.3 ล้านคน
คะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า 2.3 ล้านเสียง ถือเป็นคะแนนประเดิมก้อนใหญ่ ที่จะดันให้พรรคการเมืองชนะเลือกตั้งเป็นแกนนำรัฐบาล
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองต้องสู้ขาดใจเพื่อแย่งชิงกันเป็นรัฐบาล
พรรคการเมืองที่มีคะแนนตามหลัง ต้องลุยเต็มเหนี่ยวเพื่อเติมคะแนนให้พรรคตัวเองแซงพรรคคู่แข่งที่มีคะแนนนำ
ถ้าไม่ทุ่มเต็มพิกัด ก็ปิดประตูชนะแน่นอน!!
จึงมีข่าวพรรคการเมืองบางพรรค และผู้สมัคร ส.ส.หลายจังหวัด เริ่มใช้วิชามาร หว่านเงินซื้อเสียงกันอึกทึกครึกโครม
มีการอัปราคาตั้งแต่หัวละพันบาท ถึงหนึ่งพันห้าร้อยบาท ถึงสองพันบาท หรือถึงสามพันบาททีเดียว
เปิดฉากตั้งแต่แจกเงินจ้างชาวบ้าน ไปฟังการปราศรัย 200 บาทถึง 400 บาทต่อคน
จ่ายกันสดๆ มีคลิปแอบถ่ายเป็นหลักฐานชัดเจน
จ่ายค่าจ้างรถขนชาวบ้านฟังปราศรัย 1,500 บาทต่อเที่ยวต่อคัน
ใช้ผู้นำชุมชนระดมเก็บบัตรประชาชนในเขตเลือกตั้ง จ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า 500 บาทถึง 1,000 บาทต่อคน
แล้วคืนบัตรประชาชนก่อนถึงวันเลือกตั้ง เพื่อการันตีว่าจะได้คะแนนตรงกับจำนวนเงินซื้อเสียงที่จ่ายไป
จ่ายค่าปิดจ๊อบหลังเลือกตั้ง อีก 1,000 บาท หรือ 1,500 บาทต่อคน ตามบัญชีรายชื่อที่ผู้นำชุมชนไปรวบรวมมา
ส่วนผู้นำชุมชนที่เป็น “หัวจ่าย” ให้พรรคการเมือง จะได้ค่าจ้างทำบัญชีบวกเปอร์เซ็นต์ตามจำนวนบัตรประชาชนที่แต่ละคนรวบรวมมา
...
ช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มก่อนเลือกตั้ง 15 วัน มีการซื้อเสียงเลือกตั้งอย่างโจ๋งครึ่มเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐไม่วางตัวเป็นกลาง ใช้อิทธิพลข่มขู่บังคับชาวบ้านให้เลือกผู้สมัครบางคนมีหลักฐานร้องเรียน กกต.จำนวนมาก
แต่ กกต.ยังเงียบฉี่ไม่หือไม่อือ
“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่น กกต.ผู้รับผิดชอบจัดเลือกตั้งให้สุจริตโปร่งใสเป็นธรรม อย่าแกล้งทำเป็นไก่นาตาฟาง
อย่าเอาแต่นั่งเฉยเป็นก้อนดิน ปล่อยให้ซื้อเสียงเลือกตั้งกันโครมๆ
เหลืออีก 5 วัน จะถึงวันเลือกตั้งล่วงหน้า เหลืออีก 12 วันจะถึงวันเลือกตั้งจริง ขอกระชุ่นประธาน กกต.และ กกต.อีก 5 คน ต้องโชว์ฝีมือปราบทุจริตเลือกตั้งให้ถึงลูก ถึงคน
หายาแก้โรคเหน็บชามากินซะบ้างก็ดีนะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”