ไทยรัฐดีเบต สัญจรลงพื้นที่เชียงใหม่ ตัวแทน 7 พรรคการเมืองประชันวิสัยทัศน์และนโยบาย “วิโรจน์” ไม่หวั่น “พิธา” ถูกโจมตี ย้ำผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลอย่าเสียสมาธิ เพราะใกล้เข้าเส้นชัยแล้ว
วันที่ 28 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 17.30 น. ไทยรัฐดีเบต เลือกตั้ง’66 #เริ่มใหม่ไทยแลนด์ กับไทยรัฐ ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งที่ ดำเนินรายการโดย จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ซึ่งครั้งนี้จัดดีเบตประชันวิสัยทัศน์และนโยบายแบบสัญจรที่ จ.เชียงใหม่ อาทิ ปัญหาฝุ่น ค่าครองชีพ ปากท้องชาวบ้าน การศึกษา ยาเสพติด โดยผู้ที่จะเป็นตัวแทนดีเบตในครั้งมีทั้งมีทั้ง 7 พรรคการเมือง ประกอบด้วย
1. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
2. นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
3. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
4. นายสามารถ แก้วมีชัย ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย
5. นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ประจำภาคเหนือ
6. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
7. น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย
...
เริ่มจาก จอมขวัญ ถาม นายสามารถ ซึ่งวันนี้มาในนามพรรคภูมิใจไทย แตกต่างหรือไม่กับพรรคที่เคยอยู่มานานกับพรรคที่เพิ่งย้ายมา นายสามารถ ตอบว่า เป้าหมายเราทำพรรคการเมืองเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทุกพรรคมีเจตนาดีกับบ้านเมือง การจะไปอยู่ตรงไหน ถ้ามุ่งมั่นในเจตนาที่มี ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกัน จากนั้นถามไปยัง นพ.ชลน่าน ได้ระบุว่า ไม่แตกต่างกัน เพราะการต่อสู้ทางการเมืองขึ้นกับจังหวะ โอกาส และสถานการณ์ในขณะนั้น
ขณะที่เมื่อมาถึง นายชัยวุฒิ จอมขวัญได้แซวเล็กน้อยว่าพรรคพลังประชารัฐเหลือผู้พูดคนเดียวหรือไม่ เพราะไทยรัฐดีเบตครั้งแรกก็เป็นนายชัยวุฒิ ที่เป็นตัวแทนของพรรคมาร่วม นายชัยวุฒิ เผยว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐมีปราศรัยที่ จ.สงขลา แกนนำของพรรคจึงไปกันเยอะ ส่วนตัวเองได้ยกเลิกตั๋วเครื่องบินแล้วมาเชียงใหม่ เพื่อมาเจอ จอมขวัญ เมื่อถามต่อไปว่านี่เป็นการยืนยันว่าจะไม่มีทางได้เจอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค แน่นอนใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ ตอบว่า “อันนี้ผมไม่ทราบ เดี๋ยวขอถามอีกทีได้ไหม” จอมขวัญ จึงระบุว่าได้ถามไปหลายครั้งแล้ว นายชัยวุฒิ ตอบกลับพร้อมหัวเราะว่า “สัญญาณอาจจะไม่ชัดใช่ไหม”
ทางด้าน นายวิโรจน์ กล่าวว่า แม้จะโดนมาทุกครั้ง แต่ก็เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง สบายๆ ตนเองทำงานกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคมานาน ไม่เคยคลายความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนคนนี้ และเชื่อว่าเราทำงานด้วยความถูกต้องมาตลอด โดยบอกผู้สมัคร ส.ส. และผู้ช่วยหาเสียงทุกคนว่า “จงยืนหยัดต่อไป อย่าเสียสมาธิ เรากำลังจะเข้าเส้นชัยแล้ว” เมื่อพูดจบได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชม
ขณะที่ นายนราพัฒน์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคเหนือวันนี้ไม่ได้หนักกว่าที่ผ่านมา ครั้งนี้มั่นใจว่าได้เพิ่มขึ้น เพราะกระแสการตอบรับลงพื้นที่ ชาวบ้านเบื่อการทะเลาะ แต่สนใจเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายประกันรายได้ที่ตอบโจทย์เกษตรกร จึงมั่นใจว่าเที่ยวนี้จะได้เพิ่มขึ้นแน่นอน
น.ต.ศิธา กล่าวชี้แจงถึงคำว่า ใบหนึ่ง ใบหนึ่ง ไม่เคยพูดเลย ชอบพรรคไหนก็เลือกพรรคนั้น ไม่อยากแย่งคะแนนกันเองในพรรค เราจะสู้กับเผด็จการที่แฝงร่างในประชาธิปไตยคือตัวอันตราย พรรคพี่พรรคน้องก็ไม่ใช่ เลือกได้เต็มที่ แต่อยากให้เกาะกลุ่ม อย่าไปมองเรื่องฝ่ายนั้นมี ส.ว. 250 คน จะแบ่งมา ไม่ใช่ ขอให้ยึดมั่นและจับมือขุดรากถอนโคนเผด็จการออกไปให้หมด ไม่มายด์เรื่องคะแนน ซึ่งในช่วงนี้ นพ.ชลน่าน ขอปรบมือให้ น.ต.ศิธา ระบุต่อไปว่า ทุกพรรคตอนนี้เป็นประชาธิปไตย
จากนั้น เสธ.หิ เห็นด้วยว่าทุกพรรคเป็นประชาธิปไตย รวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติก็จดทะเบียนในกติกาเดียวกัน วิธีการหาเสียง หัวหน้าพรรคก็อยู่ในวงการเมืองมานาน วิถีทางคือประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพรวมไทยสร้างชาติ 4 ปีที่แล้วก็มาทางประชาธิปไตยเหมือนกัน มาตามกติกา ไม่ได้ใช้กติกาเฉพาะตัว ลงสมัครเหมือนกันกับทุกพรรค
เมื่อ จอมขวัญ ขอนโยบายเดียวจากทุกพรรค นายชัยวุฒิ ระบุเรื่องที่ดินทำกิน, นายสามารถ เรื่องวิกฤติหมอกควัน มลภาวะ, เสธ.หิ สาธารณูปโภค, นพ.ชลน่าน การกระตุ้นเศรษฐกิจ, น.ต.ศิธา การบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล, นายนราพัฒน์ ประกันรายได้, นายวิโรจน์ เรื่องค่าไฟแพง ซึ่งในช่วงต่อไป จอมขวัญ จะเข้าสู่ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้แต่ละพรรคได้ดีเบตกัน