นายกฯ ขอช่วยกันทำงานต่อ แม้เป็นรัฐบาลรักษาการ ถือเป็นหน้าที่ เผย รัฐบาลเตรียมยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศไว้แล้ว ยัน ไม่เพื่อนักธุรกิจ คนรวย บอกไม่ใช่คนแบบนั้น ชี้ผลเลือกตั้ง อยู่ที่ประชาชน เมินโพลหลัง "ลุงป้อม" มาอันดับ 1 ส่วนตัวยันไม่ขัดแย้งกับใคร 

เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ตนได้ขอบคุณทุกกระทรวงที่ได้ร่วมกันทำงาน แม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการ แต่ตนได้เน้นย้ำว่า เป็นหน้าที่ของพวกเรา ไม่ว่าจะมีอะไรก็ตาม ช่วยกันทำงานกันต่อไป ในนามของรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเรายังต้องทำหน้าที่ของเราอยู่ แล้วก็รอผลการเลือกตั้ง ค่อยว่ากันอีกทีว่า จะมีรัฐบาลใหม่ เมื่อไร อย่างไร แต่วันนี้เราหยุดงานไม่ได้ แม้วันนี้จะมีการลากันบ้าง แม้ไม่อยู่ในที่ประชุม ครม.ก็ต้องทราบเรื่อง เพราะมีการแจกจ่ายเอกสารกันไปแล้ว ก็ขอให้ทุกกระทรวงช่วยกันติดตาม ทั้งภาระหน้าที่ของตัวเอง และการบูรณาการงานร่วมกัน ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน เพราะนี่คือประเทศไทยของเรา วันนี้ต้องฝากขอบคุณกำลังพลและประชาชน ที่ร่วมมือกับรัฐบาล ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือ และขอความเข้าใจ ไม่มีอะไรที่จะทำได้ด้วยเพียงฝ่ายเดียว ก็ขอให้เห็นใจกันบ้าง ทุกอย่างก็เต็มที่กันอยู่แล้ว รัฐบาลก็พยายามทำเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด

...

นายกฯ กล่าวว่า ประเด็นในเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน แม้จะมีคดีมากขึ้น แต่ต้องดูว่าทำไมก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมี ก็เพราะปัจจุบันมีการแจ้งเบาะแสมากขึ้น มีคนได้รับผลกระทบมากขึ้น จึงมีการร้องเรียนเข้ามา จึงได้นำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ แต่ไม่ใช่หมายความว่า ไม่มีคดีแล้วไม่มีการทุจริต คงไม่ใช่ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยปล่อยปละละเลย ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้าทุกฝ่ายไม่ร่วมมือกัน ไม่แจ้งเบาะแสก็คงลำบาก เพราะหลายอย่างเป็นเรื่องของการสมยอม ก็ต้องช่วยกันแจ้ง และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยันไม่ปกปิดให้ใครทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังตัวเอง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตนได้ย้ำใน ครม.ตลอด และที่ปรากฏเป็นข่าวมากขึ้น ก็เพราะรัฐบาลเอาจริงเอาจัง ประเทศเราจะดีขึ้นมาได้ ด้วยคนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย รักและสามัคคีกัน และทำในส่ิงที่เป็นประโยชน์ อะไรที่เป็นความขัดแย้งก็ต้องเบาๆ ลงบ้าง เพราะบางทีก็ขัดแย้งกันในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ในเรื่องที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ก็ขอเปิดใจให้กว้าง ไม่ได้หมายความว่า ที่ผ่านมาเราทำเก่ง เรายอดเยี่ยม ตนไม่เคยคุยโม้โอ้อวดแบบนั้น ตนพูดแต่เพียงว่า อย่าให้ตื่นตระหนก เพราะภาพใหญ่ในมหภาคเราเร่ิมดีขึ้น เหลือแต่แค่จุลภาค และฐานรากของเราที่ต้องทำให้ดีขึ้น การทำอะไรจะต้องไม่มีผลส่งต่อไปในอนาคตในทางที่ไม่ดี ช่วงนี้ขอให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัยก็แล้วกัน ทำให้บ้านเมืองมีความสุข อย่างเช่นช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า ผลสำรวจดุสิตโพล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาอันดับ 1 เป็นนายกฯ ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็โอเค ก็ฟังกันไป ดูกันไป แต่ก็เปลี่ยนกันทุกวันสำหรับผลโพล เรื่องก้าวข้ามความขัดแย้งก็ว่ากันไปเถอะ มันอยู่ที่พวกเราว่ามองว่ามันขัดแย้งกันหรือเปล่า หรือไม่มีความขัดแย้ง พวกเราก็ดูกันเอาเอง อย่างน้อยตรงนี้ ตนก็ไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร ตนไม่เคยขัดแย้งกับสื่อ ตนไม่เคยขัดแย้งกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพียงแต่ว่าเมื่อเขาทำผิดกฎหมาย ก็ต้องทำตามกติกาเท่านั้นเอง นี่คือประชาธิปไตยไม่ใช่เหรอ ทุกประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ต่างก็มีกฎหมายเป็นของตัวเอง ประเทศไหนไม่มีบ้างล่ะ แล้วประเทศไหนที่ไม่ใช้กำลัง กรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น มีหรือไม่ ของเราถือว่าเบาที่สุดแล้ว และไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ระมัดระวังกันอย่างที่สุด ก็ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่กันบ้าง อันตรายเกิดขึ้น เขามีครอบครัว มีลูก มีเมีย ทุกอย่างเราต้องช่วยกันปรับพฤติกรรมทั้งหมด

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ตนก็เตือนอยู่เสมอว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส สุจริต และเป็นธรรม ขอให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ใครผิดก็ว่าไปตามผิด และต้องถูกลงโทษเท่านั้นเอง ประเทศมันถึงจะอยู่กันได้ เพราะอยู่ด้วยคนหลายกลุ่มหลายฝ่าย ถ้าเราเกลียดกันไปมา ไม่ไว้ใจกัน ประเทศก็ไปไม่ได้อยู่ดี ถ้าขัดแย้งกันอยู่แบบนี้ ทั้งๆ ที่เรามีโอกาส มีศักยภาพมากมาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการหาเสียงก็ว่ากันไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน แต่ก็ขอให้ดูด้วยว่า ประเทศไทยวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน หลายคนอาจจะไม่สังเกต บางคนสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ก็ไม่รู้ตัว บางคนเกิดไม่ทันว่าก่อนนี้เราลำบากแค่ไหน มีถนน มีรถไฟฟ้าแบบนี้หรือเปล่า บางคนลืมสังเกต อยากจะได้อะไรที่ดีกว่าเดิม ซึ่งรัฐบาลนี้เตรียมยุทธศาสตร์ไว้หมดแล้ว จะเดินอย่างไรสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ใครเป็นพิเศษ ไม่ใช่ทำเพื่อนักธุรกิจ หรือคนรวย ตนไม่ใช่คนแบบนี้อยู่แล้ว.