"เศรษฐา" ขึ้นเวทีปราศรัยร้อยเอ็ด ย้ำ เพื่อไทย เป็นรัฐบาล สินค้าเกษตรเพิ่ม 3 เท่า ขอ 14 พ.ค. กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ อย่าปันใจให้ใคร ด้าน 'ชญาภา' ขออย่าสับสน "สินธุไพร" ทายาท "นิสิต" ไม่เคยย้ายพรรค-ไม่ยอมเป็นนั่งร้านเผด็จการ

วันที่ 18 เม.ย. เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนจันทรุเบกษา อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย น.ส.ลิณธิภรณ์ วรัณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษก พรรคเพื่อไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรค นสพ.ชัย วัชรงค์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายอดิศร เพียงเกษ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายศักดา คงเพชร เขต 7 เบอร์ 7 นายกิตติ สมทรัพย์ เขต 6 เบอร์ 5 น.ส.จิราพร สินธุไพร เขต 5 เบอร์ 3 และ น.ส.ชญาภา สินธุไพร เขต 8 เบอร์ 4 โดยมีประชาชนร่วมฟังปราศรัยกว่า 5,000 คน

...

น.ส.ชญาภา กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หลายท่านได้ยิน นามสกุล ‘สินธุไพร’ ก็ยังสับสนสงสัย กราบเรียนทุกท่านว่า สินธุไพร ที่มี พ่อนิสิต-แม่เอมอร และ พี่น้ำ จิราพร สินธุไพร อยู่กับ พรรคเพื่อไทย ไม่เคยย้ายพรรคหนีไปไหน และที่สำคัญอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย อยู่กับพรรคเพื่อไทยมาตลอด ไม่เคยรับใช้ หรือเป็นนั่งร้านให้กับฝ่ายเผด็จการแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ทั้งนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดคือพื้นที่ประชาธิปไตย คือเกียรติภูมิ คือฐานที่มั่นของฝ่ายประชาธิปไตยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในการเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ร้อยเอ็ด เดือนกันยายน ปลายปีที่ผ่านมา พี่น้องได้สร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองของชาวร้อยเอ็ด ด้วยการปักธงประชาธิปไตยไว้ที่จังหวัดร้อยเอ็ด เทคะเเนน เลือกเอานายก อบจ.จากพรรคเพื่อไทย ด้วยคะเเนนชนะแบบถล่มทลาย ได้นายก อบจ. ‘ร้อยเอ็ดแลนด์สไลด์’ ไปรับใช้พี่น้องชาวร้อยเอ็ด

น.ส.ชญาภา กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ค.นี้ พี่น้องผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ จะได้ใช้ 1 สิทธิ 1 เสียง ในการกำหนดชี้ชนะอนาคตของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง จะเป็นการทวงคืนโอกาส ทวงคืนศักดิ์ศรีกว่าเกือบ 1 ทศวรรษที่สูญหาย ให้ประเทศไทยได้กลับมามีที่ยืนบนเวทีโลกอย่างสง่างามอีกครั้ง โดยการนำของรัฐบาล พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ถือธงนำฝ่ายประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่มีศักยภาพในการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จและเป็นรูปธรรม และจะนำการเมืองไทยออกจากระบอบประยุทธ์ได้ พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายยุทธศาสตร์ เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน และต้องมีเสียงในสภาเกินกว่าครึ่ง เพื่อไปสู้กับ ส.ส. 250 ที่มาจากการแต่งตั้ง เอาลุงออกไป และเอาเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า วันนี้ชื่นใจที่ได้เดินทางมาจังหวัดร้อยเอ็ด ตนรับทราบได้ถึงสายตาที่เป็นมิตร รอยยิ้ม และความจริงใจที่มีให้กับตนและคณะ ตอนนี้รู้แล้วว่า ทำไมคณะทำงานจาก กทม.อยากเดินทางมาเยือนจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งนี้ ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ เวทีแรกที่ตนมาก็คือเวทีจังหวัดร้อยเอ็ดนี้ ตนรู้ว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนรายได้ตกต่ำ อากาศไม่บริสุทธิ์ ยาเสพติดระบาดทุกหัวระแหง แต่พรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งกลับมีนโยบายกัญชาเสรี แต่เพื่อไทยยืนยัน เราสนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเดียว

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ค้นพบข้าวพันธุ์ทุ่งกุลาร้องไห้ จดทะเบียนเป็นของคนไทย สร้างรายได้มากมาย แต่กลับไม่มีใครสานต่อตรงนี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เรายืนยันสินค้าเกษตรจะราคาสูงขึ้น 3 เท่า และเราจะใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยในการเพิ่มผลผลิตให้พี่น้อง และเราพรรคเพื่อไทยจะออกไปเปิดตลาดใหม่ๆ ให้พี่น้อง นอกจากนี้เรายังมีนโยบายเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล คนละ 10,000 บาท เพื่อให้พี่น้องประชาชนเอาไปจับจ่ายใช้สอย ในระยะทาง 4 กิโลเมตร นับจากที่อยู่ตามบัตรประชาชน และต้องใช้ภายใน 6 เดือน ผลประโยชน์นี้ไม่ได้ตกอยู่แค่กับพี่น้องที่ได้เงินในบัตรเท่านั้น แต่คนค้าขาย คนที่มีสินค้าต่างๆ จะได้ประโยชน์ไปด้วย นี่ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ทั้งระบบ ดังนั้น ขอให้พี่น้องชาวร้อยเอ็ดทุกคนออกไปใช้เสียงในวันที่ 14 พ.ค. ให้ถล่มทลาย เข้าคูหา กาเพื่อไทย ให้ถล่มทลายทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคนทั้งพรรค ไม่ปันใจให้ใคร ไม่มีพรรคพี่ ไม่มีพรรคน้อง เราจะกลับมามีความเจริญรุ่งเรื่องอีกครั้ง.