“อนุทิน” โว โพลตัวเองแม่นสุด ไม่ปฏิเสธหากภูมิใจไทยคว้าที่นั่ง ส.ส.ได้เลข 3 หลัก ตอกกลับโพล หากได้ที่นั่งในสภาแค่ร้อยละ 3 พร้อมหยุดทุกอย่างทางการเมือง เมิน “ชูวิทย์” ค้านนโยบาย
วันที่ 17 เมษายน 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถึงกรณีผลโพลจากสำนักต่างๆ ออกมาในช่วงนี้ ว่า เราดูหลายๆ โพล มีความมั่นใจในความนิยมของพรรคภูมิใจไทย แต่ก็ไม่ได้มองข้าม ส่วนการเคลื่อนไหวของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาคัดค้านนโยบายต่างๆ ของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อพรรค กลับทำให้ความแข็งแรงของผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพราะก่อนเกิดกรณี นายชูวิทย์ เราคาดว่าจะได้ ส.ส.จำนวนหนึ่ง แต่พอมีเรื่อง นายชูวิทย์ ขึ้นมา ก็คิดว่าจะได้ ส.ส.เพิ่มมากขึ้น
จากนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชูวิทย์ ลงไปในพื้นที่เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย ต้องกำชับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องกำชับอะไร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเกือบ 400 คน วันนี้ยังไม่มีใครเดินมาหาตนแล้วแจ้งว่า มีปัญหา และไม่พูดถึงนายชูวิทย์ เราก็ถือว่าดีแล้ว

...
“ไม่มีโพลไหนสู้โพลของผมได้หรอก ผมเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ทำโพลของตัวเอง เชื่อไหมว่าตรงเป๊ะที่สุดเลย อย่างคราวที่แล้วผมคาดว่าจะได้ ส.ส. 52 คน แต่เข้ามาได้ 51 คน อย่างในสมัยที่ตัวเองยังเด็กๆ อยู่ คิดว่าจะได้ ส.ส.เข้ามา 22 คน ก็เข้ามา 22 คน ผมเชื่อตัวเอง”
ส่วนคำถามว่า โพลนายอนุทินจะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส.ถึง 3 หลักหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ไม่ขอปฏิเสธ จะขอทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แต่จะมองข้ามประชาชนไม่ได้ เพราะเขาเป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อถามต่อไปถึงกรณีที่หลายโพลบอกว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้ลำดับ 2 ตรงกับโพลนายอนุทินหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบว่า โพลของตนต้องเก็บไว้ในใจ มีหลักการคำนวณของตัวเอง แต่ไม่สามารถมาพูดตัวเลขอะไรออกมาได้ ต้องเกรงใจประชาชน ขณะเดียวกันหากผลออกมาแบบบางโพลที่บอกว่า พรรคภูมิใจไทยได้ร้อยละ 3 ก็เท่ากับ 12 คน เราก็ต้องมาดูว่าได้เพียง 12 คนเองหรือ ฝ่ายตรงข้ามก็ดีใจกันใหญ่เลย พรรคภูมิใจไทยได้ร้อยละ 3 ถ้าได้ 12 คนจริง ก็ถือเป็นเรื่องดี จะได้ไม่ต้องเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ก็ต้องตัดสินใจหยุดทุกอย่างในทางการเมือง

ขณะที่กรณีมีนักวิชาการกำหนดว่า พรรคภูมิใจไทยจะเป็นตัวแปร หรือเป็นผู้กำหนดโฉมหน้ารัฐบาลนั้น นายอนุทิน มองว่า ขึ้นอยู่กับจำนวน ส.ส.ที่ประชาชนจะมอบให้ คงต้องรอให้ถึงคืนวันที่ 14 พฤษภาคม ค่อยมาตอบคำถามนี้ เมื่อถามต่อไปถึงเรื่องที่มีการวิเคราะห์กันว่า พรรคภูมิใจไทยอย่างไรก็เป็นรัฐบาลในรอบนี้ นายอนุทิน เผยว่า อย่าเพิ่งไปคาดหวังตรงนั้น ตอนนี้เป้าหมายแรกคือสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน เพื่อให้ได้ ส.ส.เข้าสภาตามที่เราตั้งเป้าไว้ เมื่อถึงเวลาเห็นผลแล้ว เหลือแค่ว่าเราจะวิ่งตามเขา หรือเขาต้องวิ่งตามเรา การเมืองแค่นี้เอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะมีการจัดปราศรัยใหญ่ช่วงโค้งสุดท้ายหรือไม่ นายอนุทิน ให้คำตอบว่า ขณะนี้ทุกคนรวมทั้งผู้บริหารพรรค ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่ กทม.เวทีใหญ่คงไม่มี แต่เราจะลงพื้นที่และจัดเวทีย่อยให้ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด เพราะพื้นที่ กทม.กระจัดกระจาย บางครั้งการจัดเวทีใหญ่ไม่ได้ทำให้ใกล้ชิดประชาชน.