“เศรษฐา” ลุยหาเสียง บ้านโป่ง ขอเลือกเพื่อไทย ทั้งบัตรสีม่วงและสีเขียว เจอแม่ค้าวิ่งตามขอจับมือ ชมตัวจริงหล่อกว่าในทีวี ย้ำ นโยบายเงินดิจิทัล คนละหมื่น กระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ ไม่ได้หยอดน้ำข้ามต้มเหมือนพรรคอื่น

วันที่15 เม.ย. 2566 พรรคเพื่อไทยลุยหาเสียงวันที่ 4 ให้กับผู้สมัคร ส.ส. อำเภอบ้านโป่งจังหวัดราชบุรี นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทักทายประชาชนที่ตลาดสดเทศบาลอำเภอบ้านโป่ง พร้อมผู้สมัคร เขต 4 น.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร

...
นายเศรษฐา ฝากคนบ้านโป่ง ให้เลือก หมายเลข 7 ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยส่วนบัตรสีเขียว ให้กาหมายเลข 29 จะได้คนของเพื่อไทยเข้ามาทำงาน บรรยากาศระหว่างที่เดินในตลาด แม่ค้าได้ขอรดน้ำนายเศรษฐาในวันสงกรานต์

ขณะที่แม่ค้าขายของในตลาด เดินเข้ามาหานายเศรษฐา โดยบอกว่า “ขอจับมือคนรวยหน่อย จะได้รวยเหมือนนายเศรษฐา” ซึ่งนายเศรษฐา ได้ตอบกลับว่า ถ้าเลือกเศรษฐาแล้วจะได้เป็นเศรษฐี ขอฝากหมายเลข 29 พรรคเพื่อไทยในวันที่ 14 พฤษภาคม ด้วย ส่วนแม่ค้าขายเสื้อลายดอก ขอรดน้ำอวยพรวันสงกรานต์ และบอกว่า “หล่ออะไรแบบนี้ แพ้ความหล่อ “ ชมนายเศรษฐาตัวจริงหนุ่มกว่าที่เห็นในทีวี นายเศรษฐาได้ฝากให้เลือกพรรคเพื่อไทยพร้อมกันนี้มีเสียงเชียร์จากคนในตลาดให้ได้เป็นนายกฯ

จากนั้น นายเศรษฐาได้ไปปราศรัยและพูดคุยกับประชาชนที่หอประชุมบ้านโป่งอารีน่า ทันทีที่นายเศรษฐามาถึง ประชาชนได้เข้าคล้องพวงมาลัยดอกมะลิและดอกดาวเรืองให้ พร้อมกับให้ผู้สูงอายุรดน้ำขอพร เนื่องในวันสงกรานต์
นายเศรษฐา กล่าวกับประชาชนในหอประชุม ช่วงสงกรานต์ยังทำงานหนักเดินต้องสายพบปะกับประชาชนหลายจังหวัด ไม่ถามประชาชนว่า 8 ปี พอหรือยัง แต่จะบอกว่า 8 ปีนี่ผ่านมาทุกคนทำงานหนัก ทุกคนยังอยู่ที่เดิม พรรคเพื่อไทย เสนอให้สมัครใจเกณฑ์ทหาร เข้าใจว่า จังหวัดราชบุรี เป็นเขตทหาร และทหารเป็นสถาบันอันทรงเกียรติและพึ่งได้ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะเลือกประกอบอาชีพใดๆ รวมถึงทหารถือเป็นสิทธิ์ที่เพิ่งจะทำได้ และจะไปกล่าวหาว่า ใครชังชาติ ก็คงจะทำไม่ได้ ทุกอาชีพล้วนมีความสำคัญเช่นเดียวกับอาชีพทหาร พรรคเพื่อไทย จึงเสนอให้สมัครใจที่จะไปเป็นทหารโดยไม่ต้องยกเลิก

ส่วนเศรษฐกิจ ปีที่ผ่านมาโตแค่ 2.7 ต่ำกว่าเป้าถึง 2.5 ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านจนหน้าอับอาย บวกกับมีผู้นำ ที่ไม่หาตลาดสินค้าใหม่ให้เกษตรกร หรืออาจเพราะเขาไม่เก่งที่จะพูดภาษาอังกฤษ แต่ไม่เป็นไร เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แคนดิเดตนายกฯ ทั้งสามคน ตกลงกันแล้วว่า จะช่วยและแบ่งกันทำงาน จะทำให้ราคาพืชผลการเกษตกรได้ไปสู่ตลาดใหม่และมีราคาสูง
นายเศรษฐา ยังย้ำถึงนโยบายกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล ที่พรรคเพื่อไทยจะให้กับประชาชนคนละ 10,000 บาท ตั้งแต่คนอายุ 16 ปีขึ้นไป จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะเร่งด่วนไม่ได้ทำอีกให้แบบหยอดน้ำข้าวต้ม เหมือนพรรคการเมืองอื่น นโยบายที่พูดมาทั้งหมดจะทำไม่ได้เลย หากประชาชนไม่เลือกทั้งคนทั้งพรรคเพื่อไทยในวันที่ 14 พฤษภาคม จึงขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์