"ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ยัน ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ไม่มีเอี่ยว ปม หัวหน้าฝ่ายรายได้เขตราชเทวี เรียกรับสินบน 3.2 ล้านบาท คาดเป็นที่ปรึกษาฯ ของคนอื่น แต่หากพบมีเอี่ยวจริง ยินดีให้ตรวจสอบ
วันที่ 12 เม.ย. 2566 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่หัวหน้าฝ่ายรายได้ เขตราชเทวี เรียกรับสินบน 3.2 ล้าน ว่า เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกเจ้าหน้าที่เขตราชเทวี 11 คน มาสอบปากคำ เพื่อเร่งส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ป.ป.ช. ว่า จะกันใครเป็นพยานบ้าง ช่วงนี้ถือเป็นช่วงนาทีทอง หากให้ข้อมูลถูกต้องและเป็นข้อเท็จจริงอาจถูกกันไว้เป็นพยาน หากปกปิดไม่ให้ความร่วมมือ อาจจะตกเป็นผู้ต้องหา เป็นโอกาสที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า กทม. ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ เพื่อขยายผลหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เราไม่ยินยอมกับเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนในสมุดจดบันทึกของผู้กระทำผิดมีปรากฏคำว่า "ที่ปรึกษา" ไม่ทราบว่าเป็นที่ปรึกษาของเจ้าหน้าที่หรือไม่ เท่าที่ทราบคงไม่ใช่ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะเมื่อทราบเรื่องดังกล่าว ที่ปรึกษาฯ ทุกคนให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่หากโยงไปถึงใครจะดำเนินการทั้งหมด มั่นใจว่าไม่มีส่วน เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นข้อดีที่ทำให้เราดำเนินการเรื่องต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตามคงต้องไปสืบอีกทีว่า เป็นที่ปรึกษาใคร หากสืบแล้วว่าเป็นหนึ่งใน 19 คนของคณะที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คงต้องว่าไปตามกฎหมาย นายชัชชาติ ย้ำว่า ไม่มีข้อมูลเกี่ยวข้อง น่าจะเป็นที่ปรึกษาของคนที่ทำผิดมากกว่า แต่พร้อมที่จะให้ตรวจสอบอย่างโปร่งใส หากตรวจสอบคนอื่นได้ตนเองก็ต้องตรวจสอบได้เช่นกัน
...
ด้านนายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร ระบุว่า หัวหน้าฝ่ายรายได้ มีการจดบันทึกอย่างละเอียด ทั้งนี้ ในฝ่ายรายได้ เขตราชเทวี มีเจ้าหน้าที่ 14 อัตรา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกข้าราชการ 11 ตำแหน่ง เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน รวมถึงผู้อำนวยการเขตราชเทวีด้วย