เลือกตั้ง 2566 : ซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจ นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ มีความแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มและฐานของผู้นำการเมือง พบ ปัญหาความเดือดร้อนเป็นอันดับแรกที่มีผลต่อการตัดสินใจ

วันที่ 9 เม.ย. 2566 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,850 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-9 เมษายน 2566 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 โดยมีสิ่งที่น่าพิจารณาคือ 5 อันดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน พบว่า

อันดับ 1 หรือ ร้อยละ 57.2 ได้แก่ ปัญหาเดือดร้อนที่ประชาชนกำลังเจอ
อันดับที่ 2 หรือร้อยละ 52.5 ได้แก่ นโยบายที่พรรคการเมืองเสนอและทำได้จริง
อันดับที่ 3 หรือร้อยละ 44.1 ได้แก่ ผู้นำการเมือง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
อันดับที่ 4 หรือ ร้อยละ 40.3 ได้แก่ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง
อันดับที่ 5 หรือ ร้อยละ 38.0 ได้แก่ พรรคการเมือง

ที่น่าสนใจในผลสำรวจนี้ คือ นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการในมิติต่างๆ พบว่า

...

  • นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ใจกลุ่มคนที่ชอบนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ร้อยละ 78.6
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีประสบการณ์แก้ปัญหาธุรกิจ วิกฤติเศรษฐกิจได้ ร้อยละ 73.8
  • นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่ซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 73.2
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่จิตใจดีไม่เป็นเหตุขัดแย้ง ร้อยละ 67.2
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังได้ใจกลุ่ม อสม. คนที่เห็นผลงานแก้วิกฤติโควิด-19 นโยบายสุขภาพ ร้อยละ 62.3
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่เป็นตัวของตัวเอง ร้อยละ 59.2
  • นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ร้อยละ 52.4
  • พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองจากภาพจำในอดีต ร้อยละ 50.0
  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่อายุไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ร้อยละ 47.7

ขณะเดียวกัน รายงานของซูเปอร์โพล ยังระบุด้วยว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นความต้องการของประชาชนที่มีต่อผู้นำการเมืองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมีความหลากหลายแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มและฐานของผู้นำการเมืองแต่ละคน การตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนให้ตรงกลุ่มเป้าหมายตรงเป้าครอบคลุมทั้งความต้องการและพื้นที่จึงเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนวันเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยเฉพาะผลงานและประสบการณ์ที่จับต้องได้ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนมาเป็นอันดับแรกในสิ่งที่ค้นพบในการสำรวจครั้งนี้.