“สนธิรัตน์” ยก “บิ๊กป้อม” มากบารมี เรียกทุกคนคุยได้ หนึ่งเดียวเหมาะนั่งนายกฯ ไร้สีเสื้อ ความขัดแย้ง ด้าน “นฤมล” อ้อนชาวสมุทรสาคร เลือกผู้สมัคร พปชร.ปักธงทั้ง 3 เขต
วันที่ 8 เม.ย. 2566 ที่วัดยกกระบัตร ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร พรรคพลังประชารัฐ ได้ปราศรัยหาเสียงแนะนำ 3 ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร นายวัฒนา แตงมณี เขต 1 น.ส.ปัณฑารีย์ มั่งมี เขต 2 และ น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ เขต 3 และนายภัฎ สุริวงษ์ ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ โดยมีแกนนำพรรค เช่น นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานภาคเหนือ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองพรรค ร่วมขึ้นปราศรัย โดยมีประชาชนมาเต็มพื้นที่
โดยนายสนธิรัตน์ ขึ้นปราศรัยเป็นคนแรกตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเทศไทย ต้องมีนายกฯ ที่มีบารมี เข้ากับทุกคนได้ ต้องเป็นนายกฯที่เรียกทุกฝ่ายมาคุยกันได้ เป็นคนที่เป็นนายกฯ แล้วคนไทยรักกัน ไม่ทะเลาะกันทั้งประเทศ กีฬาสี เสื้อสีไม่เอาแล้ว แต่ต้องเป็นนายกฯ ที่มีบารมีในทุกๆ ด้าน เพราะหากวันนี้เรามีนายกฯ ที่เป็นคนละข้างเดี๋ยวมันก็สู้กันอีก ดังนั้น นายกฯ ที่ดีต้องมีคุณสมบัติ ต่อไปนี้ 1. มีบารมีสูงที่สุดในวงการการเมือง คุยกับทุกฝ่ายได้ และเป็นคนที่ถูกยอมรับว่า มีบารมีมากที่สุด 2. เป็นนายกฯ ที่รวบรวมคนดีและคนเก่งเข้ามาได้มากที่สุด จะเห็นได้ว่าพรรคพลังประชารัฐมีรัฐมนตรี 7-8 คน อยู่ในพรรคเดียว 3. ต้องเป็นนายกฯ ที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาอย่างยาวนาน และ 4. ต้องเป็นนายกฯ ที่ต้องรวบรวมคนเก่งให้ได้มากที่สุดมาอยู่ในพรรค วันนี้พรรคพลังประชารัฐมีขุนพลด้านเศรษฐกิจที่ดีที่สุด เข้ามาร่วมงาน ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้ มีแค่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว ดังนั้นด้วยเหตุผลที่พูดมาทั้งหมดนี้ คนที่พร้อมเป็นนายกฯ คนที่พรรคพลังประชารัฐภูมิใจเสนอ ก็คือพล.อ.ประวิตร
...
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐ มาเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ จ.สมุทรสาครด้วยเหตุผล 3 เหตุผลสำคัญ โดยทีมนโยบายเศรษฐกิจของพรรคให้ความสำคัญ ต่อจังหวัดสมุทรสาครเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เราทราบดีการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทย จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน จึงเห็นว่า จ.สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีเป้าหมายสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย เพราะ GDP เฉพาะจ.สมุทรสาคร มีมูลค่า 4 แสนกว่าล้านบาท นับเป็นอันดับที่ 6 ในบรรดา 77 จังหวัด ของประเทศไทย และเป็น 2.5% ของเศรษฐกิจประเทศไทย
ทั้งนี้เศรษฐกิจ จ.สมุทรสาคร มีทั้งประมง สวนผลไม้ บ่อกุ้ง บ่อปลา มีเศรษฐกิจที่หลากหลาย ทั้งหมดนี้มีส่วนสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะการฟื้นฟูเศรษฐกิจจะดูเฉพาะกรุงเทพฯ ไม่ได้ หากจะฟื้นฟู จ.สมุทรสาคร ก็จะฟื้นฟูแต่ จ.สมุทรสาครไม่ได้ เพราะ จ.สมุทรสาคร ติดกับกรุงเทพฯ จ.ราชบุรี โดยวันจันทร์นี้ พรรคพลังประชารัฐจะไปปราศรัยที่จ.นครปฐม
พรรคพลังประชารัฐ มีผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 3 ท่าน เติบโตมาจากท้องถิ่น ดังนั้นผู้สมัครทั้ง 3 ท่านจะต้องปักธงในพื้นที่นี้ให้ได้ จึงขอประชาชนกาเลือกผู้แทนจากพรรคพลังประชารัฐเข้าสภาฯ ให้ได้ ทั้ง 3 เขต ซึ่งนโยบายไม่ได้ทำจากห้องแอร์ แต่มาจากตัวแทนที่พรรคเลือกแล้ว และจะถูกนำไปผลักดันขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นจริง ขอให้พี่น้องเลือกเบอร์ 1 ทั้ง 3 เขต และเลือกลุงป้อม บัตรพรรคหมายเลข 37