วันสุดท้ายรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งเขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเล็ก ส่งคนดังลงสมัครปิดท้าย "ภิญโญ รู้ธรรม" พรรคเปลี่ยนอนาคต "ครูปรีชา" พรรคประชากรไทย พรรคเส้นด้าย ส่วนพรรคสุดท้ายที่ลงสมัคร คือ "ไทยสมาร์ท" รวม 67 พรรค  

วันที่ 7 เม.ย. 66 ที่อาคารไอยราวัฒพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ในวันสุดท้าย มีพรรคการเมืองขนาดเล็ก เช่น พรรคเปลี่ยนอนาคต นำโดย นายภิญโญ รู้ธรรม อดีตผู้กำกับและนักแสดงชื่อดัง ในฐานะผู้อำนวยการพรรคเปลี่ยนอนาคต เดินทางมาพร้อมกับ ผศ.ดร.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ หัวหน้าพรรค และนายปรีดา ลิ้มนันทกุล เลขาธิการมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ ได้หมายเลขพรรคระบบบัญชีรายชื่อหมายเลข 65 ซึ่งพรรคนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการอาสา “ทวงสิทธิคนพิการ”

นายภิญโญ ผู้อำนวยการพรรคเปลี่ยนอนาคต เปิดเผยว่า เดิมไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ได้รับการชักชวนจาก คุณอัครนันท์ ให้รู้จักอาจารย์ปรีดา ได้ชักชวนตั้งชมรมจิตอาเปลี่ยนอนาคตคนพิการขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระอาจารย์ปรีดา เพราะการช่วยเหลือคนพิการมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก มีหลายขั้นตอนและหลายหน่วยงาน กล่าวคือ คนพิการที่ไม่เห็นความพิการทางร่างกาย ต้องไปพบแพทย์ให้ตรวจประเมินความพิการ จากนั้นต้องไปอำเภอเพื่อทำบัตรคนพิการ เมื่อได้บัตรแล้วจึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงิน 800 บาท ตามที่กฎหมายเขียนไว้ การลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนคนพิการตามต่างจังหวัดหลายจังหวัด พบว่าหลายครอบครัวฐานะยากจน มีภาระหนี้สิน การจะเดินทางไปพบแพทย์ ไปอำเภอทำได้ลำบาก เมื่อพบเห็นมากก็เกิดความคิดว่าจะทำอย่างไรให้ช่วยเหลือคนพิการและครอบครัวได้มากขึ้น จนหัวหน้าพรรคชักชวนให้มาร่วมพรรคเพื่อขับเคลื่อนงานในระดับนโยบายของประเทศ จึงตัดสินใจมาร่วมทำงานกับพรรคโดยมีเป้าหมาย “ทวงสิทธิคนพิการ” รวมทั้งแก้ปัญหาหนี้สินอีกประการหนึ่งด้วย

...

ด้านนายปรีดา เลขาธิการมูลนิธิปัญพัฒน์ เปิดเผยว่า ที่สนับสนุนพรรคเปลี่ยนอนาคต เนื่องจากก่อนที่จะเป็นพรรคเปลี่ยนอนาคต สมาชิกพรรคเป็นจิตอาสาชมรมเปลี่ยนอนาคตคนพิการ คอยช่วยเหลือคนพิการที่เข้าไม่ถึงสิทธิจำนวนมาก ตามสถิติประเทศไทยมีคนพิการ 4.5 ล้านคน แต่มีคนพิการขึ้นทะเบียนเพียง 2.1 ล้านคน ที่มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพคนพิการ 800-1,000 บาท และแม้จะได้สิทธิขึ้นพื้นฐาน แต่ยังไม่รับทราบว่าคนพิการและครอบครัวมีสิทธิอีกหลายประการที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมสนับสนุนคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งมีกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการเช่นกู้เงินประกอบอาชีพได้สูงสุด 1 แสนบาทโดยไม่เสียดอกเบี้ย, เงินปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมรายละ 40,000 บาท เมื่อไม่รู้ว่ามีสิทธิจึงกลายเป็นช่องโหว่ให้บุคคล กลุ่มบุคคล นำสิทธิคนพิการไปหาผลประโยชน์

ผศ.ดร.อัครนันท์ หัวหน้าพรรคฯ เปิดเผยว่า ผู้ที่มาร่วมอุดมการณ์กับพรรคไม่ใช่นายทุน แต่เป็นการรวมตัวของคนที่เคยทำงานจิตอาสา โดยเฉพาะการได้ร่วมงานกับ คุณปรีดา ลิ้มนันทกุล เลขาธิการมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ ซึ่งพรรคมีเป้าหมายชัดเจนในการ “ทวงสิทธิคนพิการ” พร้อมอำนวยความสะดวกให้คนพิการและครอบครัวเข้าถึงสิทธิได้เร็วขึ้น พรรคเสนอนโยบายการขึ้นทะเบียนคนพิการแบบ One Stop Service จุดเดียวเบ็ดเสร็จ เป็นนโยบายอันดับแรกที่จะผลักดัน

ครูปรีชา ใคร่ครวญ พรรคประชากรไทย
ครูปรีชา ใคร่ครวญ พรรคประชากรไทย

นอกจากพรรคเปลี่ยนอนาคตแล้วยังมี พรรคประชากรไทย ที่มี ครูปรีชา ใคร่ครวญ ลงสมัคร ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ รวมทั้งมีพรรคเส้นด้าย ที่ทำงานจิตอาสาก็มาสมัครในวันสุดท้าย ส่วนพรรคสุดท้ายที่ลงสมัครวันนี้คือ พรรคไทยสมาร์ท เป็นพรรคที่ 67.