ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย แจงยิบ เงินดิจิทัล 1 หมื่น "เศรษฐา" ยัน ช่วยประชาชนพ้นหลุมดำยากจน "เพื่อไทย" พร้อมทำ 1 ม.ค.67 ทันที "เผ่าภูมิ" อวย เพื่อไทยเป็นทุนนิยมมีหัวใจ ลั่น ให้ความสำคัญวินัยการเงินคลัง ขอวางใจ ปัด ประชานิยมสุดโต่ง 

วันที่ 7 เม.ย. 2566 พรรคเพื่อไทย นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค และกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) นายพิมล ศรีวิกรณ์ ประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย และนายกสมาคมเทควันโด้แห่งประเทศไทย ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา คณะทำงานนโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย

...

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงนโยบายเมื่อวันพุธที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา หนึ่งในนโยบายคือ ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท มีเสียงตอบรับและมีคำถามมากมายในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยบอบช้ำเป็นอย่างมาก รวมทั้งภาคเศรษฐกิจ พี่น้องประชาชนมีรายได้ลดลง รายจ่ายเพิ่มขึ้นอยู่ในภาวะซึมลึก ซึมยาว ซึมนาน รัฐบาลปัจจุบันค่อยๆ หยอดน้ำข้าวต้มมาเรื่อยๆ ด้วยจำนวนเงินเล็กน้อย ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์ถือว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

พรรคเพื่อไทย "คิดใหญ่ ทำเป็น" จึงมีนโยบาย ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท สำหรับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปภายใน 6 เดือน เพราะต้องการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในท้องถิ่น ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างบล็อกเชน ซึ่งสามารถระบุวิธีการใช้เงินว่าจะนำไปใช้จ่ายอะไรได้บ้าง ไม่สามารถใช้ในพื้นที่นอกบัตรประชาชนได้ และจะจำกัดไม่ให้ใช้ในรูปแบบอื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น ใช้ในการพนัน ใช้หนี้นอกระบบ นอกจากนี้อาจจะมีการพิจารณาข้อจำกัดอื่นเพิ่มเติม เช่น การขยายระยะทางในการใช้ดิจิทัล วอลเล็ต ในพื้นที่ห่างไกล เช่น 6.5-7.5 กม. การใช้หนี้สถาบันการเงิน โดยจะลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยกับประชาชนเพื่อสอบถามถึงความต้องการที่แท้จริงเพิ่มเติมด้วย

ส่วนข้อสอบถามของนักเศรษฐศาสตร์ ว่า ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เป็นนโยบายประชานิยมสุดขั้วนั้น นายเศรษฐา ยืนยันว่า เศรษฐกิจดิจิทัลจะทำให้ประเทศไทยก้าวมาสู่แนวหน้าระดับโลกได้ ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เป็นการกระตุกเศรษฐกิจให้คนไข้ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาให้ฟื้น ลุกขึ้นมายืนได้ และจะช่วยให้สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น รวมกับการจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2567 ภาษีแวต ภาษีนิติบุคคล 20% จากกำไรของบริษัทต่างๆ ภาษีจากภาคธุรกิจ และการใช้งบประมาณสวัสดิการจากภาครัฐที่จะลดน้อยลงไป

ส่วนข้อกังวลว่าการที่รัฐบาลให้เงินเป็นการตอกย้ำความจน เป็นการมองว่าคนไทยเป็นยาจกหรือไม่ นายเศรษฐา ยืนยันว่า เป็นการช่วยเหลือประชาชน และไม่เคยมองประชาชนเป็นยาจก เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย คือ ช่วยคนให้หลุดพ้นหลุมดำจากความยากจน ดิจิทัล วอลเล็ต เป็นการจุดสตาร์ตให้ประชาชนลุกขึ้นเดินมาทำมาหากินอีกครั้ง และหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาล คาดว่านโยบายดิจิทัล วอลเล็ต จะดำเนินการทันทีในวันที่ 1 มกราคม 2567

ส่วนคำถามของนักวิชาการว่า เป็นประชานิยมสุดโต่งนั้น ตนไม่อยากใช้คำว่า ประชานิยมสุดโต่ง แต่เป็นความจำเป็น เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้นโยบายนี้แล้วยังมีโยบายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น พักหนี้เกษตรกร 3 ปี การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี จีดีพีจะโตเฉลี่ย 5% นายเศรษฐา กล่าว

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เจตนารมณ์และจุดยืนของพรรคเพื่อไทย คือ ต้องการได้อำนาจรัฐ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ประกาศเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 มาตรการของพรรคเพื่อไทยที่ได้ทยอยประกาศออกมา ตั้งแต่เรื่องรายได้ขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ภาคการเกษตรซึ่งมีประชากร 40% ของประเทศ จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี ทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ด้านภาคธุรกิจและภาคบริการ พรรคเพื่อไทยจะกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะเปิดประตูรองรับการท่องเที่ยวเพื่อนำเม็ดเงินเข้าประเทศ เช่น โครงการ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ตั้งเป้า 200,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกทอดทิ้งจนถดถอย และล้าหลังในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลอ้างว่าเรื่องของโควิด แต่หลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไปแล้ว เศรษฐกิจของประเทศไทยยังอยู่อันดับท้ายของอาเซียน ค่าใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น แต่รายได้ไม่เพียงพอ เราไม่อยากหยอดน้ำข้าวต้มเพื่อยื่นความตาย เราจึงต้องปั๊มหัวใจฟื้นมาอย่างรวดเร็วและแข็งแรง

สำหรับ มาตรการดิจิทัล วอลเล็ต เป็นมาตรการระยะสั้น เพื่อรีบปลุกพละกำลังของคนไทยให้ฟื้นขึ้น มีนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าเป็นการกระตุ้นการบริโภคอาจจะไม่ถูกทาง ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ในภาคการเกษตรถือว่ามีความหมายมาก เพราะสามารถทำมาหากินในแปลงเกษตรกรรมได้ และในระหว่าง 6 เดือน จะมีมาตรการรองรับ มาตรการนี้เป็นมาตรการระยะสั้น เพื่อปลุกเร้าให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแข่งขันกับต่างประเทศได้

ส่วนนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท จะเป็นการสัญญาว่าจะให้หรือไม่นั้น ยืนยันว่านโยบาย ดิจิทัล วิลเล็ต คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้รับ ไม่ได้ให้เป็นการเฉพาะเจาะจง เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาประเทศไทยถอยหลังไปมาก มีค่าใช้จ่ายสูง คนไทยเกือบจมน้ำ ดิจิทัล วอลเล็ต คือห่วงชูชีพที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถว่ายน้ำต่อไปได้ ดิจิทัล วอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจบทที่หนึ่งเท่านั้น เมื่อรวมเข้ากับมาตรการอื่นๆ ของพรรคเพื่อไทย จะช่วยทำให้พี่น้องประชาชนสามารถยืนบนลำแข้งของตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี

สำหรับข้อห่วงใยเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในนโยบายดังกล่าวนั้น ยืนยันว่ามาจากการประเมินของหน่วยงานของรัฐที่คาดว่าจะมีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 260,000 ล้านบาท และมาจากภาษีต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณแสนกว่าล้านบาท รวมทั้งงบประมาณจากโครงการต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว พรรคเพื่อไทยมีนักบริหารที่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมาแล้ว การใช้งบประมาณทั้งหมดภายใต้กรอบที่เสนอไป จะมี ดร.เผ่าภูมิ ดูแลร่วมกับ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคภายใต้งบประมาณที่มี เพื่อให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ยืนยันว่าประชาชนจะได้งานและได้เงินที่ดีกว่า

“ตอนนี้เหมือนประเทศไทยเป็นรถเฟอรารี่ แต่ให้คนขับเกวียนมาขับ มันไปไม่ได้ ต่อไปนี้คนขับรถแข่งมาขับเอง” นพ.พรหมินทร์ กล่าว

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจพื้นฐาน และเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งด้านของเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจพื้นฐาน 2.5 เท่า และในที่สุดจะมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจพื้นฐาน หากไม่วางโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล จะทำให้ประเทศไทยเดินไปสู่หายนะ

ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล วันนี้พรรคเพื่อไทยไปไกลกว่า Free-WiFi อินเทอร์เน็ต 5G แต่เราจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินยุคใหม่ให้กับประเทศ เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล ระบบการเงินยุคใหม่ที่ไร้ตัวกลาง ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน โดยต่อจากนี้คนไทยอายุ 16 ปี ขึ้นไป จะมี 2 บัญชี คือ บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป และบัญชีดิจิทัล วอลเล็ต ที่จะผูกบัตรประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคนโดยอัตโนมัติ โดยจะมีกุญแจดิจิทัล ให้กับประชาชนเข้าถึงบัญชีนี้ ดึงดูดผู้ใช้ด้วยการใส่เงินก้นถุง 10,000 บาทให้กับประชาชนทุกคน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการสร้างแรงจูงใจระบบการเงินยุคใหม่นี้ ซึ่งใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่สามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้เงินได้ เช่น ใช้ภายใน 6 เดือน ระยะ 4 กม. จากที่อยู่บัตรประชาชน และสามารถเขียนโค้ดได้ภายใน 5 นาที ว่าเงิน 10,000 บาท จะกลายเป็นเงิน 12,000 บาท หรือกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรอง จาก 10,000 บาท เป็น 13,000 บาทได้ ทั้งหมดคือความสามารถของบล็อกเชน

เมื่อจบโครงการนี้ประเทศจะก้าวสู่ระบบการเงินยุคใหม่ด้วย (CBDC) หรือ Central bank digital currency ซึ่งสามารถใช้ในระบบการจัดจ้าง การใช้จ่ายปกติทั่วไป ทั้งหมดจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศอันดับหนึ่งในภูมิภาค ที่ใช้เงินดิจิทัล กลายเป็นประเทศอันดับ 2 ในซีกโลกตะวันออกรองจากจีน และไทยจะอยู่ไม่เกินอันดับ 10 ของโลก และจะทำให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการระดมทุนผ่าน Dogital asset เป็นศูนย์กลางของ Fintech เป็นศูนย์กลางบล็อกเชน เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค รายได้มหาศาล การสร้างงาน การจ้างงานจะเกิดขึ้น ทั้งหมดคือการลงทุนที่ผลตอบแทนสูง

ส่วนงบประมาณที่ใช้นั้น เพื่อไทยไม่เน้นการแจกจ่าย เราจะไม่โอบอุ้มด้วยการให้สวัสดิการไปเรื่อยๆ เราเน้นการสร้างรายได้ใฟ้กับประชาชน จึดมุ่งหมายคือากรสร้างรายได้ให้กับประชาชน ไม่ใช่การโอบอุ้มจุนเจือระยะยาวที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถลึกยืนด้วยขาของตัวเอง เราคือทุนนิยมที่เท่าเทียม และเป็นทุนนิยมที่มีหัวใจหลักของเราคือการสร้างรายได้ และเราเป็นพรรคที่ใช้หลักการที่การรดน้ำที่ราก เราเห็นความสำคัญของแรงงาน เอสเอ็มอี ผู้มีรายได้น้อยเพราะเป็นฐานของเศรษฐกิจ ยืนยันพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีความรับผิดชอบสูงสุดต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศ และความมั่นคงทางการคลังของประเทศ

“นี่คือจุดแตกต่างของเรากับแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ ซึ่งเป็นเงินในโลกยุคเก่า เราคือเงินยุคใหม่ ทั้งหมดคือวิสัยทัศน์ของเพื่อไทย เราคิดใหญ่ คิดใหม่ คิดทันสมัย” ดร.เผ่าภูมิ กล่าว

นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค และกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การลงทุนภาครัฐมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ เป็น 1 ใน 4 เครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย ดังนั้นการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ หากการเลือกตั้งเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชน จะกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ในปี 2567 รัฐบาลจะมีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 260,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สำนักงบประมาณเคยคาดการณ์ไว้ และยังไม่รวมโครงการอื่นๆ ของรัฐบาลปัจจุบัน ที่สามารถลดโครงการที่ไม่จำเป็นลงได้

พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า จะไม่ยกเลิกบัตรคนจน โดยจะดำเนินโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท กับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป และคาดว่าทันทีที่เริ่มโครงการคนไทยจะไม่อยากใช้บัตรคนจนอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้สามารถลดงบประมาณส่วนของบัตรคนจนลงไปได้ 50,000 ล้านบาท รวมทั้งรีดไขมันจาก พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2567 จากโครงการที่ไม่จำเป็นอีกต่อไปได้

นายจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า จากการบริหารงานในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยทั้งในอดีตและปัจจุบันสามารถพิสูจน์ได้ว่าพรรคเพื่อไทยมีวินัยการเงิน การคลัง.