ท้ายงานไทยรัฐฟอรัม ถ่ายทอดสดทีวีช่องไทยรัฐ...โรงแรมย่านทองหล่อ...หลายวันเต็มที ผมสวน คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล...หนึ่งในผู้อภิปราย หน้าลิฟต์
ผมทัก ชอบพรรคคุณนะ แต่ยังมีข้อสะดุดใจ ช่วยพูดอะไรก็ได้ ให้คนแก่รุ่นผม เลือกพรรคคุณ
ในบริบท ของการเดินผ่าน...คำตอบเป็นแค่รอยยิ้ม...ผมยังคงสะดุด พรรคก้าวไกลอยู่ในจุดเดิม
ผมเพิ่งเขียนถึง พลเอกประยุทธ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ...ได้จุดวาบความคิดจากหนังสือ มาเหนือเมฆ...กำลังคิด เสียงคนบ่นเบื่อประยุทธ์ก็หนาหู แต่เมื่อมีคนรักประยุทธ์ ถามหาหนังสือ เอ! คนรักเขาก็มีนี่นา
ผมจึงคิดได้ ต้องหาวิธีสื่อบอกคุณพิธาให้รู้ว่า คนแก่ๆรุ่นผม...มองหนุ่มๆสาวๆหัวก้าวหน้าอย่างไร?
ตามประสาคนแก่สื่อตรงๆไม่เป็น เป็นแต่เล่านิทาน แต่ครั้งนี้ไม่เล่านิทาน แต่เล่าเรื่องจริง
ท้ายๆพุทธกาล พระเจ้าอชาตศัตรู กษัตริย์แคว้นโกศล ส่งวัสสการพราหมณ์ มาถามพระพุทธเจ้า จะมีวิธีเอาชนะแคว้นวัชชี แคว้นใหญ่ มหาอำนาจระดับเดียวกันที่อยู่ติดๆกันอย่างไร
พระพุทธเจ้า เจอคำถามเหมือนบังคับให้เลือกข้างการเมือง...ตรัสตอบตรงๆ ก็คงไม่ใช่วิสัยพระ
ทรงถาม พระอานนท์ พุทธอุปัฏฐาก...ยังพอจดจำ อปริหานิยธรรม ธรรมไม่เป็นที่ตั้งของความเสื่อม หลัก (รัฐธรรมนูญ) ของเหล่ากษัตริย์แคว้นวัชชีได้หรือไม่
พระอานนท์ สาธยาย ให้วัสสการพราหมณ์ฟังว่า ธรรมะของกษัตริย์วัชชี หรือที่จริงก็เป็นธรรมะของใครก็ได้ที่ต้องรับผิดชอบบ้านเมือง มีอยู่ 7 ข้อ ดังต่อไปนี้
1 หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ 2 พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม พร้อมเพรียงกันทำกิจที่พึงทำ
3 ไม่ถืออำเภอใจ บัญญัติสิ่งที่มิได้บัญญัติไว้ ไม่ล้มล้างสิ่งที่ได้บัญญัติ ถือปฏิบัติมั่นตามวัชชีธรรม
...
4 ท่านเหล่าใดเป็นผู้ใหญ่ในชนชาววัชชี เคารพนับถือท่านเหล่านั้น เห็นถ้อยคำของท่าน ว่าเป็นสิ่งอันพึงรับฟัง
5 บรรดากุลสตรี กุลกุมารีทั้งหลาย มิให้อยู่อย่างถูกข่มเหงรังแก
6 เคารพสักการะบูชาเจดีย์ของวัชชี ทั้งภายในและภายนอก ไม่ละเลยการทำธรรมิกพลี
7 จัดให้ความอารักขา คุ้มครองป้องกันอันชอบธรรมแก่พระอรหันต์ (หมายถึงบรรพชิตที่เป็นหลักใจของประชาชน) ตั้งใจให้ท่านที่ยังมิได้มาถึงมาสู่แว่นแคว้น ที่มาแล้วพึงอยู่โดยผาสุก
พระอานนท์ สาธยายวัชชีธรรมจบ...วัสสการพราหมณ์ถึงกับอุทาน แค่ข้อเดียว โอกาสที่จะตีวัชชีให้แตก ก็แทบไม่มี แล้วก็กราบนมัสการลาพระพุทธเจ้า กลับไปกราบทูลพระเจ้าอชาตศัตรู อย่าเป็นวัยรุ่นใจร้อนสงบใจรอเวลา
ไม่นาน ก็ใช้อุบาย...ปฏิบัติการวัสสการพราหมณ์ ยุให้เหล่ากษัตริย์วัชชีแตกแยกกัน แล้วก็ส่งกองทัพเข้าไปโจมตี ยึดเมืองวัชชีได้ง่ายๆ
ด้วยเหตุว่า กษัตริย์วัชชีเกี่ยงกันถึงขนาดไม่มีใครสักคนมาช่วยกันปิดประตูเมือง
(แผนวัสสการ ใช้กันเรื่อยมา ราวๆเจ็ดร้อยปีที่แล้ว ในดินแดนไทย พ่อขุนเม็งราย ก็ใช้ “ขุนฟ้า” ใช้แผนนี้ ยึดแคว้นหริภุญชัย (ลำพูน)
ผู้คนสมัยพระพุทธเจ้า กว่าสองพันห้าร้อยปีที่แล้ว สร้างบ้านแปลงเมือง ลงหลักปักฐานกันมาได้...ข้อปฏิบัติสำคัญ พวกเขานับถือผู้ใหญ่ ไม่เห็นปู่ตาย่ายาย เป็นหัวหลักหัวตอ
เทือกเถาเผ่าพันธุ์ ไท ไทน้อย ไทใหญ่ ไทดำ ไทแดง...ฯลฯ เชื่อกันว่า หากไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ จะทำกิจการอะไร ก็ไม่แน่ หากปะเหมาะเคราะห์ร้าย ผีจะซ้ำด้ำจะพลอย
ได้โอกาสบอกน้องๆรุ่นลูกรุ่นหลาน ก็บอกกันแล้วนะครับ ตั้งใจจะ “ก้าวให้ไกล” ก็ตั้งใจได้ แน่ละก้าวที่ย่าง ควรบันยะบันยังไว้บ้าง...อะไรควร อะไรไม่ควร
เผื่อแผ่ใจให้คนแก่ได้...เสียงคนกรุงฯที่โพลว่าจะเทให้ ก็อาจจะได้เสียงคนแก่รุ่นผมเข้าไปด้วย
ถึงเวลานั้น บ้านเมืองตามทฤษฎีสองนคราประชาธิปไตย ของอาจารย์เอนก เหล่าธรรมทัศน์ จะออกหัวออกก้อย...ก็ให้มันรู้กันไป อย่างน้อยก็ดีกว่า ให้ทหารปฏิวัติก็แล้วกัน.
กิเลน ประลองเชิง