"พลภูมิ" ควง "อ๋อม สกาวใจ-พงศกร-เพ็ญพิสุทธิ์" สมัคร ส.ส. พร้อมเดินหน้าหาเสียงเต็มที่ หวัง คว้าชัยทุกเขต อ้อน ขอคะแนนชาวกรุง เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค "พลภูมิ" ไม่หนักใจ พื้นที่บางส่วนของเขตบึงกุ่มถูกแยก
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 66 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่นฯ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย นำโดย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบึงกุ่ม-คันนายาว, น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม, นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลาง, น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางคอแหลม-ยานนาวา พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ายื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขต โดยมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก มาร่วมให้กำลังใจ คอยส่งเสียงเชียร์กันอย่างคึกคัก
หลังยื่นใบสมัครและตรวจสอบเอกสารเสร็จสิ้น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้ทำการจับหมายเลขผู้สมัคร โดย น.ส.สกาวใจ จับได้เบอร์ 4, น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จับได้เบอร์ 5, นายพงศกร จับได้เบอร์ 6 และ นายพลภูมิ จับได้เบอร์ 7

...
นายพลภูมิ กล่าวว่า เบอร์ที่จับได้ ถือเป็นเลขมงคล และคิดว่าจะนำชัยชนะมาให้ตนเองกับพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ตนเองเคารพนับถือ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนจะขึ้นรถแห่และลงพื้นที่หาเสียงทันที พร้อมยืนยันว่า ไม่หนักใจ ที่พื้นที่บางส่วนของเขตบึงกุ่มถูกแยกออกไป เพราะคะแนนนิยมในส่วนนั้นของตนเอง ก็จะถูกส่งต่อไปยัง น.ส.สกาวใจ ที่ร่วมกันทำพื้นที่มานาน ประชาชนเห็นผลงาน เห็นความตั้งใจในการทำงาน แก้ปัญหาทุกอย่างให้ประชาชน ไม่เคยทิ้งพื้นที่ จึงมั่นใจว่า ทั้งในเขตของตนเอง คือ บึงกุ่ม-คันนายาว และของ น.ส.สกาวใจ คือ ลาดพร้าว-บึงกุ่ม จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

ด้าน น.ส.สกาวใจ กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของตัวเองในการอาสามาทำหน้าที่เพื่อเป็นปากเป็นเสียง แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน และจากการลงพื้นที่ชาวบ้านก็ให้การตอบรับอย่างล้นหลาม ประกอบกับฐานคะแนนเสียงและการช่วยเหลือจาก นายพลภูมิ, นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ส.ก.เขตบึงกุ่ม พรรคเพื่อไทยและทีมงาน ก็มั่นใจว่า จะได้รับชัยชนะ ซึ่งหลังจากนี้จะลงพื้นที่หาเสียงทุกวันอย่างต่อเนื่อง
"อ๋อม ขอโอกาสจากพ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา เลือก อ๋อม สกาวใจ และ พลภูมิ ไปเป็นปากเป็นเสียงให้พ่อแม่พี่น้อง เพื่อพัฒนาบึงกุ่มร่วมกัน" น.ส.สกาวใจ กล่าว

ด้าน นายพงศกร กล่าวว่า ตั้งแต่ลงพื้นที่พบปะประชาชน ทำให้ได้รับรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง สินค้าราคาแพง และรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย จึงทำให้กระแสของพรรคเพื่อไทย และตัวผู้สมัคร ส.ส.มีคะแนนนิยมที่ดี เพราะนโยบายตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท เป็นต้น ดังนั้น ตนเองขอโอกาสจากพี่น้องชาวบางกะปิ-วังทองหลาง เลือกคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างตน เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส. เข้าไปทำงานเพื่อเปลี่ยนบางกะปิ เปลี่ยนวังทองหลางให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ด้าน น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนมาสมัคร ส.ส.ด้วยความตั้งใจเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม จึงเชื่อว่าพี่ป้าน้าอาในเขตบางคอแหลม-ยานนาวา รู้สึกได้ ประกอบกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย คนในพื้นที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่เรื่องปากท้อง คุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ จึงมั่นใจว่า วันนี้คนกรุงเทพฯ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง และตนเองกับพรรคเพื่อไทย ตอบโจทย์ในจุดนี้.