"นอท" หัวหน้า “พรรคเปลี่ยน” เปิดนโยบาย ชูหวยเป็นนโยบายหลัก ไม่กังวลคดีความจะขัดขาในอนาคต ยันอยู่ข้างประชาธิปไตย อุบตอบจับมือ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ในอนาคต
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่ทำการพรรคเปลี่ยน เอสเอสพี ทาวเวอร์ 1 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ (นอท) หัวหน้าพรรคเปลี่ยน แถลงเปิดตัวพรรคเปลี่ยน ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต พร้อมเปิดตัวนโยบายพรรค
นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า พรรคเปลี่ยนมี 3 นโยบายหลัก 5 นโยบายรอง และพรรคมีจุดยืนคือ การเปลี่ยนประเทศด้วยการพูดถึงปัญหา ใช้วิธีที่ตนเองถนัด คือ การหาเงินจากหวย โดยนโยบายแรกคือ หวยโอกาส สร้างเศรษฐี 2 ทาง เพิ่มรางวัลที่ 1 เป็นจำนวน 200 ใบ พิมพ์สลากเพิ่มจาก 100 ล้านฉบับ เป็น 200 ล้านฉบับ เพื่อแก้ปัญหาสลากราคาแพง ปิดทางหวยใต้ดิน สร้างรายได้เข้ารัฐถึง 55,000 ล้านบาทต่อปี ก่อนนำเงินไปสร้างกองทุนเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยเพื่อคนพิการ เงินอุดหนุนการศึกษาผู้พิการระดับ ปวช. ตั้งกองทุนพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุและผู้พิการ และสร้างธนาคารโอกาส ปล่อยดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 1 ให้คนจนมีโอกาสลืมตาอ้าปาก
...
ถัดมาคือ นโยบายส่งลูกหลานกลับไปทำงานออนไลน์ที่บ้าน สร้างเศรษฐกิจในชุมชนและให้โอกาสได้ดูแลครอบครัว พร้อมช่วยเหลือลูกหนี้กรมสรรพากร โดยการตั้งศูนย์เจรจาหนี้ ลดเบี้ยปรับร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ลดหนี้ภาษีย้อนหลัง พร้อมจดทะเบียน e-tax งดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 3 ปี ส่งเสริมให้จดทะเบียนสมัครประกันสังคม ม.39 ได้ พร้อมเก็บภาษีแพลตฟอร์มต่างประเทศเต็มอัตรา ร้อยละ 10 ลดการผูกขาดแพลตฟอร์มออนไลน์ของชาวต่างชาติ และตั้งศูนย์เปลี่ยนพลัส รับเรื่องร้องเรียนการฉ้อโกงออนไลน์
นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า นโยบายต่อมาคือ การเปลี่ยนชีวิตคนกลางคืนและอาชีพอิสระ แก้ไขกฎหมายให้ผู้ค้าบริการทางเพศ และทำโอนลี่แฟนส์ได้อย่างถูกกฎหมาย จัดโซนให้สถานบันเทิงเปิดบริการได้ถึง 04.00 น. สร้างประกันสังคมอาชีพอิสระ ให้ลดหย่อนภาษีได้ เช่นเดียวกับผู้ประกันตนตาม ม.33 ผลักดันกลุ่มอาชีพต่างๆ เช่นหาบเร่แผงลอย ไรเดอร์ส่งของ รวมถึงผู้ค้าบริการทางเพศให้เข้าระบบภาษี มีระบบประกันสังคม รับสิทธิรักษาพยาบาลฟรี และสวัสดิการต่างๆ เท่าเทียมคนมีรายได้ประจำ
นายพันธ์ธวัช กล่าวอีกว่า นโยบายรองของพรรคเปลี่ยนจะผลักดันการสมรสเท่าเทียม ให้สิทธิการแต่งตัวไปเรียน หรือทำงานตามเพศสภาพ ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีแก่ผู้สูงวัย ผลักดันเอกชนให้จ้างงานผู้สูงวัย เพื่อลดปัญหาของผู้สูงวัยในอนาคต สนับสนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรอง ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์มูเตลู ยกระดับนักกีฬาของไทย ผลักดันลีกทุกระดับตั้งแต่เยาวชน ถ่ายทอดสดกีฬาทุกนัด ส่งเสริมการแข่งขันลีกในประเทศอย่างโปร่งใส และส่งเสริมสวัสดิการนักกีฬาในวันเกษียณ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนผู้ต้องขังโดยการเพิ่มสวัสดิการ ส่งเสริมให้ผู้พ้นโทษได้ฝึกอาชีพในการทำงานสุจริต เพื่อลดนักโทษคดียาเสพติดที่มีจำนวนมากที่สุด และอุปการะเด็กที่เกิดในเรือนจำ เพราะพ่อแม่ติดคุก
นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ชาวบ้านได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี มีกำลังใจเต็มที่ จากนี้จะลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนคนหาเช้ากินค่ำในแต่ละจังหวัด ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะตนก็เคยเป็นคนกลุ่มนั้นมาก่อน พร้อมฝากสโลแกนพรรคว่า "อยากเปลี่ยนประเทศไทยต้องใช้นอท" ยืนยันว่า ตนจริงจังและไม่กลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น
พร้อมกันนี้ นายพันธ์ธวัช ได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเปลี่ยน คือ นายณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการตะวันออก พร้อมเผยว่า อาชีพขายสลากเป็นอาชีพที่ถูกจริตคนพิการมากที่สุด เพราะทำง่าย ขายดี คนพิการต้องเข้าถึงโควตาสลากทั้งหมด เพื่อให้ได้ยึดเป็นอาชีพหลักในการหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว นอกจากนี้ พรรคเปลี่ยนจะเข้าไปตรวจสอบดูแลการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับผู้พิการอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีกฎหมายครอบคลุม แต่ยังไม่เคยถูกใช้อย่างจริงจัง เช่น อาคารต่างๆ รถขนส่งสาธารณะ ถูกกำหนดให้คนพิการเข้าถึงการใช้งานได้อย่างเท่าเทียม
นายพันธ์ธวัช กล่าวอีกว่า หลังพรรคเปลี่ยนได้รับการรับรองจาก กกต.ก็ได้ตั้งสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาค ยอมรับว่า มีผู้ติดต่อขอร่วมงานจำนวนมาก แต่เพราะมีอุดมการณ์ไม่สอดคล้องกัน จึงไม่ได้พามาร่วมงานด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากเรามีเวลาไม่เพียงพอ จึงส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมด 9 คน ใน 8 จังหวัด ได้แก่ จ.สระบุรี จ.ปัตตานี จ.ร้อยเอ็ด จ.ลพบุรี จ.กาญจนบุรี จ.ภูเก็ต จ.อุตรดิตถ์ และ จ.ตรัง พร้อมยืนยันพรรคตนจะอยู่ข้างประชาธิปไตย พร้อมร่วมทำงานกับพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา อย่างไรก็ตาม สำหรับการร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพลังประชารัฐ ที่สนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้น ตนจะพิจารณาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตนไม่มีความกังวลกับเรื่องคดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากตนมีความผิดจริง ก็คงทำอะไรไม่ได้ ขอให้เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่ขณะนี้ยังยืนยันว่า ตนบริสุทธิ์ และตนก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม หากไม่ผิดก็ไม่มีอะไรมาทำร้ายตนได้ เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานทางการเมือง โดยตั้งใจจะทำงานอย่างเต็มที่ให้ได้ 3 ล้านเสียง ส่วนตัวอยากได้เบอร์ 7 เพราะเหนื่อยดี ทำงานไม่หยุด เพราะเราเป็นพรรคของคนทำงาน ตนมองว่าการเมืองคงไม่ต่างกับการทำงานบริษัท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ติดตั้งป้ายหาเสียงที่ จ.อุดรธานี เพียงที่เดียว รอจับฉลากเลือกเบอร์เสร็จสิ้นแล้วจะติดตั้งครั้งเดียว
นายพันธ์ธวัช กล่าวยอมรับว่า ตนสนใจเรื่องทางการเมืองมานาน และยังเคยไปร่วมการชุมนุมมาบางครั้ง แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่พร้อม กระทั่งเริ่มมีประสบการณ์ เริ่มเข้าถึงประชาชนและมีผู้คนรู้จัก จึงตัดสินใจว่าจะลงมือทำเพื่อประเทศชาติ
สำหรับ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดกาญจนบุรี ที่ผลักดันเรื่องสลาก 80 บาทเช่นกันนั้น ตนเองมองว่า ครูปรีชา มีลักษณะเป็นลูกค้ามากกว่าตน ที่มีประสบการณ์บริหารธุรกิจสลากออนไลน์มากกว่า.