"พรรคชาติพัฒนากล้า" ส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม. ชิงครบ 33 เขต พร้อมชูสโลแกน "กล้า Fight : ชาติพัฒนากล้า เราสู้เพื่อคุณ" วางตัว "แวววรรณ" ท้าชิงเขต 9 "บางเขน-จตุจักร-หลักสี่" ขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่ดูแล ชูนโยบายความปลอดภัยเริ่มที่บ้าน เคาะ 5 หมื่นบาท ปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพื่อกลุ่มเปราะบาง เดินหน้าดูแลปากท้อง เสริมสภาพคล่องทางการเงิน
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.66 ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กทม. พรรคชาติพัฒนากล้า ประกาศส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงเลือกตั้งครบทั้ง 33 เขต พร้อมชูสโลแกน "กล้า Fight : ชาติพัฒนากล้า เราสู้เพื่อคุณ" สู่เป้าหมายให้คนไทย "งานดี มีเงิน ของไม่แพง" โดยทีมผู้บริหารพรรค นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายวรวุฒิ อุ่นใจ และ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค มั่นใจคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ทั้ง 33 เขต เป็นคนรุ่นใหม่ที่พร้อมร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและประเทศไทย
โดย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า การเลือกตั้ง วันที่ 14 พ.ค.นี้ พรรคได้ส่งผู้สมัครคนรุ่นใหม่ลงสนามเลือกตั้ง เนื่องจากต้องการดึงคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ และมีศักยภาพเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง เพื่อเดินหน้าพัฒนาประเทศ โดยในพื้นที่เขต 9 บางเขน จตุจักร หลักสี่ พรรคชาติพัฒนากล้าได้ส่ง ดร.แวววรรณ ก้องไตรภพ กรรมการบริหารพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากที่ผ่านมามีประสบการณ์หลายด้าน เก่งเรื่องการประสานงาน กล้าคิด กล้าทำ และทำได้ไว สมฉายา "แวววรรณ เคลียร์ไว" นอกจากนี้ เคยทำโครงการกล้าอาสาช่วยประสานงานดูแลประชาชนทั่วประเทศ ในช่วงของวิกฤติโควิด-19 ดังนั้นพรรคจึงเห็นว่า ดร.แวววรรณ มีความพร้อมด้วยประสบการณ์และความสามารถ เหมาะสมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. คนรุ่นใหม่ เข้าไปผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ
...
ด้าน น.ส.แวววรรณ ก้องไตรภพ กรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 กล่าวว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในชีวิต เกิดจากความกล้าที่อยากเห็นประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความสุขและความปลอดภัย ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้ามีนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ไม่ทอดทิ้งกลุ่มเปราะบาง โดยส่วนตัวเชื่อว่า ความปลอดภัยต้องเริ่มจากที่บ้าน ซึ่งพรรคมีนโยบายปรับปรุงบ้านครอบครัวละ 50,000 บาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุและคนพิการ ปรับปรุงส่วนต่างๆ ของบ้าน เช่น ห้องน้ำ ราวจับ เพื่อให้ผู้สูงอายุและคนพิการใช้ชีวิตได้สะดวกปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน สิ่งสำคัญคือการดูแลปากท้อง เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งพรรคมีนโยบายลดภาษี โดยบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือนไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายภาษีลงได้ปีละประมาณ 7,500 บาท รวมถึงนโยบายการรื้อโครงสร้างพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และลดต้นทุนทางธุรกิจ
"อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ตนได้ทำงานใกล้ชิด พี่เอ๋ อรรถวิชช์ จึงได้รับคำแนะนำเรื่องการทำงานและการลงพื้นที่หาเสียง ที่ต้องขยันลงพื้นที่เพื่อเข้าถึงพี่น้องประชาชน แม้ว่าการลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ จะถูกมองว่าเป็นนักการเมืองหรือผู้สมัครหน้าใหม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าความใหม่จะเป็นทางเลือกให้ประชาชน ที่อยากเห็นประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยพลังคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้และความสามารถเท่าทันต่อสถานการณ์โลก และจะเป็นยุคใหม่ของการเมืองไทย" น.ส.แวววรรณ กล่าว