ศาลปกครองสูงสุด นัด 7 เม.ย. นี้ ตัดสินคดีแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. “อรรถวิชช์” ฉะ กกต. ละลายเขตด้วยระเบียบส่วนต่าง ชี้ หากแบ่งเขตใหม่ไม่กระทบวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. แต่ไทม์ไลน์เปลี่ยน
วันที่ 30 มี.ค. 2566 ศาลปกครองสูงสุดออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. นายพัฒ ตั้งเบญจผล ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์จาก จ.สุโขทัย นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ใน จ.สุโขทัย นายพัฒนา สัพโส ผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สกลนคร ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีขอให้เพิกถอนประกาศ กกต. เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้ง ลงวันที่ 16 มี.ค. 2566 โดยการไต่สวนของ กกต. นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง นำทีมผู้บริหารสำนักงานเดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง
นายอรรถวิชช์ เปิดเผยภายหลังการไต่สวนใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ตนได้ให้ข้อมูลต่อศาลไปว่า การเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคิดคำนวณ ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง ใน กทม. 33 เขตเลือกตั้ง (เดิม 29 เขตเลือกตั้ง) เป็นความตั้งใจของ กกต. ถือเป็นการทำลายระบบตัวแทน ทำให้ความผูกพันระหว่างผู้แทนราษฎรกับประชาชนในพื้นที่ห่างออกไป เป็นกลจักรสำคัญของระบอบประชาธิปไตย แต่ กกต. ยืนหลักเอาผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของจำนวนเฉลี่ยต่อจำนวน ส.ส. 1 คนเป็นตัวตั้ง และเกณฑ์ 10% มีมานานแล้ว แต่เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกกับ กทม.
ที่น่าแปลกใจ คือ ในการชี้แจงของ กกต. วันนี้ พบว่า กกต. ไม่ได้ใช้เกณฑ์ไม่เกิน 10% แต่ใช้เกณฑ์ 5% ด้วยซ้ำ เกณฑ์ดังกล่าวทำให้เขตเลือกตั้งเดิมทั้งหมดถูกสลายไป ซึ่งเป็นเป้าหมายของ กกต. จากนี้ต้องวัดใจว่าศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยตาม กกต. หรือไม่ เป็นอำนาจของ กกต. หรือไม่ แต่สำหรับพรรคการเมือง พวกเรามองว่านี่ไม่ใช่วิถีทางที่จะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เพราะเป็นการทำลายระบบตัวแทน หากศาลปกครองมีคำวินิจฉัยให้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จะไม่มีผลกระทบต่อกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 2566 เพียงแต่มีผลต่อการทำไพรมารีโหวตของแต่ละพรรคการเมือง และการรับสมัครการเลือกตั้ง ซึ่งสามารถเลื่อนไปวันที่ 14-18 เม.ย. 2566 และขยายวันเลือกตั้งล่วงหน้าออกไป จะทำให้ไทม์ไลน์ขยับแต่วันเลือกตั้งไม่ขยับ
...
“เกณฑ์ไม่เกิน 10% ระหว่างราษฎรกับ ส.ส. 1 คน เกณฑ์นี้ กกต. เพิ่งใช้ครั้งแรก ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. เมื่อก่อนใช้กับการปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอื่นๆ ในอดีต แต่ไม่ใช้ใน กทม. อย่างการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่ผ่านมา แต่ กกต. เลือกใช้ในครั้งนี้ เพื่อสลายเขตเลือกตั้งเดิม มีเพียง 4 เขตเท่านั้นที่เหมือนเดิม ถ้าหาก กกต. มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดดำเนินการหั่นเขต ก็แปลว่า การเลือกตั้งในครั้งต่อไป เพียง กกต. แก้ระเบียบขับตัวเลขเปอร์เซ็นต์ก็จะสลายเขตทันที”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นการไต่สวนในคดีที่เหลืออีก 3 คดี คือ การร้องคัดค้านเขตเลือกตั้งที่ จ.สุโขทัย และสกลนคร ซึ่งมีรายงานว่าศาลปกครองสูงสุดได้นัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 4 เม.ย. 2566 และนัดอ่านคำพิพากษาทั้ง 4 คดีในวันที่ 7 เม.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร ส.ส. ทั้งสองแบบ.