“พล.อ.ประวิตร” นำพรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีใหญ่ปราศรัยนราธิวาส อ้อน พูดไม่เก่งแต่ทำงานตามความต้องการประชาชนได้เร็ว ถ้าเป็นรัฐบาลอีกครั้งจะทำทุกอย่างเพื่อพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันที่ 17 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ ที่สวนมิ่งขวัญประชา อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส นำโดย พล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา โดยมี นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.นราธิวาส และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.นราธิวาส, นายแพทย์แวมาฮาดี แวดาโอะ หรือ หมอแว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 1, นายอามีร ซาริคาน ว่าที่ผู้สมัคร เขต 4 และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 2 ให้การต้อนรับ
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐใจถึงพึ่งได้ ตนเองเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่สามารถทำงานทุกอย่างได้รวดเร็วตามความต้องการของพี่น้องประชาชนได้แน่นอน มาวันนี้เพราะต้องการสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐทุกคนพร้อมแล้วทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง เราได้พิจารณาคัดสรรคนดี มีความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาทำงานให้กับพี่น้องทุกคน

...

“พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด ซึ่งระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ผมได้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ก็ได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนภาคใต้ทุกคน จะเห็นได้ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการพัฒนาก้าวหน้าในหลายเรื่อง เช่น เรื่องน้ำ ผมได้พยายามทำทุกอย่างให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีน้ำกินน้ำใช้ และเพื่อการเกษตร นำมาซึ่งเศรษฐกิจที่ดีขึ้น”
ในส่วนปัญหาความไม่สงบที่เคยขึ้น รัฐบาลก็แก้ไขจนปัญหาลดลงไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถจัดการให้เกิดความสงบขึ้นภายในประเทศไทยได้ อีกทั้ง พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่จะกำหนดพื้นที่ลดความรุนแรง และยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้ภายในปี 2570 เราจะทำให้พี่น้องอยู่ได้อย่างสงบสุขด้วยความเข้าใจร่วมกัน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ทุกคนก็คือคนไทย


“ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต้องมีงาน มีเงิน มีรายได้ มีความหวัง มีโอกาส ทุกคนต้องเท่าเทียมกันโดยที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม พรรคพลังประชารัฐจะผลักดันธุรกิจส่งออกอาหารฮาลาลไปทั่วโลก รวมถึงส่งเสริมการปลูกพืชพลังงาน อาหารสัตว์ และจะผลักดันให้เขตเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คู่ขนานไปกับ 3 รัฐของประเทศมาเลเซีย เราจะต้องเท่าเทียมกับเขา ถ้าพรรคพลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เราจะทำทุกอย่างเพื่อประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้”
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแนะนำ และฝากว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมระบุว่าขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเข้าไปเป็นตัวแทนของพวกท่าน เพราะบุคคลเหล่านี้จะเข้าไปทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ถึงแม้ตนพูดไม่เก่ง แต่ทำงานได้เพื่อประชาชน อนาคตรอเราอยู่ข้างหน้า พร้อมถือโอกาสวันนี้มอบความรักและความปรารถนาดีให้กับทุกคน ขอให้เชื่อมั่นในความรักความสามัคคี เชื่อมั่นในความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคพลังประชารัฐมีความปรารถนาดีต่อพ่อแม่พี่น้อง ต่อประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศของเราเกิดความสงบสุข มีความมั่นงคง และประชาชนมีความสุข
สำหรับบรรยากาศเวทีปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก พล.อ.ประวิตร พบปะทักทายประชาชน พร้อมถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง โดยประชาชนที่มารอรับต่างถือป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงป้ายสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ด้วย

