"ชาติพัฒนากล้า" อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ร้องศาลปกครองขอไต่สวนฉุกเฉิน เพิกถอนประกาศเขตเลือกตั้ง กทม. อ้าง ส่อขัดกฎหมายและไม่เป็นธรรมกับประชาชนและผู้สมัคร ส.ส. จับตา พรรคไหนไม่ขยับแสดงว่าได้เปรียบ
วันที่ 16 มี.ค. ที่ศาลปกครอง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เดินทางมายื่นต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาวิธีการชั่วคราวโดยเร่งด่วน ขอให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวนเขตเลือกตั้ง และท้องที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้ง หลังพบว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าว อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 27 (1) ให้รวมอําเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง โดยคํานึงถึงพื้นที่ที่ติดต่อใกล้ชิดกัน ความสะดวกในการคมนาคมระหว่างกัน และการเคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน ถ้าการรวมอําเภอในลักษณะนี้ จะทําให้มีจํานวนราษฎรมากหรือน้อยเกินไป ให้แยกตําบลของอําเภอออก เพื่อให้ได้จํานวนราษฎรพอเพียงสําหรับการเป็นเขตเลือกตั้ง แต่จะแยกหรือรวมเฉพาะเพียงบางส่วนของตําบลไม่ได้

...
ซึ่งการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ทั้ง 33 เขต พบว่ามี 13 เขต ที่ไม่มีเขตหลัก และใช้การรวมแขวงแบ่งเป็นเขตเลือกตั้ง ขณะเดียวกันกฎหมายยังกำหนดให้คำนึงถึงเขตเลือกตั้งเดิม แต่การแบ่งเขตใหม่ มีเพียง 4 เขตเท่านั้น ที่เหมือนกับเขตเลือกตั้งเดิม ซึ่งการสลายเขตเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่เป็นธรรมกับประชาชน และว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทำให้เกิดการสับสน
การแบ่งเขตที่ออกมา มีการรวมเฉพาะแขวงโดยไม่มีเขต (อำเภอ) หลักมาเป็นเขตเลือกตั้งใหม่ เช่น เขตเลือกตั้งที่ 8 ประกอบด้วย แขวงทุ่งสองห้องของเขตหลักสี่ และแขวงลาดยาว แขวงจตุจักร แขวงจอมพล ของเขตจตุจักร, เขตเลือกตั้งที่ 9 ประกอบด้วย แขวงอนุสาวรีย์ของเขตบางเขน และแขวงจันทรเกษม แขวงเสนานิคม ของเขตจตุจักร และแขวงตลาดบางเขนของเขตหลักสี่ และยังมีเขตเลือกตั้งอื่นๆ ที่เป็นการรวมเฉพาะแขวง โดยไม่มีเขตหลักถึง 13 เขตเลือกตั้ง ได้แก่เขตเลือกตั้งที่ 8, 9, 12, 13, 17, 18, 19, 21, 26, 27, 28, 29 และ 30 ซึ่งเป็นการรวมแขวงต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ไม่ได้รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ขัดต่อหลักเกณฑ์ตามมาตรา 27 (1)

“การรวมแขวงข้ามเขตแบบนี้ ถือเป็นการกระทบสิทธิประชาชน ทำให้เกิดความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะการแบ่งเขตใหม่ 33 เขตครั้งนี้ เหมือนกับการแบ่งเขตเลือกตั้งเดิมเพียง 4 เขตเลือกตั้งเท่านั้น” นายอรรถวิชช์ กล่าว
นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวว่า ได้พูดคุยกับเพื่อนนักการเมืองจากหลายพรรค รู้สึกแปลกใจและไม่เห็นด้วยกับการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ของ กกต. และจะทยอยออกมาแสดงความเห็น ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้งจะส่งผลให้เกิดความได้เปรียบกับใคร ก็ต้องติดตามดูว่าพรรคไหนไม่มีการเคลื่อนไหว.