“ราเมศ” โฆษกประชาธิปัตย์ ซัด “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” แค่ซากปรักหักพังทางการเมือง เมินให้ราคาคำพูด อัด มีแต่กากไม่มีแก่น โจมตีแต่พรรคอื่น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์
วันที่ 14 มี.ค. 2566 นายราเมศ รัตนะเชวง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นปราศรัยบนเวทีพรรคเพื่อไทย จ.พิษณุโลก และมีการกล่าวหาใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ความจริงแล้วไม่อยากให้ราคา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เวลาปราศรัย เพราะมีแต่กากไม่มีแก่น แทบไม่มีสาระที่จะให้ประชาชนฟังเพื่อเกิดประโยชน์จากการปราศรัย อีกทั้งมีความพยายามโจมตีพรรคการเมืองอื่นอยู่ตลอดเวลา
นายราเมศ ระบุต่อไปว่า ทุกครั้งที่ตนให้สัมภาษณ์ฉายาของ นายณัฐวุฒิ ที่ย้ำให้ประชาชนเห็นภาพชัดคือ นายณัฐวุฒิ เป็นแค่เศษซากปรักหักพังในทางการเมือง ส่วนที่บอกว่าไปดูที่พิพิธภัณฑ์ไม่เจอพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายณัฐวุฒิ คงเข้าพิพิธภัณฑ์ผิด เพราะที่ทั้ง 2 คนเข้าไปคือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์พรรคการเมืองที่โกงชาติ โกงแผ่นดิน รวบรวมประวัตินักการเมืองที่ทุจริตแล้วติดคุก รวบรวมชื่ออดีตนายกรัฐมนตรีที่ทุจริตแล้วหนีไปต่างประเทศ พิพิธภัณฑ์ที่เข้าไปจึงไม่มีชื่อพรรคประชาธิปัตย์

...
"ที่นายณัฐวุฒิ กล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่ควรอยู่ในทัณฑสถานนั้น ส่วนตัวไม่ให้ราคากับคำพูดนี้ เพราะเชื่อว่ายังไม่ได้ผ่านกระบวนการของความคิดทางสมอง ทัณฑสถานคือเรือนจำที่นายณัฐวุฒิเคยอาศัยอยู่ ที่แห่งนั้นคือที่อยู่ของผู้ต้องขังที่กระทำความผิด เข้าใจว่าคงฝังใจ หลับก็คุก ตื่นก็คุก เลยมีอาการหลอนๆ ในเรื่องเรือนจำตลอดเวลา กรมราชทัณฑ์มีนโยบายคืนคนดีสู่สังคม ถือว่าทำได้เป็นอย่างดีประสบผลสำเร็จ มีคนเดียวที่ไม่สามารถบรรลุสู่ความสำเร็จได้คือคนชื่อ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ"
ส่วนเรื่องที่กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีข้อหาสมคบกับคณะปฏิวัติ สมคบกับคณะยึดอำนาจนั้น ฝ่ายกฎหมายกำลังเก็บข้อมูลพิจารณาอยู่ ไม่อยากไปต่อความยาว พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ เพราะไม่ใช่วิถีทางแห่งประชาธิปไตย หลายคนที่ลาออกจากพรรคไปต่อสู้กับรัฐบาลทรราชที่โกงชาติบ้านเมือง ประชาชนรู้ว่านั่นคือต้นเหตุสำคัญที่ทหารออกมายึดอำนาจ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยไปคบคิดกับอำนาจนอกระบบเพื่อเปิดทางให้เกิดการรัฐประหาร แต่คนที่สร้างเงื่อนไข คนที่โกงกินประเทศ ใช้เสียงข้างมากข่มเหงเสียงข้างน้อย ไม่ยอมรับอำนาจตุลาการ คนที่เปิดทางให้รัฐประหาร คือพรรคที่นายณัฐวุฒิเคยร่วมอาศัยชายคาอยู่ และนำมาใช้อ้างเสมอว่าพรรคนั้นประชาธิปไตยหรืออยู่ฝั่งประชาธิปไตย แต่ความจริงที่เลวร้ายคือเป็นพรรคที่ทำลายระบบประชาธิปไตยมากที่สุด.