เลือกตั้ง 2566 : เปิดตัวตน "เศรษฐา" คือใคร ทำไมหาญกล้า ขอท้าชิงเก้าอี้นายกฯ (คลิป)

• หากคุณเศรษฐา มีโอกาสได้เป็นนายกฯ บริหารไทย ประเทศจำเป็นต้องดูส่วนไหนก่อน?
• ถ่อมตัว แคนดิเดตนายกฯ ถนนนี้อีกยาวไกล พรรคเพื่อไทย คนเก่งเยอะ เราต้องเจียมตัว แต่ตั้งเป้า GDP ไทยต้องโตปีละ 5%
• ยอมรับ ต้องปรับตัว บุคลิกนักธุรกิจ กับการต้องมาเป็นนักการเมือง ขณะจุดอ่อน พูดไทยคำ อังกฤษคำ ไม่ได้ต้องการโชว์เหนือ ยัน อยากพูดไทยได้หมดทุกคำเหมือน "ท่านชวน"
  
  

เลือกตั้ง: 2566 ถึงโค้งสุดท้าย การเมืองไทยคึกคัก ขึ้นมาทันตาเห็น ทุกพรรคการเมือง ต่างเปิดหน้า เตรียมพร้อมสู้ศึกแบบจัดเต็ม ขนาดพรรคการเมือง คนการเมือง เคยร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้านกันมา ยังต้องงัดกลยุทธ์ ชิงเหลี่ยมการเมือง แบบไม่มีเกรงใจ ซัดกันเองแบบประกาศออกไมค์ หวังโกยคะแนนประชาชนไว้ล่วงหน้า แบบไม่มีกั๊ก 

ทุกพรรคบอกเหมือนกันหมด ใครดีลกับใคร ใครจับมือกับใคร ยังบอกอะไรไม่ได้ เอาไว้หลังเลือกตั้งค่อยมาว่ากันเอา 

หันมาพรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองใหญ่ ฟากฝ่ายค้าน ที่เพิ่งเปิดตัว นายเศรษฐา ทวีสิน นั่งเป็น ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าเพื่อไทย ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าตัว (เศรษฐา ถึงกับยอมรับวันที่เปิดตัวสัมภาษณ์ถึงกับขาสั่น เมื่อเจอกองทัพสื่อมวลชน กล้องนับร้อยจับภาพมา ขณะที่ตนลงจากรถยนต์เดินมาหาที่หน้าพรรคเพื่อไทย )

สปอร์ตไลต์ ทุกดวงฉายจับไปที่ พี่นิด (เศรษฐา) แม้ความจริงสังคมก็พอรู้อยู่แล้วว่า เขาคือ ว่าที่ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คนที่ 2 ต่อจาก "อิ๊งค์" แพทองธาร 

"เศรษฐา ทวีสิน" คือใคร เชื่อว่าหลายคนอยากรู้จักชายผู้นี้ให้มากขึ้น รู้เพียงฉากหน้า เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ที่บริษัทมีทรัพย์สินนับแสนล้านบาท 

ยิ่งมาเข้าสู่การเมืองแบบเต็มตัว แถมปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่า เป็นอีกคนที่มีมีโอกาสนั่งเก้าอี้ผู้นำสูงสุดบริหารประเทศไทยในยามนี้ 

ทีมข่าวการเมือง ไทยรัฐออนไลน์ ได้โอกาสสัมภาษณ์แบบพิเศษ มาให้ประชาชนได้รับรู้ ตัวตนของชายผู้นี้แท้จริงเป็นใคร มีวิสัยทัศน์ จะนำประเทศไปทิศทางใดในอนาคต เราไปชมกัน 

ถ้ามีโอกาสได้เป็นนายกฯ บริหารประเทศไทย จำเป็นต้องดูส่วนไหนก่อน

นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีส่วนไหนก่อนส่วนไหนหลังครับ ถ้าคุณมาเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศแล้วนะ ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความยากจน ไม่ใช่เรื่องความเลื่อมล้ำ ไม่ใช่เรื่องเพศสภาพ ไม่ใช่เรื่องน้ำท่วม มันเป็นทุกเรื่องที่ต้องเดินไปพร้อมกัน บางคนบอกเรื่องปากท้องสำคัญ แน่นอนสำคัญ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก แล้วเรื่องอื่นล่ะ อาจไม่สำคัญสำหรับคุณ แต่สำคัญกับอีกคนหนึ่งคุณก็เป็นหน้าที่ในฐานะผู้นำสูงสุด บริหารจัดการเข้าถึงตรงนั้นให้ได้ เรื่องนี้สำคัญ

ถ่อมตัว แคนดิเดตนายกฯ ถนนนี้ อีกยาวไกล เพื่อไทย คนเก่งเยอะ เราต้องเจียมตัว

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า วันนี้ ผมเป็นแค่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าเพื่อไทย เราต้องมีความเจียมตัว วันนี้ผมเพิ่งเข้ามาที่นี่ ที่นี่มีคนเก่งเยอะมาก มีทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ไม่ใช่แก่อย่างเดียวมีความสามารถด้วย ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องให้เกียรติ อย่าไปล้ำหน้า ต้องทำในช่วงนี้ให้ดีก่อน แล้วถึงไปเสนอตัวเป็นแคนดิเดต แล้วสำคัญคนอีก 40 ล้านคนถึงมาเลือกเรา ไปถึงจุดนั้นแล้วพรรคเพื่อไทยจึงเสนอ 3 แคนดิเดต ฉะนั้น ถนนนี้อีกยาวนานครับ เอาวันนี้ดีกว่าช่วยกันเสนอนโยบายเพื่อไทยให้ตรงทาเก็ตกรุ๊ปดีกว่า

ถ้าเกิดได้เป็นรัฐบาล แนวทางบริหารเศรษฐกิจไปในทิศทางไหน

ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าเพื่อไทย ระบุว่า คำถามที่ไม่ได้ตอบง่ายๆ แต่ดูนะ อาเซียนเนี่ย มีประเทศอะไรบ้าง คู่แข่งของเราชัดเจนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เราแพ้จำนวนประชากร คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีดีพี เขาโตกี่เปอร์เซ็นต์ มากกว่าเราหลายเท่านะ ของเราโต 2.6% คุณแข่งขันกับใคร ตรงนี้สำคัญ เรื่องภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ เรื่องการดึงเอานักลงทุนต่างประเทศเข้ามา คุณแข่งกับใคร "เทสล่า" ตอนนี้แข่งกับใคร แข่งกับอินโดนีเซีย ถ้าให้ "เทสล่า" มาตั้งโรงงานที่เมืองไทยสิ ความมั่นใจ ความไว้วางใจ ธุรกิจต่อเนื่องดีกว่าใช่ไหมครับ ผมว่าเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนบ้านเราดีกว่า ผมว่าเรามาแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนก่อนเอาให้ดีครับ ผมว่า 4 ปี พอเพียง อยากเห็นเศรษฐกิจไทย โตเฉลี่ยปีละ 5% ให้ได้นะ

"ส่วนเรื่องสังคม เรื่องเลื่อมล้ำ เรื่องความเท่าเทียม ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ไม่ได้วัดได้ด้วย % แต่การที่เราบริหารจัดการได้ ผมเชื่อว่า การที่คนเราอยากจะมีครอบครัว มีบุตรเพิ่มมากขึ้น ไม่อยากย้ายประเทศ ไม่อยากย้ายถิ่นฐาน เรื่องการสมัครใจเกณฑ์ทหาร เป็นอะไรที่มันไม่เกี่ยวอะไรกับกระเป๋าสตางค์ว่า คุณยากจน หรือไม่ยากจน มันเกี่ยวกับความคับใจ ความไม่สบายใจ ที่ประเทศนี้มีอยู่" นายเศรษฐา กล่าว...

ย้ำ หน้าที่ตอนนี้ ให้คำปรึกษา หัวหน้าเพื่อไทย ลงพื้นที่นำเสนอนโยบายประชาชน มั่นใจทำเต็มที่

ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าเพื่อไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีข้อดีๆ อีกเยอะ เกษตรกรไทย ก็เก่งส่งเสริมเทคโนโลยี แต่ฝันที่เป็นจริง วันนี้ต้องตื่นก่อน ตื่นมาร่วมกันทำงานก่อน หน้าที่ผมก็ คือ มาให้คำปรึกษากับหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และมาช่วยลงพื้นที่นำเสนอนโยบายที่หวังว่า จะโดนใจประชาชน เพราะในอดีตพลังประชาชน หรือไทยรักไทย เขาก็ออกนโยบายหวือหวา คือ คิดใหญ่ ทำเป็น ทำได้ มีโอกาสได้ทำมาโดยตลอด ผมทำเต็มที่ มั่นใจ

เริ่มเรียนรู้งาน เตรียมขึ้นเวทีปราศรัย แต่จะไปพูดอะไร ข้อมูลต้องแน่นก่อน

นายเศรษฐา ยืนยัน ผมต้องลงไปดูพื้นที่ด้วยตนเอง ต้องไปนั่งคุยกับเขาเกษตรกรไทยต้องการอะไร ต้องเข้าใจก่อน อย่างผมจะขึ้นเวทีไปพูดกับเขา ผมจะพูดอะไร พูดเรื่องจีดีพีเหรอ เขาไม่เกี่ยว ผมจะพูดอะไรก็ต้องมีความรู้มีข้อมูลเพียงพอก่อน ตอนนี้ก็เรียนรู้ไปบ้าง ก็จะค่อยทยอยลงไป

ก็เริ่มโชว์ตัวแล้ว บางคนก็คอมเมนต์ฟังก็เหนื่อยครับ แต่ก็ไม่ได้ท้อนะ แต่เราก็ต้องปรับปรุงตัว เดินลงมาจากรถ เห็นกล้องก็ขาสั่นเลย เราก็ไม่เคยหรอก ยอมรับครับว่าเหนื่อยมากผมเป็นคนตรงไปตรงมา

ต้องปรับตัวมากไหม บุคลิกนักธุรกิจ กับการต้องมาเป็นนักการเมือง

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ก็ต้องปรับลุค ปรับตัวเอง เราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ชาวบ้านเขาจะรักจะชอบเรา มันไม่ใช่ผมแต่งตัวอย่างไร เป็นเรื่องนโยบายพรรคมากกว่า แน่นอนก็คงไม่แต่งตัวแบบนี้ (ใส่สูท) ลงไปพบปะประชาชน ใส่อะไรก็ว่ากันไปให้ถูกกาละเทศะ ต้องมี 2-3 เรื่อง เรื่องได้ภาพทางด้านสื่อ ถามว่าชอบไหม ก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้น ถามว่าจำเป็นหรือเปล่า ก็ไม่จำเป็น แต่อยากไปพูดคุยเรื่องเรื่องหาสาระมากกว่า

ยอมรับ จุดอ่อน พูดไทยคำ-อังกฤษคำ ไม่ได้ต้องการโชว์เหนือ-อยากพูดไทยได้หมดทุกคำเหมือน "ท่านชวน"

"ยอมรับอันหนึ่งที่เป็นจุดอ่อนผล ผมพูดไทยคำ-อังกฤษคำ ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้น ไม่ได้อยากโชว์เหนือหรอก แต่ผมเติบโตมาในสังคมแบบนั้น ผมเองผมก็ไม่คล่องเหมือนกัน ผมอยากพูดไทยทุกคำให้ได้เหมือน คุณชวน หลีกภัย ผมปลื้มท่าน การหาเสียงในครั้งนี้ ผมก็อยากพอจบแล้ว ผมก็พูดเป็นภาษาไทยได้ทั้งหมด อันนี้เป็นจุดหมายผมเหมือนกัน" นายเศรษฐา กล่าว...

งานนี้ กำลังจะเข้าสู่เทศกาลเลือกตั้งใหญ่  พรรคเพื่อไทย ที่โพลทุกสำนัก ไม่ว่าสำรวจครั้งไหน มีโอกาสสูง ที่จะได้ ส.ส. มากที่สุด หลังการการเลือกตั้งใหญ่ 7 พ.ค. 2566 นี้

หมากการเมืองตานี้ ก็ต้องบอกว่า เป็นแผนของพรรคเพื่อไทย ที่มี "อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย บุตรสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวขับเคลื่อนเรียกคะแนนให้พรรคมาตลอด 

และเมื่อ "แม่ทัพหญิง" ที่กำลังตั้งครรภ์ท้องที่สอง มีอันจะต้องไปลาคลอด ก็เลยต้องส่ง ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค คนที่ 2 ที่อยู่เบื้องหลังลงสนามการเมืองมาตลอด มาช่วยหาเสียง 

แต่ต้องจับตา เพราะพรรคเพื่อไทยนี้ อาจมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3 ให้ครบโควต้า เรียกเสียงฮือฮาอีกคำรบก็เป็นได้ เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ชื่อตัวอักษรย่อ "ส." สุรเกียรติ์ เสถียรไทย แล้วก็เงียบหายไป 

แต่งานนี้ไม่ได้บอกใบ้ ว่า แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3 ของเพื่อไทยจะใช่ "ส." คนเดิมนะ แค่ขอให้จับตา เพราะถึงสุดท้ายอาจ "ไม่มีอะไรในก่อไผ่" ก็ได้ ใครจะไปรู้

"จริงในเท็จ เท็จในจริง" นี่ละการเมืองไทย

 

ผู้เขียน:เดชจิวยี่ 

กราฟิก:Varanya.p