“บิ๊กตู่” ควง “บิ๊กป๊อก” ลุยอุดรฯ ยึดเวทีกล่อมผู้นำท้องถิ่นต้านพรรคจ้องยุบทิ้ง ซื้อใจ อบต.ประกาศขึ้นเงินตอบแทนมีผลเดือน ต.ค.นี้ พลิ้วเป็นการทำงานของรัฐบาลปกติไม่ใช่มาหาเสียง ไปต่อหนองบัวลำภู เตือนคนไทยจะอยู่กันแบบไร้กฎเกณฑ์ไม่ได้ ลั่นใจร้ายกับคนชั่ว ครวญจงเกลียดจงชังอะไรทหารนักหนา บอกขืนไม่มีทหารแล้วจะลำบาก “รทสช.-ปชป.” ฟัดกันนัว “จุรินทร์” ยัวะพรรคเฉพาะกิจตกปลาในบ่อเพื่อน หยันไปไม่รอด “ไตรรงค์” สาวไส้คนทิ้ง ปชป.เพราะไม่รักษาอุดมการณ์เหมือนเดิม แฉมีซื้อเสียงเลือกตั้ง กก.บห.จน ส.ส.อึดอัดอยู่ไม่ได้ “ชุมพล” รับเป็นเป้า “ชวน” โยงถูกทุ่มซื้อ 200 ล้าน โต้ไม่มีใครมาหว่านเงินตกเขียวยกจังหวัด ปชป.งานเข้า “สมชัย” ขย่มเอ็มวีเพลงเช้าวันใหม่ส่อผิดระเบียบ กกต. “ราเมศ” พร้อมสู้ทุกประตู “อีสานโพล” ตอกย้ำ “พท.-อุ๊งอิ๊ง” แชมป์ขวัญใจคนอีสาน “เจ๊หน่อย” รั้งที่ 2 ทั้งพรรคทั้งคน ขึ้นค่าแรงนโยบายโดนใจ พักหนี้-เติมทุน-บำนาญประชาชนไล่ตามหลัง

พรรคการเมืองระดมลงพื้นที่ พร้อมนำเสนอนโยบายที่ใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ใช้เวลาลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการต่างๆของรัฐบาล พร้อมทั้งลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน ล่าสุดไป จ.อุดรธานีพบปะกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยได้มีการประกาศเรื่องการขึ้นเงินตอบแทนให้แก่สมาชิก อบต.ที่จะมีผลช่วงเดือน ต.ค.นี้

...

“บิ๊กตู่”ควง“บิ๊กป๊อก”ลงพื้นที่อุดรฯ

เมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 2 มี.ค.ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานีและ จ.หนองบัวลำภู พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จากนั้นไปยังจุดแรกที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี มีนายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี และนายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยและสมาชิก อบต.ทั่วประเทศต้อนรับ นายกฯใช้รถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน ชธ 5559 กรุงเทพมหานคร ปฏิบัติภารกิจ จ.อุดรธานี มีนายชัชวาลล์ คงอุดม แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช.ร่วมลงพื้นที่ ท่ามกลางประชาชน สมาชิก อบต.ตะโกนให้กำลังใจ “ลุงตู่สู้ๆ” นายกฯได้ตอบกลับไป “ก็ขอให้ช่วยกันสู้เช่นเดียวกัน ขอให้สู้เพื่อประเทศชาติของเรา”

ขึ้นเวทีกล่อมโอ๋ท้องถิ่นต้องไปต่อ

จากนั้นเวลา 10.40 น. นายกฯเป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” โดยนายกสมาคม อบต.รายงานและกล่าวต้อนรับช่วงหนึ่งว่า เรามาให้กำลังใจนายกฯสานต่องานให้สำเร็จ และขอบคุณนายกฯที่มาเป็นกำลังใจ ต่อมานายกฯกล่าวปาฐกถา “ท้องถิ่นต้องไปต่อ” กับสมาชิก อบต.ทั่วประเทศกว่า 5 พันคนตอนหนึ่งว่า ขอบคุณมากทุกคนที่ได้มาเจอกัน เป็นโอกาสสำคัญ เพราะเราต้องทำงานร่วมกัน และถือว่าได้มีโอกาสพูดกับประชาชนทั้ง 70 ล้านคน ถือว่ามาขอบคุณและภาคภูมิใจกับพวกเราต้องร่วมมือกันแบบนี้ แม้ตนจะอยู่ในระดับบนแต่ดูระดับล่างด้วย มีความสัมพันธ์กับท้องถิ่น อยากให้โครงการต่างๆเกิดขึ้นในท้องถิ่นทุกชุมชนทั่วประเทศ ที่ จ.อุดรธานีมาหลายครั้ง ดีใจชื่นใจทุกครั้งที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอมา พยายามจะขับเคลื่อนประเทศ ลดปัญหาอุปสรรคความขัดแย้ง อยู่ที่ทำความเข้าใจและประชาชนร่วมมือ ทุกอย่างทำได้ คือหลักประชาธิปไตย หลายปีที่ผ่านมาไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น นั่นคือวิธีแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว

ขอเรียกฐานรากไม่เรียกรากหญ้า

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ภาคอีสานมีความเจริญเติบโตขึ้นมากในหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากมีสุขภาพจิตดีขึ้น เพราะให้แก้ปัญหาลงในครัวเรือน ผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้าน เชื่อว่าทุกจังหวัดมีอะไรดีๆเกิดขึ้น ต่อไปจะสร้างความเจริญเติบโตให้ทุกจังหวัดใกล้เคียงกัน ไม่อยากให้เรียกรากหญ้า เพราะท่านไม่ใช่รากหญ้าแต่คือฐานรากของประเทศ ไม่ได้พูดเอาใจเพราะท่านคือผู้ที่จะทำรายได้ให้ประเทศ ท้องถิ่นต้องช่วยกันเพื่อแข็งแรงไปด้วยกัน ประเทศเราไม่เล็กมีคน 70 ล้านคน อะไรทำได้ไม่ต้องห่วง ทำให้อยู่แล้ว การเป็นรัฐบาลและเป็นนายกฯไม่ใช่ง่ายและไม่ใช่คนเก่งกาจทำคนเดียวได้ ทุกคนช่วยกันทำงานตั้งแต่ท้องถิ่นถึงข้างบนต้องทำสำเร็จวันนี้และสำเร็จมาแล้ว ปรบมือให้ตัวเองหน่อย ด้านพลังงานต้องหาพลังงานใหม่เข้ามาเพราะเราขาดแคลนอย่างน้อยไฟไม่ดับไฟเพียงพอ น้ำมันยังมีขายถึงราคาสูงขึ้นเป็นไปตามกลไกตลาด รัฐบาลต้องหาเงินมาเสริม กู้เงินมากว่าแสนล้านเฉพาะพลังงานอย่างเดียว รวมถึงแก๊สอีก ทำเพื่อพี่น้องประชาชน ต้องเข้าใจทำได้มากน้อยแค่ไหน จะทำให้อย่างอื่นล่มไปด้วยหรือเปล่า แม้แต่การพัฒนาพื้นที่ต้องคำนึงถึงงบฯ อะไรทำได้ทำแล้วต้องไม่ผิดกฎหมาย เป็นธรรมทุกพื้นที่

ยุ อปท.ยอมไหมคนจ้องยุบท้องถิ่น

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ครอบครัวสังคมไทยแตกแยกไม่ได้ มีบางข่าวไม่แน่ใจใครพูดจะยุบท้องถิ่น จะให้เขายุบหรอ จะให้ยุบไหม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้เหล่า อบต.ต่างตอบว่า ไม่ให้ยุบ นายกฯจึงกล่าวอีกว่า ใครพูดตนไม่รู้ ส่วนการจะให้อะไรก็ตามในฐานะที่เป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ ต้องดูงบฯมีแค่ไหน ไม่ใช่ว่าได้เท่าไหร่จ่ายหมด มันไม่ได้ เรารับผิดชอบหนี้ ก่อนหน้านั้นมีมาสมควร ไม่ใช่มาเริ่มที่สมัยตน ต้องดูมือซ้ายทำอย่างไรเงินจะเพิ่มขึ้น แต่ทางขวาต้องเตรียมความพร้อม นี่คือสิ่งที่ต้องฝากลูกหลานทุกคน สุดท้ายนี้ขอชื่นชมพี่น้องท้องถิ่น ผู้บริหาร อบต.ทั่วประเทศที่เกี่ยวข้อง ช่วยการพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็งดีขึ้นเรื่อยๆและทำต่อไป

ประกาศขึ้นค่าตอบแทน อบต.ซื้อใจ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนการกระจายอำนาจ ไม่หวงไว้ เราจะหวงไว้ทำไม แต่ทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย วันเดียวกันนี้ตนได้พูดคุยกระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลจะปรับค่าตอบแทนให้กับนายก อบต. รองนายก อบต. ประธานสภา และรองประธานสภา สมาชิก อบต. และเลขานุการ อบต. ขณะนี้ รมว.มหาดไทยกำลังดำเนินการ คาดว่าจะลงนามแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษาในสัปดาห์หน้า ยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่การหาเสียง เพราะเรื่องนี้ทำมานานแล้ว แต่บังเอิญทำได้ในช่วงนี้ และมาที่นี่พอดี และจะยกฐานะ อบต.เป็นเทศบาล ขณะนี้ รัฐบาลกำลังทำร่างประมวลกฎหมายท้องถิ่นให้ อบต. ยกฐานะเป็นเทศบาล ตามหลักการของการปกครองท้องถิ่นตามหลักสากลต่อไป ทุกคนจะต้องเรียกตัวเองว่า นายกเทศมนตรี โอ้โห ใหญ่โตกันทั้งหมด ถือว่าใหญ่โต วันข้างหน้าจะได้เป็นนายกฯจะมายืนอยู่ตรงนี้ เมื่อถึงตรงนี้นายกฯยกมือทุบอกตัวเอง พร้อมบอกว่าแต่โจทก์เยอะหน่อย

พลิ้วรัฐบาลทำงานปกติ ไม่ใช่หาเสียง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรื่องสวัสดิการของนายกและรองนายก อบต. ประธาน รองประธาน สมาชิกและเลขานุการ รัฐบาลทราบถึงความยากลำบาก กำลังพิจารณาสวัสดิการ เช่น ค่ารักษาพยาบาลค่าเลี้ยงดูบุตร นี่ไม่ใช่การมาหาเสียง เป็นการมาทำงานตามปกติ แต่จำเป็นต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จให้เร็วๆ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันข้างหน้าอาจปรับเปลี่ยน พัฒนาไปให้ดียิ่งกว่าเดิมก็ได้ เริ่มไปแล้วและทำไปแล้ววันหน้าก็ทำต่อๆไป ไม่ใช่จะเสนอแต่จะให้ยุบองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมันไม่ได้ พูดมากไปเดี๋ยวมีเรื่องอีก

ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังประกาศขึ้นค่าตอบแทน อบต.ว่า เขาได้รับการพิจารณาจากกระทรวงมหาดไทยมาแล้วใช้งบฯ อบต. กำลังพิจารณาอยู่ รายละเอียดไม่ทราบ รู้แต่เพียงหลักการ เมื่อถามว่าการขึ้นค่าตอบแทน อบต.ถูกมองว่าหาเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “คุณมองยังไงก็ไปอย่างนั้น แล้วแต่คุณจะมอง แต่เป็นการทำงานปกติของรัฐบาล เร็วๆนี้จะทำได้ อบต.ยกสถานะเป็นเทศบาลยกระดับทั้งหมด”

ขึ้นค่าตอบแทนมีผลเดือน ต.ค.

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการยกระดับ อบต.เป็นเทศบาลว่า ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนการตราในประมวลกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วที่จะมีผลกับ อบต.ทั่วประเทศ โดยถือว่าเป็นไปตามหลักสากลให้เป็นนายกเทศมนตรี ซึ่งสถานะ อบต.จะเป็นเทศบาลทั้งหมด ส่วนการเพิ่มค่าตอบแทนกฎหมายเสร็จแล้วอยู่ในขั้นตอนพิจารณารายละเอียด คาดว่าวันที่ 6 มี.ค.จะประกาศได้ในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลช่วงประมาณเดือน ต.ค.โดยหลักการจะคำนวณจากรายได้ มีหลักเกณฑ์อยู่

ชาวอุดรฯชูป้ายโคตรรักลุงตู่

ต่อมาเวลา 12.30 น.ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี นายกฯพบปะชาว จ.อุดรธานีที่มาให้กำลังใจ ชูป้ายขอบคุณโครงการรัฐบาล หรือป้ายชาวอีสานรักลุงตู่ ลุงตู่ซื่อสัตย์จริงใจ ไร้โกง โคตรรักลุงตู่ ใครด่าลุงกูด่ากลับ พร้อมเปิดเพลง “รักกันไว้เถิด” โดยนายกฯร้องตามแล้วกล่าวขอบคุณชาวอุดรฯ หลายเรื่องที่ขึ้นป้ายรับทราบรัฐบาลจะนำกลับไปพิจารณาดูแล เมื่อเช้ามอบนโยบาย อบต.ให้แนวทางต้องกลับมาดูแลประชาชนฐานรากให้มากขึ้น รัฐบาลจำเป็นต้องหางบฯเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายไปสู่ท้องถิ่นให้มากขึ้น ยืนยันจะทำเต็มที่ให้ดีที่สุด เพราะนี่คือคนไทยด้วยกันเราต้องร่วมจิตร่วมใจเป็นคนไทยที่ดี ขอรัก สามัคคี ก่อนถามชาวบ้านว่า ให้นายกฯได้ไหมไม่ทะเลาะเบาะแว้งแตกแยกกัน รัฐบาลต้องดูแลทุกคนอย่างทั่วถึง วันนี้ไปทุกจังหวัดได้ทั่วประเทศไปรับฟังปัญหาหาวิธีการแก้ไข “ถ้าไม่รักลุงตู่ แล้วจะไปรักแมวที่ไหน มาวันนี้เอาหัวใจมาฝาก ในนามนายกฯรักทุกคน ผมเป็นนายกฯวันนี้ต้องรักวันนี้ วันหลังก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำเพื่อคนไทยทุกคนมาตลอดเวลาที่ผ่านมา ขอบคุณในน้ำใจไมตรี แด่ชีวีที่ยังคงมีค่า กว่าไตรรงค์ที่คลุมโปงเมื่อยามตาย”

ไปหนองบัวลำภูตามปราบยาเสพติด

จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์มายัง อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ตรวจติดตามงานมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.หนองบัวลำภู ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (หนองบัวลำภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด) และร่วมเป็นสักขีพยาน ผวจ.หนองบัวลำภู มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.4-31ก.) ใช้ก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์แห่งใหม่ ให้แก่นายกอบต.อุทัยสวรรค์ มี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ร่วมงาน โดยนายกฯขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชนว่า มาเยือนอีกครั้งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนต.ค.65 เป็นความสูญเสีย สะเทือนใจคนไทยทุกคน ยาเสพติดเป็นต้นตอสำคัญ ได้สั่งการชัดเจนให้ทุกฝ่ายบูรณาการช่วยแก้ปัญหาสู่เป้าหมายเป็นต้นแบบ จังหวัดที่ปลอดยาเสพติด วันนี้เราจับกุมดำเนินคดีจำนวนมาก กำชับทุกหน่วยงาน ต้องสร้างการรับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้โสโครก รัฐบาลมุ่งเน้นป้องปราม ป้องกันและปราบปรามสุดท้ายบำบัดฟื้นฟู ช่วยกันแจ้งมีหลายช่องทาง ถ้าแจ้งแล้วไม่มีใครมาให้แจ้งมาที่นายกฯ สิ่งสำคัญเจ้าหน้าที่ทุกคนถ้าเกี่ยวข้องยาเสพติดตนลงโทษเด็ดขาด ถ้าทำดีสนับสนุน

อยู่กันไร้กฎเกณฑ์ไม่ได้

นายกฯกล่าวว่า เราต้องสร้างการเรียนรู้ของเราให้มากยิ่งขึ้น ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ทันคนชั่วพวกนี้ เรื่องทุจริตถ้าต่างคนต่างนิ่งเฉยไม่มีทางที่ประเทศจะใสสะอาด พยายามทำด้วยตัวเองไม่ทุจริต เพราะเป็นผู้นำรัฐบาล ปัญหายาเสพติดซับซ้อนบางทีมีใต้โต๊ะ อะไรอีกเยอะแยะ อย่าให้ใครมาทำลายสถาบันครอบครัวเด็ดขาดยอมไม่ได้ ถ้าทำลายประเทศไทยจะไม่เหลืออะไรทั้งสิ้น เราจะอยู่แบบไร้กฎเกณฑ์กติกากันไม่ได้ นายกฯเป็นคนตลกไม่ใจร้ายไส้ระกำ แต่ใจร้ายกับไอ้คนชั่ว มีอะไรคิดอะไรไม่ออกบอกทหารแล้วกัน ขืนไม่มีทหารจะลำบาก เพราะกระทรวงไม่มีคน ทหารมีไว้รบ ทหารวันนี้ลดลงน้อยมากจากอัตราเต็ม แต่นี่คือประเทศของเรา ขอให้เชื่อมั่น ถ้าเรามีปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้ง ทหารเข้าไปช่วยก่อนไม่ต้องจ้างทำทุกอย่าง แล้วทำไมจงเกลียดจงชังทหารนักหนาไม่เข้าใจ

ต่อมานายกฯเยี่ยมชมนิทรรศการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแต่ละอำเภอ พร้อมให้กำลังใจผู้ได้รับการบำบัดและเจ้าหน้าที่ ก่อนเดินทางกลับได้ถ่ายรูปสมาชิก อบต.หนองบัวลำภู และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู พรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนกล่าวว่า โชคดีนะจ๊ะทุกคน แล้วหันมาโบกมือและส่งสัญลักษณ์มินิฮาร์ทให้ประชาชน ขณะที่บรรยากาศชาวบ้านได้นำดอกกุหลาบมามอบ และมีป้ายต้อนรับ อาทิ นายกฯในดวงใจ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อลุงตู่สู้ๆ ขอให้อยู่นานๆ ขณะที่นายกฯได้เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ตู้โตโยต้าอัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ขก 7927 กรุงเทพมหานคร

มือบวมหมอเช็กแล้วไม่เป็นอะไร

ต่อมาเวลา 15.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ว่า รักทุกคน จริงใจให้กัน เดินได้แน่ประเทศไทย ผู้สื่อข่าวถามว่ามือนายกฯที่บวมเป็นอะไร นายกฯ กล่าวว่า มันบวมนิดหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน แต่เช็กแล้วไม่เป็นอะไร อาจพูดมากมั้ง เดี๋ยวก็หาย ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย อะไรที่พูดไปเป็นเรื่องที่เราอยากให้เขามีความสุขเข้าใจหรือไม่ ซึ่งเราก็รู้ว่าบรรยากาศที่นี่ก่อนหน้านี้มันเศร้า อยากให้เขาคลายเครียด แต่งานต้องทำจริง เมื่อถามว่าลงพื้นที่ถี่ๆเหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เหนื่อยๆ ลงมาตรวจงาน เมื่อถามว่าจะตรวจจนวินาทีสุดท้ายจนยุบสภาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มก่อนตอบว่า “ฉันเป็นนายกฯต้องมีหน้าที่ทำงานทุกวันหรือเปล่าจ๊ะ งานมันเข้ามาตลอดแหละจ้ะ” ทั้งนี้มือขวาของนายกฯบวมเห็นได้ชัด จากการสอบถามคนใกล้ชิดนายกฯเปิดเผยว่า เกิดจากอาการนิ้วล็อก นายกฯได้โทรศัพท์หาหมอระหว่างลงพื้นที่แล้ว และระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์พบประชาชนได้บอกว่ามือบวมนิดหน่อย

“3 สี” ตอก “อู๊ดด้า” ตกปลาบ่อตัวเอง

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค รทสช.กล่าวถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่า มีพรรคที่จ้องตกปลาในบ่อเพื่อนว่า พรรคที่นายจุรินทร์พูดถึงคงชั่วจังเลย แต่คิดว่าพรรคปชป.ต้องมีวิธีป้องกันคนของตัวเองไม่ให้ออกด้วย เรื่องนี้มันมี 2 ประเด็นคือ 1.มีพรรคการเมืองที่พยายามจะไปตกลงกับสมาชิกของพรรคอื่นโดยระบุว่าจะให้เงินให้ทอง 2.มีบางพรรคที่กลัวสมาชิกจะออกก็ยัดเงินประมาณว่าอย่าออกนะ ให้เงินเท่าโน้นเท่านี้ แบบนี้เรียกว่าตกปลาในบ่อตัวเอง เมื่อถามว่ามีการระบุว่านายไตรรงค์ดึงสมาชิกพรรค ปชป.มาอยู่พรรค รทสช. นายไตรรงค์กล่าวว่าคนที่มาจากพรรค ปชป.เหมือนตน อยากถามว่าใครจะมาตกตนได้ แค่คันเบ็ดมาก็ถูกเตะก้านคอแล้ว ยังไม่ทันได้ตกเลย “คนที่ออกมาจากพรรค ปชป.ต้องไปถามเขาดูว่า ทำไมเขาถึงออก เพราะพรรค ปชป.ไม่สามารถรักษาอุดมการณ์เดิมไว้ได้แล้ว ตั้งแต่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เสียชีวิต อุดมการณ์อ่อนมาเรื่อยๆ สังเกตมาตลอด และคนที่อยู่ก็ไม่รักษาอุดมการณ์ เมื่อก่อนพรรค ปชป.เลือกกรรมการบริหาร (กก.บห.) ไม่เคยซื้อเสียง แต่ระยะหลังซื้อกันคนละแสน สองแสน ได้ข่าวยัดเงินบางคนไปจนถึงล้านแล้ว คนอย่างผมจะอยู่ได้อย่างไร ถ้าพรรคตกต่ำถึงขนาดนี้”

สาวไส้ซื้อเสียง กก.บห.ปชป.ไม่คงเดิม

เมื่อถามย้ำว่ายืนยันไม่ได้ไปตกคนจากพรรคปชป.มาใช่หรือไม่ นายไตรรงค์กล่าวว่า ไม่มีเขามาเอง ไปตกเขาได้อย่างไร แต่ละคนมีเงินมากมายกันทั้งนั้น “อย่างนายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี มีเงินเป็นพันๆล้านใครจะไปตกเขาได้ อย่างผมไม่ค่อยมีเงิน รอให้มันมาตก เสือกไม่มีใครตก ไม่ต้องให้ถึง 200 ล้านหรอก ให้แค่ 1 ล้านก็ไปแล้ว เพราะคนอย่างผมมีกิเลสหนา ยืนยันว่าการที่มาพรรค รทสช.มาเอง ส่วน ส.ส.จากพรรคอื่นที่มาไม่เห็นมีใครมาด้วยเงิน เขามาสมัครกันเยอะแยะเพราะเขาทนที่เดิมไม่ได้ สำหรับนายชุมพลผมเป็นคนไปเจรจาเองเพราะเขาอึดอัด เพราะลูกสาวเขาบอกว่า อยู่ๆมีการเลือกตั้ง กก.บห.พรรค ปรากฏว่ามีคนเอาเงินมาให้ 5 แสนบาท บอกให้ช่วยเจรจาในกลุ่มมีอยู่ 3 คนให้ช่วยยกมือเลือกให้ ลูกสาวนายชุมพลมาเล่าให้พ่อฟังนี่มันเกิดอะไรขึ้นในพรรค ปชป. นายชุมพลจึงบอกให้ลูกสาวเอาเงินไปคืน เงิน 5 แสนบาท ไม่มีความหมาย เพราะพ่อมีเงินเป็นพันล้าน นี่คือความอึดอัดของลูกสาวนายชุมพล ที่บอกว่าไม่อยากอยู่แล้วพรรค ปชป. เพราะมันไม่เหมือนเดิมแล้ว” เมื่อถามว่าเรื่องนี้หัวหน้าพรรคเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายไตรรงค์กล่าวว่าไม่ทราบ แต่นายจุรินทร์เป็นคนไม่มีตังค์อยู่แล้ว ตนรวยกว่านะเพราะภรรยารวย นายจุรินทร์ไม่ได้รวยเหมือนตน แต่ที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพราะนายชวน หลีกภัย สนับสนุน นายชวนบอกกับตนเอง

“ชุมพล” รับ “ชวน” พูดถึงถูกซื้อ 200 ล้าน

นายชุมพล กาญจนะ รองหัวหน้าพรรค รทสช.ให้สัมภาษณ์กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯและแกนนำพรรค ปชป. ระบุว่าพรรค รทสช.ตกปลาในบ่อเพื่อน โดยเฉพาะคนจากพรรค ปชป.ระบุถึงเงิน 200 ล้านบาท หากได้ ส.ส.ยกจังหวัดว่า ยอมรับว่าคนที่นายชวนพูดถึงนั้นเป็นตน กับนายชวนเคารพรักกันมานาน นับถือนายชวนเหมือนเป็นทั้งพ่อและพี่ ที่ผ่านมานายชวนไป จ.ตรังจะแวะทานข้าวที่บ้านตนที่ จ.สุราษฎร์ธานีอยู่บ่อยๆก็พูดคุยปรึกษาหารือในเรื่องการเมืองเสมอๆโดยเฉพาะการเมือง ปัจจุบันมีการใช้เงินใช้ทองกันเยอะมาก ช่วงที่ตนป่วยนายชวนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ได้พูดกับท่านว่าหนักใจหลายเรื่องในพรรค ปชป. เหมือนต่างคนต่างอยู่ แตกแยกกันเยอะ ลูกสาวตนอยู่พรรค ปชป.หลายปีมาบอกว่าที่พรรคอยู่กันเป็นก๊วนเป็นก๊ก เขาไม่สบายใจไม่อยากอยู่ จึงพูดกับนายชวนว่าลำบากใจ

ปัดวุ่นไม่มีหรอกตกเขียวยกจังหวัด

“ผมบอกว่าตอนนี้มีพรรคการเมืองมาคุยเยอะแยะ เรื่องเงินทอง อยู่พรรค ปชป.มา 30 ปีจำได้ไม่มีลืม มีแต่ให้ ไม่เคยได้เงินจากพรรคมีแต่ให้ เงิน 200 ล้านนายชวนอาจประเมินเอา ผมบอกแต่ว่าตอนนี้ซื้อกันเยอะแยะ รู้สึกจะไม่ธรรมดาแล้ว มีหลายพรรคมาหาตนบอกว่าจะให้เท่าโน้นเท่านี้ แต่ไม่ได้คุยอะไรเรื่องเหล่านี้ ข่าวที่บอกเสนอให้ทั้งจังหวัด 200 ล้านไม่มีหรอก มีแต่พรรคโน้นพรรคนี้บอกว่ามาอยู่ด้วยกันนะ จะช่วยเงินช่วยทอง ผมเขียนจดหมายลานายชวน ไม่กล้าไปหาท่าน เพราะคนเคยกิน เคยอยู่ด้วยกัน ผมมาอยู่ที่พรรค รทสช.มีความสุข ได้เจอพรรคพวกเก่าๆที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน มาร่วมกันทำงานเหมือนพี่เหมือนน้อง ไม่ได้มีอะไรอย่างอื่น มาที่นี่ไม่ได้เงินได้ทองเหมือนกัน มีแต่หมดทุกคนเหมือนจะรู้ว่าผมไปอยู่ที่ไหนมีแต่จะหมดเงินเสียเงิน ไม่มีได้เงินจากพรรคนั้นเลย มาที่นี่ไม่มีพูดถึงเรื่องเงิน ไม่เคยได้เลยแม้แต่บาทเดียว เพราะเป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้น” นายชุมพล กล่าวเมื่อถามว่ารู้สึกตกใจกับข่าวที่ออกมาหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่าไม่ตกใจ เพราะตนกับนายชวนไม่มีอะไร ไม่ได้โทร.ไปเคลียร์ เพราะกับนายชวนอยู่กันอย่างพี่น้อง คิดว่าท่านเข้าใจตนดี แต่ถ้ามีโอกาสคงจะได้พูดคุยกัน

“สมชัย” ชี้ MV ปชป.ส่อผิดระเบียบ กกต.

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวเรื่อง “น่าจะเป็นอดีต กกต.ที่แย่ที่สุดจริง” มีใจความว่า มีผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า ผมเป็นอดีต กกต.ที่แย่ที่สุด ไม่รู้เรื่องราว กฎหมายใดๆ แล้วชอบออกมาแสดงความคิดเห็น ให้กลับไปอ่านกฎหมายเยอะๆ ผมน้อมรับคำแนะนำ เลยกลับไปอ่านกฎหมายให้มากขึ้น พอไปอ่านระเบียบการเลือกตั้งของ กกต. เลยพบว่า MV ของพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเข้าข่ายผิดระเบียบการหาเสียงของ กกต. ระเบียบการหาเสียงข้อ 18 บอกว่าห้ามผู้สมัครที่เป็นนักร้อง ใช้ความสามารถทางวิชาชีพของตน เพื่อเอื้อประโยชน์หาเสียงให้แก่ผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมือง แต่ยกเว้นให้กรณีไม่มีอุปกรณ์การแสดง”

ชี้ 3 ปมมีคนร้องแน่

“สิ่งที่ปรากฏใน MV คือ 1.มีนักร้อง คือ คุณเมธี ลาบานูน เป็นผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาสของพรรคประชาธิปัตย์ 2. MV ดังกล่าวมีคุณเมธีเป็นผู้ร้องและมีจังหวะดนตรีพร้อมอุปกรณ์การแสดงคือชุดกลองและกลองสะบัดชัย 3.คนตีกลองชุด ผมไม่รู้จัก แต่คนตีกลองสะบัดชัยที่ร่วมแสดงมหรสพนั้น คล้ายคุณชวน หลีกภัยมาก ผิดไม่ผิดไม่ทราบ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของพรรคช่วยตอบเป็นความรู้ด้วย ก่อนที่จะมีคนไปร้อง กกต.ครับ Cr.ภาพ : MV พรรคประชาธิปัตย์” นายสมชัย ระบุทิ้งท้าย

โฆษก ปชป.ยันพร้อมแจงทุกข้อต่อสู้

นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ระบุว่าเอ็มวี (MV) เพลงเช้าวันใหม่ที่พรรค ปชป.ใช้หาเสียงเข้าข่ายผิดระเบียบ กกต.ว่า ยอมรับว่าอ้างระเบียบข้อที่ 18 ของระเบียบ กกต.ระบุไว้ว่าห้ามไม่ให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคที่มีวิชาชีพนักร้องคือนายเมธี อรุณ หรือเมธี ลาบานูน เอื้อประโยชน์หาเสียงให้พรรค แต่อย่าลืมว่านายเมธีเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ที่แสดงเจตจำนงและพรรคมีมติว่าให้นายเมธีลงสมัคร ส.ส. การทำแคมเปญประชาสัมพันธ์รูปแบบใหม่คือการจัดทำเอ็มวีโดยคนทุกรุ่น รวมสมาชิกเข้าด้วยกัน ไม่ได้เข้าข่ายผิดกฎหมาย มั่นใจเพราะเป็นฝ่ายกฎหมายไม่กังวล หากมีใครไปร้องเรียนพร้อมชี้แจง แต่คนที่ร้องต้องระมัดระวังเหตุผล เพราะเมื่อเรายืนยันว่าถูกต้อง ไม่ใช่เป็นสิ่งที่พรรคการเมืองไม่เคยทำหรือพรรค ปชป.ไม่เคยทำ แต่ทำมาตลอด แต่คาดว่าอีกไม่กี่วันสถานการณ์การเมือง อาจมีการเปลี่ยนแปลงไป หากนายกฯประกาศยุบสภา จะมีข้อแตกต่างของกฎหมายมากพอสมควร ยืนยันว่าการทำเอ็มวีนี้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด หาเสียงต้องมีแคมเปญเพลงของพรรค บอกเป็นการรื่นเริงไม่ได้ ไม่ได้มีประชาชนมาดูหลายพันคน แต่เพื่อสื่อสารแบบดิจิทัล บันทึกภาพและเสียงให้ประชาชนเห็นผลงานพรรคในอนาคต

“จุรินทร์” โว 4 ประสานยึดพังงายกทีม

เมื่อเวลา 11.00 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวระหว่างลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.พังงา พรรค ปชป.ว่า จ.พังงามี 2 เขตเลือกตั้ง เขต 1 พรรคจะส่งนางกันตวรรณ ตันเถียร เขต 2 ส่งนายราเมศ รัตนเชวง ลงสู้ศึก และจะส่งนายบำรุง ปิยนามวาณิช หรือนายกหลี่ รวมทั้งตนลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ถือเป็นการรวมพลัง 4 ประสาน “จุรินทร์ บำรุง กันตวรรณ ราเมศ” สู้ศึกเลือกตั้งพังงาทั้ง 2 เขต มั่นใจว่าเราจะได้พังงายกทีม 2 เขต แถม “จุรินทร์” กับ “อดีตนายก อบจ.บำรุง” ส่วนกรณีพรรค ปชป.จะถูกร้องเรียนเรื่องเอ็มวีเพลงที่ใช้หาเสียง เราก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเรา เพราะ ปชป.เน้นการทำหน้าที่ เราเป็นพรรคแรกที่มีสโลแกนพูดเรื่องการทำคืออุดมการณ์ทันสมัย ทำได้ไว ทำได้จริง ต่อมาจะเห็นว่ามีหลายพรรคทำตามกันมา ฉะนั้นจะก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ต่อไป เรื่องที่จะมากระทบ ทุกอย่างมีกรอบกติกากฎหมาย ระเบียบ ทุกอย่างเป็นไปตามนั้นทุกกรณี ไม่มีใครที่อยู่นอกกรอบ กฎหมาย

ฉะพรรคเฉพาะกิจฉาบฉวยไปไม่รอด

นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีก่อนยุบสภายังคงมี ส.ส.ย้ายพรรค แต่มีการพูดว่าไม่มีการตกปลาในบ่อเพื่อน ทุกคนรู้กันทั้งประเทศ ฉะนั้นต้องบอกว่าเรื่องแบบนี้ ไม่ยั่งยืนเพราะพรรคที่ตกปลาในบ่อเพื่อน สุดท้ายเป็นพรรคเฉพาะกิจ ไม่มีวันจะเป็นสถาบันทางการเมืองได้ เพราะพรรคสถาบันทางการเมืองต้องสร้างคนให้ประเทศ สร้างนักการเมืองคุณภาพ การไปรวมคนที่ย้ายพรรคอื่นมาคือการตกปลาจากบ่อเพื่อนมา แบบนี้ไม่มีความยั่งยืน มีตัวอย่างชัดที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยคือพรรคสามัคคีธรรม ที่ไปรวมดูดพรรคอื่นๆมาแล้วสุดท้ายอยู่ได้ไม่กี่วัน พอพ้นคนที่ประกาศตัวจะเป็นนายกฯไปก็ล้มเหลว สุดท้ายไปไม่รอดไปต่อไม่ได้ ต้องช่วยสนับสนุนพรรคที่เป็นสถาบัน สร้างคนคุณภาพให้การเมืองของประเทศ ไม่ใช่ไปสนับสนุนการทำพรรคการเมืองที่ฉาบฉวยเฉพาะกิจ เพราะถ้าเราเลือกพรรคการเมืองเฉพาะกิจ เราก็ได้อนาคตเฉพาะกิจให้ประเทศเช่นกัน

“ชัยชนะ” ฉะ “สามสี” เผาบ้านเก่า

เมื่อเวลา 18.15 น. นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวตอบโต้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค รทสช. พาดพิงพรรค ปชป.มีการซื้อเสียงในการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคว่า นึกไม่ถึงว่านายไตรรงค์ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นนักการเมืองคุณภาพ จะทำตัวเข้าทำนองให้ร้ายบ้านเก่าเพื่อเอาใจบ้านใหม่หลังย้ายพรรค ไปอยู่พรรค รทสช. พอถูกหัวหน้าพรรค ปชป.ระบุว่ามีพรรคที่ตกปลาในบ่อเพื่อน นายไตรรงค์ตบะแตกแสดงพฤติกรรมให้พรรคเดิมเลวร้าย หวังให้ประชาชนสงสารและเลือกกลับสภาฯอีกครั้ง อ้างคำบอกเล่าของ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ บุตรสาวนายชุมพล กาญจนะว่ามีคนเอาเงินมาให้ 500,000 บาทแลกกับการล็อบบี้อีก 3 เสียงให้ยกมือสนับสนุนบางคนให้ได้เป็น กก.บห.พรรค ยืนยันว่าไม่มี หากมีข้อเท็จจริงขอให้ยืนยันแสดงหลักฐานมา นายไตรรงค์อ้างว่าอุดมการณ์พรรคอ่อนลง ทำไมถึงอยู่พรรค ปชป.มาจนถึงปลายปี 65 ทั้งที่ ม.ร.ว.เสนีย์ถึงแก่อสัญกรรมไปตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.2540 ระหว่าง 25 ปีที่ผ่านมาทำไมไม่คิดแก้ไข

พช.ดันแพลตฟอร์มคุ้มครองแรงงาน

นายรักษ์ชาติ วงศ์อธิชาติ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ (พช.) กล่าวว่า ปัจจุบันเปลี่ยนรูปแบบเป็นการจ้างงานผ่านแอปพลิเคชันมีมากขึ้น เช่น บริการส่งของ ส่งอาหาร เรียกใช้แม่บ้าน คาดการณ์ว่ามีแรงงานในแพลตฟอร์มต่างๆกว่า 400,000 คน แต่ถูกจัดเป็นแรงงานนอกระบบ ทั้งที่มีบริษัทแอป พลิเคชัน ที่เปรียบเสมือนเจ้านายกำหนดค่าแรง ค่ารอบ โดยไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ ไม่มีสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ไม่มีประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ พรรค พช.มีนโยบายผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานแพลตฟอร์ม ไม่ใช่เพียงแค่แรงงานในแพลตฟอร์มที่ได้ประโชยน์ แต่เป็นร้านค้าที่ใช้ระบบของแอปพลิเคชันและผู้ใช้บริการทั่วไป โดยร่าง พ.ร.บ.นี้มีเนื้อหาครอบคลุมเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เช่น กำหนดค่าแรงขั้นต่ำอย่างชัดเจน โดยไม่นับรวมค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส และค่าเสื่อมเครื่องยนต์ ให้สิทธิการลาป่วย ลาคลอด พักร้อน และเงินชดเชยอื่นๆ บริษัทเจ้าของแอปต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อการทำงาน มีสิทธิเรียกร้องค่าแรงที่เป็นธรรม จัดหาประกันอย่างเหมาะสม เป็นต้น

“ศรี” ขู่สอยก้าวไกลดึง “ธนาธร” หาเสียง

ที่รัฐสภา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล แต่งตั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขานุการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลว่า ทั้ง 3 คน ต้องไปตรวจสอบข้อกฎหมายให้ชัดเจนว่า มีสถานะอย่างไร ขณะนี้กำลังตรวจสอบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากได้ผลเป็นอย่างไรจะดำเนินการทันที การที่ทั้ง 3 คนจะไปช่วยพรรคหาเสียงในวันที่ 3 มี.ค.เป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง หากตรวจสอบแล้วไม่ชอบด้วยกฎหมายอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ แม้มีข้อครหาตนก็ไม่สนใจ อยากครหาก็ครหาไป

ยัน “ไตรรงค์” โหนสถาบันผิด 100%

นายศรีสุวรรณยังกล่าวถึงกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค รทสช.เรียกร้องให้ตรวจสอบพรรคการเมืองที่ใช้มาตรา 112 หาเสียงเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่เพราะเกี่ยวข้องสถาบันว่า ตนเป็นนักกฎหมายรู้ว่า เรื่องใดฝ่าฝืน ไม่ได้มั่วซั่ว ใครให้ร้องอะไรก็ร้องไปเรื่อย การเสนอแก้ไขมาตรา 112 แม้เกี่ยวข้องสถาบันที่หลายคนโยงว่า เป็นเรื่องพูดไม่ได้ซึ่งไม่ใช่ แต่ปราศรัยเอาสถาบันมาหาเสียงเป็นคนละประเด็นกัน ต้องแยกให้ชัดเจน สิ่งที่นายไตรรงค์ปราศรัยผิด 100% ถ้าบอกว่าไม่ผิด ต่อไปนักการเมืองอื่นๆก็พูดได้ ปุถุชนทั่วไปรู้อยู่ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง อย่าเอาสีข้างเข้าถูไฟแดงโร่ เป็นผู้ใหญ่แล้วต้องเข้าใจ ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ระบุว่าเอ็มวีเพลง “เช้าวันใหม่” พรรค ปชป.ที่ให้นายเมธี อรุณ หรือ “เมธี ลาบานูน” เป็นนักร้องมาร้องเพลงนั้น กฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 73 ระบุว่า บุคคลดังกล่าวมีอาชีพเช่นไรก็ไม่ขัด นายเมธีเป็นนักร้องมาก่อน ร้องหาเสียงก็ไม่ขัดต่อกฎหมาย คนเป็นนักร้องห้ามร้องเพลงไม่ได้ นักแสดงมาเป็นนักการเมืองหยุดเผยแพร่การแสดงของตัวเองกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่เขาระวังตัวมากกว่า

อีสานโพลโดนใจขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

นายสุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพลของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ขอนแก่น (มข.) เผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “นโยบายเศรษฐกิจที่ใช่ของคนอีสาน” ระหว่างวันที่ 24-26 ก.พ.จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,200 ราย ในภาคอีสาน 20 จังหวัดว่า พบนโยบายที่คนอีสานให้ความสำคัญช่วงหาเสียงเลือกตั้ง 17 อันดับ โดย 5 อันดับแรก คือ 1.นโยบายขึ้นค่าแรง/เงินเดือนขั้นต่ำร้อยละ 15.7 โดยกลุ่มนึกถึงหรือตอบรับนโยบายนี้ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ร้อยละ 14.5 ก้าวไกล (ก.ก.) ร้อยละ 2.2 ที่เหลือร้อยละ 0.5 พรรคอื่นๆรวมกัน 2.นโยบายแก้หนี้/พักหนี้/เติมทุนร้อยละ 13.9 เป็นของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร้อยละ 6.3 รองลงมาพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ร้อยละ 4.4 ที่เหลือร้อยละ 3.2 พรรคอื่นๆ 3.บำนาญหรือเบี้ยผู้สูงอายุร้อยละ 11.1 พรรค ทสท.ร้อยละ 7.6 รองลงมาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร้อยละ 1.4 ที่เหลือร้อยละ 2.1 พรรคอื่นๆ 4.เพิ่มเงินบัตรประชารัฐ/คนละครึ่งร้อยละ 9.0 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ร้อยละ 6.6 พรรค พปชร.ร้อยละ 2.2 ที่เหลือร้อยละ 0.2 พรรคอื่นๆ 5.ลดค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟ และหนุนโซลาร์เซลล์ร้อยละ 8.3 เป็นของ รทสช.กับ พปชร.ร้อยละ 2.7 เท่ากัน ที่เหลือร้อยละ 2.9 พรรคอื่นๆ

“อุ๊งอิ๊ง” นำโด่งนายกฯอีสาน

เมื่อสอบถามว่า ถ้าเลือกตั้งแนวโน้มจะลงคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคใด พบว่าอันดับ 1 พรรค พท.ร้อยละ 33.4 รองลงมา ทสท.ร้อยละ 16 ก.ก.ร้อยละ 14.6 ภท.ร้อยละ 11.1 รทสช.ร้อยละ 11.1 พปชร.ร้อยละ 5.7 ปชป.ร้อยละ 3.5 สร.ร้อยละ 1.7 และพรรคอื่นๆร้อยละ 2.9 เมื่อสอบถามว่า ถ้าเลือกตั้งวันนี้แนวโน้มจะลงคะแนน ส.ส.เขตให้พรรคใด พบว่า พท.ร้อยละ 35.1 ทสท.ร้อยละ 15.7 ก.ก.ร้อยละ 13.7 พท.ร้อยละ 11.3 รทสช.ร้อยละ 11.2 ปชป.ร้อยละ 3.4 สร.ร้อยละ 1.7 และพรรคอื่นๆ ร้อยละ 2.9 เมื่อถามว่า อยากให้ใครเป็นนายกฯมากที่สุด พบว่า อันดับ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 30.1 รองลงมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 17.1 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 14.5 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 11.2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 10.8 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 5.3 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 3.4 คนอื่นๆ จากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 2.3 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 1.9 นายกรณ์ จาติกวณิช ร้อยละ 1.4 และอื่นๆร้อยละ 1.9

“นักร้อง” งัดหลักฐานมัด ส.ส.เล่นไพ่

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ นำเอกสาร หลักฐานที่อ้างว่าเป็นหลักฐานยืนยัน ส.ส.พรรคเก่าแก่ เล่นพนันไพ่กันที่ชั้น 5 ของอาคารรัฐสภา เข้ายื่นให้ประธานสภาฯตรวจสอบเอาผิดจริยธรรม มี น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ โฆษกประธานสภาฯ เป็นตัวแทนรับเรื่อง นายศรีสุวรรณได้โชว์ภาพบุคคลที่อ้างว่าเป็น ส.ส.เล่นพนันที่ชั้น 5 อาคารรัฐสภา ก่อนแถลงว่า เหตุเกิดวันที่ 11 ม.ค.66 เวลา 13.00 น. ขณะประชุมร่วมรัฐสภา มีผู้หวังดีส่งพัสดุมาให้ เป็นพยานหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ ส.ส.กำลังเล่นการพนัน แต่ภาพที่นำมาโชว์กับสื่อ ต้องปิดหน้า ปิดตา ขี้เกียจขึ้นศาล ส.ส.กระทำผิด พ.ร.บ.การพนัน 2478 แม้โทษไม่สูงมาก แต่ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ ส.ส.และ กมธ.ปี 63 บัญญัติข้อห้ามไว้หลายข้อชัดเจน ไม่อยากให้รัฐสภาอันทรงเกียรติเป็นบ่อนพนัน ส.ส.ในคลิปอยู่ไม่ไกลจาก กทม.ห่างประมาณ 100 กิโลเมตร เป็นหนุ่มอายุรุ่นน้องตน เพิ่งมาเป็น ส.ส. 1 ปี สังกัดพรรคเก่าแก่ นำผ้าปู นำไพ่มาวางเล่น ในคลิปไม่สามารถเห็นได้ทั้ง 4 คน ไพ่เล่นคนเดียวไม่ได้ ในคลิปปรากฏหน้าคนเดียวถึงมาร้องแค่คนเดียว หากปรากฏรูปหน้าของบุคคลหรือ ส.ส.อื่นด้วย คงร้องทั้งหมด

แฉแลกชิปหลักพัน-หมื่นระดับกาสิโน

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า มีชิปกองอยู่อย่างชัดเจน ซึ่งชิปสามารถนำไปแลกเงินได้ เช่น 1 ชิป เท่ากับ 1,000 บาท หรือ 10,000 บาท เมื่อถามย้ำว่า ส.ส.คนดังกล่าวเป็นอดีต ส.ส.หรือไม่ นายศรีสุวรรณตอบว่า ยังดำรงตำแหน่ง ยังไม่ได้ลาออก ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่เห็นหน้าเห็นตาอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้ในรูปเป็นห้องทำงาน ส.ส.มีคนดูลาดเลาให้ ไม่ทราบว่าคนที่ดูลาดเลาเป็นคนติดตามหรือคนขับรถ เมื่อถามว่า หลังเปิดเผยข้อมูล ส.ส.คนดังกล่าวติดต่อมาเป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายศรีสุวรรณตอบว่า ไม่มี แต่คนนี้มีพฤติกรรมชอบเล่นการพนัน คนในวงการรู้ดี ขณะที่ น.ส.ผ่องศรีกล่าวว่า ประธานสภาฯฝากขอบคุณนายศรีสุวรรณ ที่ทำหน้าที่พลเมือง ตรวจสอบ ประธานสภาฯติดภารกิจต่างจังหวัดเลยไม่ได้มารับเรื่องเอง หากเป็นความจริงเป็นเรื่องที่เสื่อมเสีย ขอยืนยันว่าจะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายโดยไม่ละเว้นและปฏิบัติ