นายกฯ ประกาศเพิ่มเงินตอบแทน อบต. กลางเวทีอุดรฯ หนุนยกระดับเป็นเทศบาล ยันไม่ได้มาหาเสียง การันตีไม่ยุบท้องถิ่นแน่นอน ยืนยันไม่ได้จะคิดอยู่ถึง 20 ปี

วันที่ 2 มี.ค. 2566 เมื่อเวลา 07.45 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจ.อุดรธานี และหนองบัวลำภู พร้อมพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี โดยนายกฯ และคณะเดินทางไปยังจุดแรกที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี โดยทันทีที่มาถึงมี นายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี และนายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย และสมาชิกอบต.ทั่วประเทศต้อนรับ ทั้งนี้ นายกฯ ใช้รถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน ชธ 5559 กรุงเทพมหานคร ปฏิบัติภารกิจจ.อุดรธานี โดยนายชัชวาลล์ คงอุดม แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมงาน และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมลงพื้นที่

ขณะที่ บรรยากาศ ได้มีประชาชน สมาชิกอบต.ต้อนรับและให้กำลังใจ “ลุงตู่สู้ๆ” โดยนายกฯ ได้ตอบกลับไป “ก็ขอให้ช่วยกันสู้เช่นเดียวกันขอให้สู้เพื่อประเทศชาติของเรา”

...

จากนั้น เวลา 10.40 น. นายกฯ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” โดยนายกสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย กล่าวรายงานช่วงหนึ่งว่า เรามาให้กำลังใจนายกฯ สานต่องานให้สำเร็จ และขอบคุณนายกฯ ที่มาเป็นกำลังใจ

จากนั้น นายกฯ กล่าวปาฐกถา “ท้องถิ่นต้องไปต่อ” กับสมาชิกอบต.ทั่วประเทศกว่า 5 พันคน ตอนหนึ่งว่า ขอบคุณมากทุกคนที่ได้มาเจอกันในวันนี้จากหลายภูมิภาคด้วยกัน เป็นโอกาสสำคัญที่มาพบกัน เพราะเราต้องทำงานร่วมกัน เข้ามาตอนแรกตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะเห็นคนเยอะ ซึ่งเป็นผู้บริหารจากหลายภาคส่วน วันนี้ดีใจที่ได้มาเจอถือว่าได้มีโอกาสพูดกับประชาชนทั้ง 70 ล้านคนด้วย ขอกล่าวคำว่าสวัสดีผู้บริหารทั่วประเทศที่มาร่วมสัมมนา วันนี้ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มาเปิดโครงการสัมมนาบทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน ตนถือว่าสิ่งที่กำหนดไว้ในวันนี้ นั่นคือความสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน ทำอย่างไรจะเดินไปข้างหน้าเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดโครงการที่สำคัญที่สุดในลำดับต้นๆ ให้ความสำคัญเสมอมา ผู้บริหารอบต.ทั่วประเทศทุกท่านที่ดูแลเป็นอย่างดีในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ซึ่งมีปัญหามากมาย เราผ่านปัญหามาด้วยกัน อย่างโควิด-19 หลายคนอย่าลืมตรงนี้เพราะเป็นฝีมือของพวกเราทุกคน นายกฯ ขอวันนี้พูดในนามนายกฯ ได้ใช่ไหม พูดบนเวทีมันยากเหลือเกิน วันนี้ถือว่ามาขอบคุณและภาคภูมิใจกับพวกเราซึ่งต้องร่วมมือกันแบบนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเผชิญกับอะไรอีกในโลกใบนี้ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ การทำหน้าที่ถือเป็นการสะท้อนปัญหาอย่างชัดเจน แม้ตนจะอยู่ในระดับบนแต่ก็ดูระดับล่างด้วย มีความสัมพันธ์กับท้องถิ่น อยากให้โครงการต่างๆ เกิดขึ้นในท้องถิ่นทุกชุมชนทั่วประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่จ.อุดรธานี มาหลายครั้ง ดีใจชื่นใจทุกครั้งที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอมา ขอบคุณผวจ.อุดรธานี ทั้งนี้ จังหวัดมีศักยภาพสูงทั้งการค้า การคมนาคม และอีกหลายจังหวัดก็มีศักยภาพที่ต้องพัฒนา แก้ปัญหาอุปสรรค ตนพยายามจะขับเคลื่อนประเทศไปในลักษณะนี้เพื่อลดปัญหาอุปสรรคความขัดแย้งทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น ทำอย่างไรให้การค้าการขนส่งดีขึ้นเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน รถไฟความเร็วสูงไปจีนต่อไปยุโรป ไม่ใช่แค่นี้ ซึ่งวันนี้กำลังก่อสร้างอยู่โครงการขนาดใหญ่ทำยากต้องใช้เวลานานขอให้อดทนสักนิด เพราะติดปัญหาเรื่องที่ดินและอีกหลายๆ อย่างซึ่งอยู่กับพวกเราจะทำความเข้าใจและความร่วมมือ ทุกอย่างทำได้ มีเงินทำได้ ต้องให้ประชาชนร่วมมือ นั่นคือหลักประชาธิปไตย ทุกคนต้องเข้าใจตรงนี้ ซึ่งตนเข้าใจอย่างที่สุดหลายปีที่ผ่านมาไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น นั่นคือวิธีการแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็วเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเสมอภาค พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ภาคอีสานมีความเจริญเติบโตขึ้นมากในหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น เพราะตนให้แก้ปัญหาลงในครัวเรือน ผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้าน พบว่าผู้มีรายได้น้อยลดลงเพราะมีอาชีพอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้องพัฒนาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อความทันสมัย และเข้าถึงภาคบริการภาครัฐ นโยบายของรัฐสิ่งเหล่านี้ต้องทำตลอดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีในการเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อว่าทุกจังหวัดมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา ต่อไปจะสร้างความเจริญเติบโตให้ทุกจังหวัดใกล้เคียงกัน

“ผมไม่อยากให้เรียกรากหญ้า เพราะท่านไม่ใช่รากหญ้า แต่คือฐานรากของประเทศนี้ ผมไม่ได้พูดเอาใจท่าน แต่ผมคิดดูว่าบ้านเมืองของเราหรือประเทศของเรา ทุกคนมีบ้านมีช่อง ซึ่งต้องเริ่มจากฐานราก บ้านท่านมีพื้นมีเสา จนกระทั่งหลังคา ท่านคือผู้ที่จะทำรายได้ให้ประเทศ โดยท้องถิ่นต้องช่วยกันเพื่อแข็งแรงไปด้วยกัน ถ้าเราทำอะไรที่ซ้ำซ้อนมากเกินไป ก็ต้องดูเรื่องดีมานด์ซัพพลายความเชื่อมโยง ต้องคิดบริบทใหญ่เพราะประเทศเราไม่ใช่เล็กๆ 5 แสนกว่าตารางกิโลเมตร ไม่เล็กมีคน 70 ล้านคน อะไรทำได้ไม่ต้องห่วงผมทำให้อยู่แล้ว การเป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ง่าย และผมไม่ใช่คนเก่งกาจสามารถคนเดียว ไม่ใช่ ทุกคนช่วยกันทำงานตั้งแต่ท้องถิ่นถึงข้างบนต้องทำสำเร็จวันนี้และสำเร็จมาแล้ว ปรบมือให้ตัวเองหน่อย ผมเปรียบแต่เป็นผู้นำในเชิงบริหาร ผมยืนตรงนี้ ผมตื่นเต้น วันหน้าขอให้มาเป็นนายกฯ แบบผมได้ทุกคน ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดเราต้องดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ทำให้สามารถอยู่ดีกินดีมีความสุข มีปัญหาอะไรก็แก้ไขให้เขาบ้าง ปัญหาเล็กน้อย ปัญหาใหญ่ ส่วนกลางก็ต้องเข้ามาดูแลเพิ่มเติม ผมพร้อมรับทุกเรื่องเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาในระดับรัฐบาล นโยบายของรัฐบาลคือสนับสนุนให้มีส่วนร่วมทั้งในระดับท้องถิ่น ซึ่งมีความแตกต่างของแต่ละพื้นที่ในระบบภาษีที่เหมาะสม ซึ่งรัฐบาลก็เติมมาด้วยจากงบส่วนกลาง นี่คืองบประมาณที่บริหารในปัจจุบัน เพราะหลายพื้นที่มีรายได้ไม่เท่ากัน ซึ่งที่ผ่านมาเร่งความเจริญในทุกมิติทุกภูมิภาคไม่ใช่ใครจะอยู่ถึง 20 ปี ไม่ใช่ผมจะอยู่ 20 ปี นายกฯ จะอยู่ 20 ปีไม่ใช่ แต่นั่นคือหัวข้อยุทธศาสตร์ซึ่งต้องเดิน 6 ด้านด้วยกัน ซึ่งเป็นแผนแม่บท สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ฉะนั้นการเสนองบประมาณแผนงานต่างๆขึ้ นมาเขาจะพิจารณาว่าสอดคล้องกับเป้าหมายตรงไหนในยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ไม่ต้องกังวลประเทศไทย ถ้าทำตามยุทธศาสตร์ชาติ ต่างประเทศมั่นใจที่จะมาลงทุน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพจะมาจะไปทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่มีปัญหา เราควบคุมได้อยู่แล้ว อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน อย่าทำเพื่อประโยชน์ของใคร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ด้านพลังงานต้องหาพลังงานใหม่เข้ามาเพราะเราขาดแคลนอย่างน้อยไฟไม่ดับ ไฟเพียงพอ น้ำมันยังมีขายถึงราคาจะสูงขึ้นซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด รัฐบาลต้องหาเงินมาเสริม กู้เงินมาแสนกว่าล้านเฉพาะพลังงานอย่างเดียว รวมถึงแก๊สอีกทำเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยซึ่งต้องเข้าใจว่าสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน จะทำให้อย่างอื่นล่มไปด้วยหรือเปล่า แม้แต่การพัฒนาพื้นที่การพัฒนาก็ต้องคำนึงถึงงบประมาณ อะไรที่ทำได้ตนทำแล้วต้องไม่ผิดกฎหมาย ต้องให้ความเป็นธรรมทุกพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำบางครั้งไม่เห็น จึงต้องเปิดตาเปิดใจและดูแลประเทศไปด้วยกัน ต้องมองจังหวัดใกล้เคียงและประเทศอื่นว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นคือประเทศไทยของเรา ประเทศไทยสว่างไสวที่สุดถ้ามองจากดาวเทียมข้างบนลงมาเพราะมีไฟฟ้า รัฐบาลพยายามจะทำให้ดีที่สุดถ้าปิดไฟให้สั้นลง “ตอนหัวค่ำนิดนึงอยู่กับแฟนอะไรอย่างนี้ครอบครัวกะหนุงกะหนิงกับแฟน ไม่ต้องเปิดไฟก็ได้”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ครอบครัวคนไทยใครทำอะไรไม่ได้ นี่คือสังคมของเราจะแตกแยกไม่ได้ สังคมครอบครัว สังคมส่วนรวม สังคมประเทศชาติแตกไม่ได้อยู่แล้ว มีข่าวบางข่าวตนไม่แน่ใจใครพูดจะยุบท้องถิ่น จะให้เขายุบหรอ จะให้ยุบไหม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้เหล่าอบต.ได้ตอบว่า ไม่ให้ยุบ นายกฯจึงกล่าวอีกว่า ใครพูดตนไม่รู้ การจะให้อะไรก็ตามในฐานะที่เป็นรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องดูงบประมาณมีแค่ไหน ไม่ใช่ว่าได้เท่าไรจ่ายหมดมันไม่ได้ เรารับผิดชอบหนี้ ก่อนหน้านั้นก็มีมาสมควร ไม่ใช่มาเริ่มที่สมัยตน ตนต้องดูมือซ้ายทำอย่างไรเงินจะเพิ่มขึ้น แต่ทางขวาก็ต้องเตรียมความพร้อม นี่คือสิ่งที่ต้องฝากลูกหลานทุกคน สุดท้ายนี้ขอชื่นชมพี่น้องท้องถิ่น ผู้บริหาร อบต.ทั่วประเทศที่เกี่ยวข้อง ช่วยการพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็งดีขึ้นเรื่อยๆ และทำต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เฮ้อ ชักเหนื่อย ถ้าพูดสามารถพูดได้ทั้งวัน โดยระหว่างนี้บรรดาท้องถิ่นได้ปรบมือให้ นายกฯ จึงกล่าวอีกว่า รัฐบาลสนับสนุนการกระจายอำนาจ ไม่หวงไว้ เราจะหวงไว้ทำไม แต่ทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย วันเดียวกันนี้ตนได้พูดคุยกับคณะกรรมการและกระทรวงมหาดไทย รัฐบาลจะปรับค่าตอบแทนให้กับนายก อบต.รองนายกอบต. ประธานสภา และรองประธานสภา สมาชิกสภาอบต. และเลขานุการ ขณะนี้รมว.มหาดไทยกำลังดำเนินการ คาดว่าจะลงนามแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การหาเสียง เพราะเรื่องนี้ทำขอเรื่องนี้ทำมานานแล้ว แต่บังเอิญทำได้ในช่วงนี้แต่มาที่นี่พอดี นอกจากนี้ รัฐบาลจะยกฐานะอบต. เป็นเทศบาล ขณะนี้รัฐบาลกำลัง รัฐบาลกำลังทำร่างประมวลกฎหมายท้องถิ่นให้อบต. ยกฐานะเป็นเทศบาล ตามหลักการของการปกครองท้องถิ่น ตามสากลต่อไป ทุกคนจะต้องเรียกตัวเองว่า นายกเทศมนตรี “โอ้โห ใหญ่โตกันทั้งหมด ถือว่าใหญ่โตวันข้างหน้าก็จะได้เป็นนายกฯ จะมายืนอยู่ตรงนี้ โดยพอมาถึงตรงนี้ นายกฯ ได้ทุบอกตัว พร้อมบอกว่า แต่โจทก์เยอะหน่อย”

นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เรื่องสวัสดิการของนายกฯ และรองนายกฯอบต. ประธาน รองประธาน สมาชิกและเลขานุการ รัฐบาลทราบถึงความยากลำบากกำลังพิจารณาถึงสวัสดิการ เช่น ค่ารักษา พยาบาลค่าเลี้ยงดูบุตร กำลังพิจารณาอยู่

“นี่ไม่ใช่การมาหาเสียง เป็นการมาทำงานตามปกติ แต่ผมจำเป็นจะต้องเร่งรัด ให้แล้วเสร็จให้เร็วๆ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันข้างหน้าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน พัฒนาไปให้ดียิ่งกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งเริ่มไปแล้วและทำไปซึ่งเริ่มไปแล้วและทำไปแล้ววันหน้าก็ทำต่อๆ ไป ไม่ใช่จะเสนอแต่จะให้ยุบองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มันไม่ได้ พูดมากไป เดี๋ยวมีเรื่องอีก” นายกฯ กล่าว