“หิมาลัย” ยืนยัน รวมไทยสร้างชาติไม่ได้อยู่เบื้องหลัง “ชูวิทย์” ถล่มภูมิใจไทย ยัน “พีระพันธุ์” รับเรื่องในฐานะเลขาธิการนายกฯ ย้ำ ไม่เคยคิดทำเรื่องชั่ว ยก “บิ๊กตู่” ผู้บังคับบัญชาที่ดีที่สุด

วันที่ 1 มี.ค. 2566 นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสรับงานพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมอบหมาย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ล้มพรรคภูมิใจไทย ว่า เรื่องนี้ต้องให้ความยุติธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้อย่างไร ที่มีการโจมตีว่าตนอยู่เบื้องหลังก็ไม่รู้ว่าใครไปพูด แต่ขอถามว่านายชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาเป็นปี วิพากษ์วิจารณ์มาตลอดหลายเดือน ถือว่าเสียหายมาก วิพากษ์วิจารณ์มาตลอด เกิดความเสียหาย แต่นายกฯ ก็ใช้วิธีไม่ตอบโต้

สิ่งสำคัญที่สุดคือวันเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ เข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายชูวิทย์ ก็มาไลฟ์ นายกฯ อยู่ที่ด้านหน้าศูนย์ประชุม 3-4 ชั่วโมง ขอถามว่าหากรู้เห็นเป็นใจกันจะให้คนมายืนด่านายตัวเองนานขนาดนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย นายกฯ ก็บอกว่านายชูวิทย์ต่อว่าตนมานานเป็นปีแล้ว อาจเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจ ตนจึงบอกว่าขอให้เขามาคุยจะได้เกิดความเข้าใจกัน และนายชูวิทย์ก็ถือว่าเป็นสื่อคนหนึ่ง เพราะมีคนติดตามจำนวนมาก นายกฯ บอกว่าหากตอบนายชูวิทย์ก็เหมือนตอบประชาชน วันนี้เราต้องถือว่าประชาชนคือนายเรา นี่คือเหตุผลที่ไปเชิญนายชูวิทย์เข้ามาพูดคุยกับนายกฯ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายหิมาลัย ระบุต่อไปว่า การที่ผู้ใหญ่ให้ไปเชิญนายชูวิทย์ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนรู้ว่าตนกับนายชูวิทย์รู้จักกันมาก่อน โดนคดีก็โดนกันมา นายกฯ จึงมองว่าใครที่จะสื่อสารกับนายชูวิทย์ได้รู้เรื่อง ซึ่งในการพูดคุยสไตล์ใครก็สไตล์มัน นายกฯ ก็สไตล์นายกฯ ชูวิทย์ก็สไตล์ชูวิทย์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ นายกฯก็ใจเย็น และได้ชี้แจงว่าเราไม่สามารถไปย้ายคนทุกคนตามที่นายชูวิทย์ต้องการ ทำอย่างนั้นไม่ได้ เป็นนายกฯ ต้องมีขั้นตอน ต้องมีการสอบสวนจากตำรวจ แล้วค่อยมาลงโทษกัน และถ้านายชูวิทย์มีหลักฐานก็ส่งมา ส่วนเรื่องญาติของนายกฯ ที่นายชูวิทย์ออกมาพูด ก็ให้ส่งไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการสอบสวนตามปกติ และนายกฯ ก็บอกว่าหากมีอะไรก็ให้มาหานายกฯ ได้ทันที

...

“ถ้าผมรู้เห็นเป็นใจกับชูวิทย์ ผมจะยอมให้นายชูวิทย์มายืนด่านาย 3-4 ชั่วโมงหรือ ถ้าผมสั่งนายชูวิทย์ได้ ผมก็ต้องสั่งให้หยุดด่านายผม และนิสัยของนายชูวิทย์ ตอนที่ติดคุกด้วยกัน นายชูวิทย์ เป็นคนที่วันๆ ไม่ทำอะไร เดินรอบคุกดูนั่นนี่ ไม่ได้ต้องการสิทธิพิเศษอะไร อะไรไม่ถูกต้องก็จะพูดออกมาตรงๆ ซึ่งในตอนนั้นผู้คุมกลัวแกและสะดุ้งหมด เพราะกลัวถูกร้องเรียน ผู้คุมจะให้สิทธิพิเศษก็ไม่เอา นี่คือนิสัยชูวิทย์ ตอนหลังไปอยู่โรงพยาบาลเรือนจำก็เข็นศพ ก็เลิกร้องเรียน และที่ข่าวบอกว่าผมไปรับชูวิทย์ทุกครั้ง มันทุกครั้งตรงไหน เพราะมีแค่ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์และที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น ใครจะมาพูดใส่ความผมไม่รู้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมผมบ้าง”

ขณะที่เมื่อถามว่า เขาอาจติดใจเห็นว่าไปรับที่ทำเนียบฯ อีก ทั้งที่มาร้องเรียนเรื่องของพรรคภูมิใจไทย นายหิมาลัย ตอบว่า ไม่เกี่ยว กรณีที่ทำเนียบฯ เพราะนายชูวิทย์พูดและโพสต์ก่อนแล้วว่าจะมาหานายกฯ ซึ่งผู้ใหญ่ก็รู้ว่าตนรู้จักกับนายชูวิทย์ จึงให้มาดูว่าจะมาหานายกฯ เรื่องอะไร เราจึงทำการบ้านว่าก่อนหน้านี้นายชูวิทย์โพสต์เรื่องจีนเทา บุหรี่ไฟฟ้า ส.ป.ก. อุทยานและกระบวนการยุติธรรมต่างๆ ที่มีปัญหา ไม่มีเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม จึงได้แจ้งผู้ใหญ่ไปว่านายชูวิทย์น่าจะมาเรียกร้องเรื่องเหล่านี้ เราไม่รู้เลยว่าเขาจะมาพูดเรื่องรถไฟฟ้า ไม่มีการเตี๊ยมใดๆ ทั้งสิ้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับรวมไทยสร้างชาติและตนด้วย

ทั้งนี้ ทุกเรื่องที่ทางรัฐบาลชี้แจงไปนายชูวิทย์ก็รับฟัง ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่นายชูวิทย์มาร้อง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่าฝ่ายบริหารไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ กลุ่มผู้ชุมนุมที่มาหน้าทำเนียบฯ หากนายพีระพันธ์ุไปรับได้ก็ไปรับตลอด และที่นายชูวิทย์มานายพีระพันธุ์ก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นข่าวอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า การที่นายชูวิทย์มาร้องเรียนเช่นนี้มีการมองว่าเป็นการเปิดทางเพื่อสมประโยชน์ร่วมกันทางการเมืองหรือไม่ นายหิมาลัย ถามกลับว่า เปิดทางอย่างไร เพราะนายชูวิทย์ประกาศมาถล่มเรา เพียงแต่เราเตรียมคำตอบที่จะตอบนายชูวิทย์ ตนรู้นิสัยนายชูวิทย์ดี หากไม่พอใจก็จะด่า โกรธ ตนก็ปล่อย เดี๋ยวถ้าหายโมโหอีก 2-3 วัน ก็โทรมาคุยเอง ตนก็ไม่เคยเถียง เพราะถ้ายิ่งเถียงยิ่งไปกันใหญ่ ตนคบกับนายชูวิทย์มีหลักการคือให้เกียรติกันและต้องรับฟัง มีอะไรก็ชี้แจง แก้ไขได้ก็แก้ไข

“สำหรับผมมาทำงานไม่ได้มาหาศัตรู โดยเฉพาะหาศัตรูที่เป็นผู้ใหญ่กว่า และสำหรับ นายเนวิน ชิดชอบ ผมให้ความรักและเคารพมาตลอด ผมไม่เหิมเกริมและคิดชั่ว ผมทำไม่เป็น และนายพีระพันธุ์ ผมทำงานด้วยมา ถ้าไม่พอใจก็จะแสดงออกเลย ไม่มีมาทำอะไรลับหลัง”

ส่วนคำถามว่าสถานการณ์ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดอะไรด้วยบ้างหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า นายกฯ ถือเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีมากๆ ลูกน้องหลายคนทำผิดพลาดหลายครั้ง ไม่เคยทำให้ลูกน้องเสียน้ำใจ นายกฯ จะแบกรับไว้หมด ถือเป็นผู้บังคับบัญชาที่สุดยอดที่สุด และเป็นผู้บังคับบัญชาที่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างตนต้องเอาใจให้ 100% เอาตัวเข้าแลกได้ก็ต้องเอาเข้าแลก

“ใครก็ตามที่ไปพูดกับภูมิใจไทยใส่ความว่าผมอยู่เบื้องหลัง เป็นจินตนาการที่ไร้สาระมาก ความคิดชั่วๆ แบบนี้ผมทำไม่เป็น บอกให้เลย และไม่จำเป็นที่จะต้องทำด้วย พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพันธมิตรกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคใหญ่ที่ค้ำจุนความมั่นคงของรัฐบาล ผมมีสติปัญญาพอ การทำแบบนี้มันไม่ใช่ และภูมิใจไทยไม่ใช่คู่แข่งของรวมไทยสร้างชาติเลย และถ้าไม่ใช่คู่แข่งทำไปจะได้ประโยชน์อะไร”

เมื่อถามต่อไปว่าส่วนตัวได้เคลียร์ใจกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยบ้างหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่าพยายามโทรหาแต่ก็ไม่รับสาย เมื่อไม่รับสายก็ไม่รู้ว่าจะชี้แจงอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคิดว่าใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้ เราเป็นเด็กเราไม่ทะเลาะกับใคร กับนายชูวิทย์เราก็ทะเลาะด้วยไม่ได้ ก็ต้องให้เกียรติเขา และหลายสิ่งที่นายชูวิทย์ทำก็เป็นประโยชน์ ขณะที่เมื่อถามต่อไปว่าต้องการสื่อสารถึงนายอนุทินหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า “ก็ต้องบอกท่านรองฯ อนุทินว่า ผมคิดเรื่องเลวๆ ไม่เป็นหรอก”