“ประยุทธ์” ปราศรัยใหญ่ปักธงชัยโคราช ชู “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” บอกขอพล.อ.เปรม แล้วทำอะไรให้สำเร็จ หยอดหัวใจนายกฯ อยู่กับทุกคน อ้อนขอรวมไทยสร้างชาติเหมาหมดทั้ง 16 เขต
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อเวลา 18.25 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ และว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งที่ 2 ของพรรครวมไทยสร้างชาติเพื่อเปิดตัวแคมเปญหาเสียง “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ที่ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ ก่อนหน้าจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ พลเอกประยุทธ์ ได้ร่วมทำพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่ลานย่าโมเพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้น พลเอกประยุทธ์ ได้กล่าวปราศรัยว่า ดีใจที่วันนี้ได้มาพบกับชาวโคราช เพราะโคราชซึ่งเป็นบ้านเกิด ตนเกิดที่นี่ที่ค่ายสุรนารี เพราะว่าพ่อเป็นทหาร ต่อมาก็ย้ายไปลพบุรี จากนั้นย้ายเข้ากรุงเทพฯ ตนก็ต้องย้ายตามไปด้วย แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนความเป็นลูกอีสาน เป็นลูกหลานย่าโมยังอยู่ในสายเลือด เป็นสิ่งที่ตนภาคภูมิใจเพราะคนอีสานเป็นนักสู้ สู้ชีวิตไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
...
โดยช่วงหนึ่งของการปราศรัย พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีวันแรก ตัดสินใจเด็ดขาดว่า เรื่องหนึ่งที่ต้องทำให้ได้ทำให้เสร็จคือ การลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศขึ้นมาใหม่และสร้างใหม่ ไม่ใช่ซ่อมหรือปรับปรุงของเก่า และไม่ใช่ทำทีละสาย แต่ทำทั่วประเทศพร้อมกันไปเลย ต้องเริ่มนับหนึ่งได้ก่อนแล้วสิ่งดีๆ ก็จะตามมา ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยาก ใช้เงินมาก ใช้เวลานาน ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ แต่ผมจะทำเพราะถ้าไม่มีใครทำ ที่ผ่านมา 30-40 ปีไม่มีใครทำอะไรเลย การลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตเพื่อลูกหลาน คนไทยรุ่นต่อๆ ไป ลงทุนทีเดียวอยู่ได้ถึง 100 ปี พร้อมกล่าวถึงโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ EEC โครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์โคราช ที่เคยทำมาแล้ว
สำหรับ เรื่องบัตรสวัสดิการพลัส เพิ่มสิทธิเดือนละ 1,000 บาท ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำไปแล้ว กำลังทำอยู่ และที่จะทำต่อ มีเยอะพูดทั้งคืนก็ไม่จบโดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะทำต่อ คือ ให้มีเพิ่มสิทธิเป็น 1,000 บาทต่อเดือน โดยจะเริ่มจากกลุ่มที่มีรายได้น้อยก่อน แล้วเมื่อเราจัดเก็บรายได้ได้สูงขึ้น ก็จะขยายกลุ่มเพิ่มเงินให้ตามลำดับต่อไป ตนจะไม่ขายฝัน ที่ทำไม่ได้เราตั้งใจ และศึกษาแนวทางมาแล้ว ให้ทุนเรียนวิชาชีพ อำเภอละ 100 ทุน
พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตอนเป็นนายกฯ ครั้งแรก นึกถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่ทำโครงการโชติช่วงชัชวาล “เพราะท่านเมตตาผมเยอะ สอนสั่งอบรมผมตลอด ผมก็จะต้องทำ ผมขอท่านแล้ว ถึงแม้ท่านจะสิ้นไปแล้ว ก็ขอท่านว่าทำอะไรให้สำเร็จแล้วกัน”
ส่วนเรื่องที่ทำต่อ มีอีกมาก พร้อมขอบคุณชาวโคราช โดยเมื่อสักครู่ได้ลองชิมหมี่โคราชแล้ว “หรอยๆ” จนชาวบ้านทักท้วง นายกฯ จึงกล่าวแก้เขินว่า อร่อย ภาษาโคราชว่ายังไง ชาวบ้านจึงกล่าวว่า แซ่บหลาย นายกฯ จึงกล่าวว่าตอบว่า แซ่บหลายๆ
“วันก่อนไปใต้มา เอาภาษาใต้มา “อะหรอย อะหรอย” แต่หัวใจอยู่กับเรานะ หัวใจนายกฯ อยู่กับทุกคนทั้งหมดในประเทศ นี่ผมเตรียมคำพูดมาเยอะเลยนะ ภาคอีสาน คำว่า ฉัน เขาเรียกว่า ข่อย คิดถึง คือ คิดฮอด เธอ คือ เจ้า มาก คือ หลาย รัก คือ ฮัก เพื่อน คือ บักเสี่ยว วันนี้สนุกมาก ม้วนหลายเด้อ พูด เว้า อร่อย แซ่บ งาน เฮ็ดเวียก อะไรทำนองนี้ ก็พยายามจะรื้อฟื้นความจำเก่าๆ มา เพราะเราคือชาวอีสาน ลูกอีสาน หลานย่าโม”
พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องความรู้เพิ่มเติมทุกคนเก่งอยู่แล้ว ว่าจะทำอะไรยังไงไม่ให้ขาดทุน แต่มันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เดี๋ยวรอนายกฯ อีกรอบแล้วกัน จากนั้น ได้ถามชาวบ้านว่า วันนี้สร้างความมั่นใจได้บ้างหรือไม่ โดยผู้ร่วมฟังปราศรัย ได้ตะโกนตอบว่า “100%” นายกฯ จึงกล่าวว่า 150 แล้วกัน พร้อมกล่าวต่อว่า ถ้าเราได้อยู่จะทำให้ต่อเนื่อง พร้อมถามชาวบ้านว่า มีอะไรจะถามไหม ชาวบ้านจึงตะโกนว่า “อยู่นานๆ”
พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตื่นเต้นมาบ้านเกิด เห็นคนมาเยอะแยะ ตั้งใจจะพูดเยอะแยะ ทำให้ชาวบ้านตะโกนว่า “ลุงตู่อยู่ต่อ” นายกฯ จึงกล่าวตอบว่า เอ้าสู้ต่อไป โคราชสู้ต่อไป สู้ไปด้วยกัน อย่าลืมรวมไทยสร้างชาติเด้อ ก่อนปิดจบด้วยมอตโต้ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” อย่าลืมรวมไทยสร้างชาติ 16 เขต เหมาหมด ขอบคุณทุกคน รักทุกคน จากนั้นได้เดินทางกลับทันที โดยมีชาวบ้านไปรอส่งที่รถ พร้อมตะโกน “รักลุงตู่ อยู่ตลอดเวลา”