“สมชัย” จ่อพบ กกต.อีกครั้ง หลังถูกปัดตก กรณียื่นร้องเรียนตรวจสอบพรรครวมไทยสร้างชาติ จัดประชุมใหญ่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง หากเหตุผลฟังไม่ขึ้น จ่อดำเนินคดียกชุด

วันที่ 24 ก.พ. 2566 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เดินทางมาที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น โดยบอกว่ามาเป็นกำลังใจให้ นายแสวงบุญมี เลขาธิการ กกต. พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนประเด็นที่ได้ยื่นร้องเรียนต่อ กกต. ถึงกรณีการจัดประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ โดยได้ยื่นร้องไปเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 และได้รับหนังสือตอบรับกลับมาเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2566 รวมแล้วใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

นายสมชัย กล่าวต่อไป ได้รับหนังสือตอบรับจาก กกต. ว่ากรณีที่ร้องเรียนไปไม่เข้าข่ายที่จะสามารถร้องเรียนได้ เนื่องจากติดเหตุผลในหลายประการ ในรายละเอียดของกฎหมาย คำร้องดังกล่าวขาดรายละเอียด วันและเวลาสถานที่เกิดเหตุ บุคคลที่เกี่ยวข้อง ขาดพยานหลักฐานบุคคล ขาดพยานหลักฐานวัตถุ จึงทำให้ยังขาดองค์ประกอบที่จะร้องได้ ส่วนต่อมาพบว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้อง เนื่องจากไม่มีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งในเขตดังกล่าว

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าทั้ง 2 กรณี กกต. น่าจะวินิจฉัยไม่ถูกต้อง เนื่องจากคำร้องที่ส่งไป มีทั้ง วัน เวลา และบุคคลที่เกี่ยวข้อง พยานบุคคล พยานวัตถุ ทั้งหมวกหรือเสื้อที่มีการแจกในวันเกิดเหตุ ขณะประเด็นที่ กกต. บอกว่า ไม่มีสิทธิร้อง เพราะไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิในเขตเลือกตั้งนั้น นายสมชัย ตอบว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง แต่เป็นการกระทำผิดของพรรคการเมือง ที่ส่งผลกระทบไปทั้งประเทศ หากบุคคลใดพบเห็นก็ควรมีสิทธิร้องต่อ กกต. ได้

...

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความกระจ่าง จึงขออนุญาต นายแสวง ในวันที่ 3 มี.ค. 2566 เวลา 11.00 น. ตนและนายวีระ สมความคิด จะเดินทางไปพบเพื่อฟังการชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่รับคำร้อง หากยังรู้สึกว่า กกต. ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชอบ จะขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีกับ กกต.ทั้งชุด

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า โดยขั้นตอนตามกฎหมายสามารถนัดเข้าไปเพื่อฟังเหตุผลได้หรือไม่ หรือมีช่องทางใดที่สามารถสอบถามได้บ้าง นายสมชัย ระบุว่า เป็นเรื่องที่ กกต. ต้องคิดเอง หากผู้ร้องปรารถนาที่จะขอข้อเท็จจริง แต่จะให้หรือไม่ให้ก็ได้ หากตนไปแล้วไม่มีคนคุย ก็จะเข้าใจว่า กกต. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือมีการวินิจฉัยที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง เลือกปฏิบัติต่อพรรคการเมืองบางพรรค หากเป็นเช่นนั้นจะขอใช้สิทธิดำเนินการทุกวิถีทางกับ กกต. ที่ลงมติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าในช่วงการคาบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2566 หากยังไม่ชัดเจนจะมีปัญหาตามมาใช่หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า “ถูกต้อง เพราะคำร้องที่ร้องไปเป็นคำร้องที่จะเป็นบรรทัดฐานให้พรรคการเมืองต่างๆ ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ และผมถือว่าเป็นความปรากฏแล้ว ไม่ว่าจะร้องหรือไม่ร้อง กกต. ต้องดำเนินคดีในเรื่องนี้ต่อไป”