โบกธงชาติ บุกทำเนียบฯ “ชูวิทย์” ขอเข้าพบนายกฯ เปิดประเด็นแฉขบวนการทุจริตในกระทรวงฯ เอื้อเป็นทุนพรรคการเมืองหมื่นล้าน แย้มเลือกตั้งมีพรรคชะตาขาด ไม่ตอบ มาเพิ่มคะแนนให้ “ประยุทธ์” และ รทสช.
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ช่วงบ่ายวันนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง นำข้อมูลการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐในหลายกระทรวง เข้าร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมเปิดโปงการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงขบวนการเว็บไซต์การพนันออนไลน์
โดยเมื่อมาถึง นายชูวิทย์ นำแว่นส่องขยายและเสื่อมาปูนั่งพื้นเพื่อตรวจชะตาบ้านเมือง จากนั้นนายชูวิทย์ กล่าวว่า บ้านเมืองขณะนี้มาถึงกลียุค มีการทุจริตในแวดวงข้าราชการและนักการเมือง ตนจะตรวจชะตาบ้านเมือง โดยนำข้อมูลด้านการทุจริตมาเปิดเผย ซึ่งมีพรรคการเมืองที่ชะตาดับถึงฆาต คือกลุ่มพรรคขนาดเล็กที่จะดับทั้งหมด ไม่เหลือใคร ชะตาสีเทาไม่ต้องพูดถึง ส่วนชะตาทัณฑ์ที่จะติดคุกทั้งหมด ที่เหลือเป็นกลุ่มชะตาพัง ชะตาค้าน และชะตาจ่าย
ซึ่งเรื่องการทุจริต การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม เริ่มจากการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ TOR ทั้งที่ปิดการซื้อขายไปแล้ว ทำให้จากเดิมที่รัฐต้องจ่ายเงิน 7,000 ล้านบาท รัฐกลับต้องจ่ายเป็น 70,000 ล้านบาท ถัดมาเป็นการทุจริตที่มีการฟ้องร้องในศาลปกครอง โดยศาลชั้นต้นไม่ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ แต่กลับมีการวิ่งเต้นทำให้ที่ประชุมมีมติเปลี่ยนหลักเกณฑ์ นำมาสู่การฮั้วให้บริษัทเพียงแห่งเดียวที่เข้าหลักเกณฑ์ ต่อมาเป็นการทอนเงิน มีการโอนเงินนับหมื่นล้านบาทที่ประเทศสิงคโปร์ ท้ายสุดเป็นการเปิดประมูลรอบ 2 และกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ลดสเปกต่างๆ จนเหลือบริษัทแห่งเดียวที่สามารถประมูลได้
...
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ถัดมาเป็นการทุจริตภายในกรมอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ควรลดขนาดอุทยาน เพราะจะทำให้ที่ดินกว่า 2 แสนไร่ต้องหายไป ทั้งที่ระบุว่าเป็นป่าเสื่อมโทรม โดยพื้นที่รอบอุทยาน ยังมีทั้งรีสอร์ต ที่ดินชาวบ้าน และที่ดิน สปก.
สำหรับเรื่องการพนันออนไลน์ มีหลายกลุ่ม จัดประเภทเป็นกลุ่มไซส์เอส มีวงเงิน 5,000 ล้านบาท คือ กลุ่ม 4 บ., มาเก๊า 888 ไซส์เอ็ม 10,000 ล้านบาท มีนายโจ๊ก เวกัส 168 คบหากับดารา ทำสปา ธุรกิจร้านอาหาร มีหลานเป็นนักการเมืองนามสกุลรอดรัศมี ไซส์แอล 20,000 ล้านบาท คือสารวัตรซัว และดี้ ยูฟ่า สำหรับเอ็กซ์แอล 30,000 ล้านบาทขึ้นไป คือ เว็บตี๋น้อยร้อยล้าน
“การเลือกตั้งเร็วๆ นี้เป็นเกมหลอกประชาชน หากเป็นประชาธิปไตยแท้จริง ต้องบอกมาเลยว่าจะตั้งรัฐบาลผสมกับใครอย่างไร เพราะหลังเลือกตั้งก็มารวมกันอยู่ดี”
ทั้งนี้นายชูวิทย์ ระบุว่าเรื่องการทุจริตที่ตนกล่าวมาทั้งหมดนั้น ขอให้มองไปในอนาคตข้างหน้า เพราะเราจะต้องร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต ยืนยันตนมีหลักฐานครบทุกอย่างแต่บางอย่างก็บอกสื่อไม่ได้ สื่อจะต้องทำหน้าที่ขุดคุ้ยต่อ ข้าราชการขอให้จับตาไปยังการประชุมคณะรัฐมนตรีในนัดสุดท้าย เรื่องการทุจริตของกระทรวงต่างๆ จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมครม. ในวันนั้นแน่นอน
นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย ก่อนโทรศัพท์หา พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอเข้าพบที่ทำเนียบ แต่ไม่มีผู้รับสาย จากนั้นนายชูวิทย์ จึงเดินชูธงชาติข้ามไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีตำรวจ สน.ดุสิต ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ตำรวจจากกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (กก.สส.บก.น.1) ยืนเรียงแถวหน้ากระดานเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยรอบนอกพื้นที่ทำเนียบ ก่อนจะมีตัวแทนเจ้าหน้าที่จากทำเนียบ มาเชิญนายชูวิทย์ เข้าไปภายใน
จากนั้นเวลา 14.05 น. นายชูวิทย์ได้เดินเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล โดยมีทีมงานของเลขาธิการ เดินคู่กับนายชูวิทย์เพื่อที่จะเชิญให้นายชูวิทย์มาพบกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระหว่างที่นายชูวิทย์เดินผู้สื่อข่าวได้พยายามถามนายชูวิทย์ว่า ได้เข้ามาพบกับนายกฯ และนำหลักฐานการทุจริต ของบุคคลรอบตัวนายกฯ ในรัฐบาล หากนายกฯ ปราบปรามเรื่องเหล่านี้ได้จะเป็นการเพิ่มคะแนนนิยมให้กับตัวพลเอกประยุทธ์และพรรคการเมืองที่พลเอกประยุทธ์สังกัดหรือไม่ โดยนายชูวิทย์ไม่ตอบเพียงแต่บอกว่า วัตถุประสงค์ในวันนี้ต้องการที่จะส่งต่อข้อมูลให้นายกฯ แต่หากพลเอกประยุทธ์ทำสำเร็จแน่นอน ประชาชนจะต้องเชื่อมั่นและหากพลเอกประยุทธ์อยากจะเป็นรัฐบาลและเป็นนายกฯ ต่ออีกสองปีต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้เสร็จ
ทันทีที่นายชูวิทย์เดินมาถึงตึกบัญชาการหนึ่งนายพีระพันธุ์ได้ยืนต้อนรับพร้อมกับให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าไปหารือร่วมกันว่าพร้อมที่จะรับฟังข้อมูลที่นายชูวิทย์จะนำมาบอกในวันนี้ที่ผ่านมาได้ติดตามการทำงานของนายชูวิทย์มาตลอดโดยเฉพาะเรื่องทุนจีนสีเทา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ติดตามและรายงานความคืบหน้าทุก 15 วัน จากนั้นนายพีระพันธุ์ได้เชิญนายชูวิทย์ขึ้นไปพูดคุยที่ห้องทำงานชั้นสาม.