“พล.อ.ประวิตร” ห่วง ประชาชนย้ำหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ร่วมมือกับต่างประเทศ ต่อต้านความรุนแรงบนโซเชียลมีเดีย ในห้วง 2 ปี เฟซบุ๊กปิดเพจหลอกลวงคนไทยไปทำงานต่างประเทศแล้ว กว่า 2 หมื่นเพจ
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้ดูแลนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงได้สั่งการเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกรูปแบบ พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กำกับดูแลให้เป็นไปโดยเรียบร้อย
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ นาย Robert J. Abrams หัวหน้าผู้บังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียงใต้ และประเทศฟิลิปปินส์ของบริษัท Meta Platforms, Inc ซึ่งดูแลระบบโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) ได้ขอเข้าพบ และหารือกรณีความร่วมมือบนระบบโซเชียลมีเดียของเฟซบุ๊ก อาทิ การใช้เฟซบุ๊กเป็นสื่อปลุกปั่นความรุนแรง การยืนยันตัวตน การปิดสื่อโฆษณาหลอกลวงให้สมัครงานโดยมีค่าตอบแทนที่ดีเกินจริง
โดยในห้วง 2 ปี ที่ผ่านมา นายโรเบิร์ต กล่าวว่า เฟซบุ๊กได้ปิดเพจหลอกลวงคนไทยไปทำงานต่างประเทศไปแล้วกว่าสองหมื่นกว่าเพจ สำหรับการหารือครั้งนี้ มีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาทิ ผู้แทนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และผู้แทนกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเข้าร่วมการหารือด้วย ทั้งนี้ นายโรเบิร์ต เป็นอดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) ซึ่งประจำอยู่ ณ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ซึ่งเคยทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ และร่วมกันจัดตั้งคณะทำงาน TICAC เมื่อต้นปี 2559
...
ในตอนท้าย นาย Robert J. Abrams ได้กล่าวชื่นชมความพยายามของประเทศไทย ในการต่อต้านความรุนแรงบนโลกโซเชียลมีเดีย และความพยายามในการใช้ระบบโซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้ได้ขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สำหรับความร่วมมือกับบริษัท Meta ที่ผ่านมา โดยยินดีจะระงับยับยั้งมิให้ Facebook ถูกใช้เป็นเครื่องมือก่อความรุนแรงในสังคม และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายของไทย และยกระดับให้ดียิ่งขึ้นต่อไปแล้ว