“ปิยบุตร” เชื่อ ถ้ากระแสแลนด์สไลด์แรง พรรคก้าวไกลได้ไม่เกิน 30 เก้าอี้ ถามแรง “พิธา” มีดีพอสร้างพลังใหม่หรือไม่ ต้องขีดเส้นแบ่งใหม่ การต่อสู้ระหว่างพลังเก่ากับพลังใหม่ให้ชัด

วันที่ 19 ก.พ. 2566 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “แลนด์สไลด์ ที่พรรคก้าวไกลแก้ไม่ออก” โดยระบุตอนหนึ่งว่า หากพรรคก้าวไกลต้องการคะแนน มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้มากกว่านี้ จำเป็นต้องแสวงหาคะแนนจากกลุ่มผู้ที่ไม่ตัดสินใจ หรือกลุ่มที่ตัดสินใจเลือกพรรคอื่น จะได้คะแนนส่วนนี้เพิ่มมาได้ พรรคก้าวไกลต้องแก้ปมปัญหาเรื่องแลนด์สไลด์ คนจำนวนมากที่เป็นแฟนพันธุ์แท้พรรคเพื่อไทยย่อมลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ หรือคนจำนวนมากชอบพรรคก้าวไกลแต่ไม่คิดว่าจะชนะได้ในเขตเลือกตั้ง ไม่คิดว่าจะชนะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ คนเหล่านี้อาจเลือก ส.ส.เขตของพรรคเพื่อไทย และแบ่งมาลงคะแนนบัญชีรายชื่อให้พรรคก้าวไกล

นายปิยบุตร ระบุต่อไปว่า หากสถานการณ์และอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ยังเป็นเช่นนี้ไปจนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง 2566 พรรคก้าวไกลก็จะได้ ส.ส.เขตน้อยมาก และได้ส่วนแบ่งจากบัญชีรายชื่อมารวมยอด ส.ส.ทั้งหมดคงไปไม่เกิน 30 ที่นั่ง ถ้าต้องการเสียงมากกว่านี้พรรคก้าวไกลต้องคิดแก้ปมปัญหาแลนด์สไลด์ให้ได้ อาทิ ทำให้คนจำนวนมากเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีโอกาสชนะในเขตเลือกตั้งสูง ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลจะเข้าที่ 1 ไม่ใช่เข้าที่ 2 หรือที่ 3 และขีดเส้นแบ่งใหม่ว่าเป็นการสู้กันระหว่างพลังเก่ากับพลังใหม่ เป็นต้น

...

“หากเลือกเส้นทางนี้ การทำแคมเปญ กำหนดยุทธวิธี การคิดคำ ประดิษฐ์คำ ทำมอตโต้ ชูคำขวัญ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต่อให้คิดค้นแคมเปญได้ดีเลิศขนาดไหน ถ้าคนไม่เชื่อ แคมเปญนั้นก็เป็นเพียงบันทึกเก็บไว้ใน Portfolio ปัญหาจึงมีอยู่ว่า ผู้นำพรรคก้าวไกลมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะชนะในเขตเลือกตั้งได้หรือไม่ มีความสามารถเพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อโดยพร้อมเพรียงกันว่า ต้องมีพรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนของพลังใหม่ในการเปลี่ยนประเทศตั้งแต่รอบนี้ได้หรือไม่ เหลือเวลาอีก 3 เดือน”.