“ธนกร” สวนเจ็บ “ณัฐวุฒิ” หลักฐานตำตาหัดยอมรับความจริง ยัน “ตู้ห่าว” ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องรัฐบาลบิ๊กตู่ ไล่ถามคนในพรรคตัวเอง เกี่ยวหลาน-ลูกเขยอดีต รมต.รัฐบาลชุดไหน ถึงได้สัญชาติไทย

วันที่ 18 ก.พ. 66 นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในประเด็นทุนจีนสีเทาในไทย โดยอ้างว่า ทุนจีนสีเทาเข้ามาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้แล้วนั้น เป็นการเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่นว่า ก่อนอื่น นายณัฐวุฒิ ควรต้องยอมรับความจริงก่อนว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนปี 2557 แต่เมื่อนายกฯ ทราบเรื่องก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทันที

จนทราบว่า มีการไปซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบยกหมู่บ้าน จึงเป็นที่มาของวลีที่ว่า "ขายบ้าน แถมสัญชาติ" ซึ่งเมื่อความจริงค่อยๆ กระจ่าง เข้าใจได้ว่าหลักฐานที่ปรากฏแม้ว่าจะถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกใจ หรือไม่ทันใจ นายณัฐวุฒิและพรรคเพื่อไทยอยู่บ้าง แต่ก็ควรหัดยอมรับความจริงด้วยว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่แล้ว มีการจับกุมและขยายผลจนได้ผู้ต้องหาหลายราย บางรายที่หลบหนีก็ออกหมายจับ และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ถูกมองว่า เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็มีการตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวน มีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อนไปแล้ว รวมถึงดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายหากพบว่า มีความผิดจริง ดังนั้น อย่าพยายามโยงเรื่องนี้แบบแถเข้าว่า เพื่อให้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนี้ให้ได้ ทั้งๆ ที่หลักฐานก็เห็นอยู่ตำตาว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ส่วนประเด็นการคอร์รัปชันหรือไม่นั้น คิดว่า ประชาชนคงเห็นชัดเจนอยู่แล้วว่า รัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคไหน ที่มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน รัฐมนตรีในรัฐบาลไหนที่ติดคุกไปแล้วตั้งหลายคน ขณะที่ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ยังไม่มีรัฐมนตรีคนไหนที่ติดคุกเลยสักราย

...

“เรื่องสัญชาติของนายตู้ห่าว ที่ขอแปลงสัญชาติไทย ก็ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า ได้ร้องขอแปลงสัญชาติโดยใช้สิทธิตามกฎหมาย หลังแต่งงานกับคนไทยสัญชาติไทย โดยยื่นขอตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งผู้มีอำนาจในการอนุญาต คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเองใช่หรือไม่ ที่อนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทยได้เมื่อปี 2556 ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทย อยากจะเกาะกระแสเรื่องนี้ ก็ควรเริ่มต้นจากการตอบคำถามก่อนว่า ภรรยาของนายตู้ห่าว มีศักดิ์เป็นหลานของอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคที่นายณัฐวุฒิ รู้จักดีใช่หรือไม่ และ ภรรยา ส.ส.คนไหนที่ไปมีหุ้นอยู่ด้วย ออกมายืดอกรับความจริงกับสังคมบ้างว่า สรุปแล้วภรรยาของนายตู้ห่าว มีความเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลพรรคไหนกันแน่ อย่างไรก็ตาม ผมมองว่า สิ่งที่คุณณัฐวุฒิและพรรคเพื่อไทยกำลังทำอยู่ในขณะนี้ต่างหาก ที่เขาเรียกว่าพยายามเอาชั่วให้คนอื่น” นายธนกร กล่าว.