“วิษณุ” ร่ายยาวแจงปมตั้งเลขาฯ ปปง. ในที่ประชุมสภาฯ ญัตติอภิปราย 152 จ่อดำเนินการหลังถูกกล่าวหารับประโยชน์เป็นเสื้อ ท้า แจ้ง ป.ป.ช.ตรวจสอบได้เลย
เวลา 16.04 น. วันที่ 16 ก.พ. 2566 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี หรือ การอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีการแต่งตั้งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 5 คนรวด ผิดพลาด ไม่ถูกตั้ง ผิดกฎหมาย ทุจริตนั้น การแต่งตั้งนี้ไม่เหมือนบุคลากรอื่นของรัฐ เพราะผ่านคณะกรรมการสรรหาก่อนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วไปที่วุฒิสภาสอบประวัติ ก่อนเข้าที่ประชุมใหญ่วุฒิสภา มติออกมาอย่างไรก็จะเป็นไปตามนั้น ไม่ได้มีลับลมคมในอะไร
ส่วนกรณีที่ใช้มาตรา 44 ตั้ง พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เป็นเลขาธิการ ปปง. เพราะช่วงนั้นกฎหมาย ปปง.ออกมาใหม่ ยังไม่กำหนดเรื่องวิธีการสรรหา ขณะนั้นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังอยู่ จึงใช้อำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้ง ซึ่งทำถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการ เมื่อพ้นจากตำแหน่งก็พิจารณาให้เลื่อน พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร ขึ้นมา แต่ต่อมามีการร้องเรียนกล่าวหามากมาย จึงขอให้ออกจากตำแหน่งมาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างนั้นมีการตั้งกรรมการสอบทางวินัย ระหว่างนั้นแต่งตั้ง พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ เป็นผู้รักษาการแทน
ต่อมาผลสอบ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ มีความผิดทางวินัยจริง แต่ไม่ใช่วินัยร้ายแรง จึงลงโทษตัดเงินเดือน ส่วน พล.ต.ต.ปรีชา ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้เป็นเลขาธิการ ปปง.ตัวจริง จึงเสนอเข้าคณะกรรมาธิการวุฒิสภาตรวจสอบประวัติ แต่เมื่อนำเสนอประชุมวุฒิสภาไม่เห็นชอบ เป็นอันว่าตกไป จากนั้นจึงเสนอแต่งตั้ง พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ขณะนั้นเป็นรองเลขาธิการ ปปง. ให้ขึ้นมาเป็นเลขาธิการ ปปง. ซึ่งผ่านทั้ง ครม. การสอบประวัติ และที่ประชุมวุฒิสภา จึงได้ดำรงตำแหน่ง
...

สำหรับกรณีที่ไปพัวพัน นายตู้ห่าว หรือ จีนสีเทา ที่มีการกล่าวหากัน ขณะนั้นยังไม่ได้มีข้อมูลปรากฏ และเมื่อพ้นตำแหน่งเลขาธิการ ปปง. ได้มีการเสนอให้เป็นกรรมการ ปปง. และที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้เป็นประธาน ปปง. ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ ปปง. ที่ว่างลง ก็พิจารณาให้ นายเทพสุ บวรโชติดารา ขึ้นเป็นเลขาธิการ ปปง. และวุฒิสภาเพิ่งให้ความเห็นชอบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอนตามปกติ ส่วนจะมีความผิดไปพัวพันเกี่ยวข้องกับอะไร เป็นเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะเดียวกันในชั้นวุฒิสภาตั้งข้อสังเกตหลายขอถึงรัฐบาล อาทิ ไม่ควรตั้งเลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการเลขาธิการ ปปง.
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังได้กล่าวชี้แจงถึงเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับประโยชน์โดยมิชอบ แลกกับสูท กับชุดไทยพระราชทาน ว่า ตนเองได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หลายปีก่อนก็ไปเป็นประธานพิธี กล่าวปาฐกถาจริง แต่ 3 ปีที่ผ่านมา ป.ป.ท.งดจัดงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด ปีนี้ก็ไม่ได้ไป แต่ส่งบันทึกเทปไป ยืนยันว่าไม่มีพฤติการณ์แลกรับประโยชน์ และหน่วยงานนี้ไม่เคยมอบอะไรให้


พร้อมเล่าย้อนถึงขณะไปราชการที่ออสเตรเลียแล้วล้มป่วย แพทย์บอกว่าเป็นโรคเกี่ยวกับไต โดยฟอกไต 10 ชั่วโมงติดต่อทุกวันามา 5 เดือนเศษ ไม่ควรใส่ชุดที่ทับแผลและสายที่ต้องใช้ฟอกไต จึงเป็นรัฐมนตรีที่นิยมแต่งชุดข้าราชการ ภรรยาก็ซื้อผ้าไหมไว้หลายผืนมาไว้ตัดชุด เพื่อมาประชุม ครม. หรือวันอื่นๆ ตนเองจ่ายค่าตัดชุดทุกครั้ง ไม่เคยมีใครออกให้ กระทั่งมีผู้นำมาอภิปรายว่ามีคนจาก ป.ป.ท. วิ่งเชื่อมโยงและเรียกรับผลประโยชน์เป็นเสื้อ ซึ่งค่าตัดชุดไทยพระราชทาน 2,500 บาท ร้านชื่อขึ้นต้น ท.ทหาร ตนเองไม่เคยรับสูทหรือชุดไทยพระราชทานฟรี นอกจาก ครม.สัญจร ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะตัดให้ทั้งคณะ
“ทั้งหมดไม่มีอะไร ผมไม่เคยได้รับในสิ่งเหล่านี้ ถ้าเรียก จะรับ จะแลก กับผลประโยชน์อะไรนั้น มันคงไม่ใช่เป็นชุดไทยพระราชทานหรอก จะเป็นแหวน จะเป็นนาฬิกา จะเป็นสร้อย ถนิมพิมพาภรณ์ ดูจะเข้าท่ากว่าตั้งเยอะตั้งแยะ คุ้มกันหน่อยกับชื่อเสียงเกียรติยศที่จะมาแลกกันกับในเรื่องนี้ ผมไม่มีพฤติกรรมอย่างนี้”
อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ ระบุในช่วงท้ายว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ติดต่อไปที่ร้าน และทางร้านเล่าให้ฟังว่ามีชายไทย 2 คน เอาผ้าไปให้ตัด และยังขอให้ออกใบเสร็จว่าตัวละ 5,000 บาท จะได้ส่วนต่างเวลาไปเบิก อีกทั้งพูดในทำนองว่าเจ้านายคือ นายวิษณุ เครืองาม เป็นรองนายกรัฐมนตรี คงจะต้องสืบเสาะแสวงหากันต่อไป และท่านที่กล่าวหาก็อาจจะให้ส่งเรื่องไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของ ป.ป.ช. เรื่องไม่ให้ข้าราชการรับประโยชน์ใดเกินกว่า 3,000 บาท และในส่วนของตนเองก็จะดำเนินการตามช่องทางที่คิดว่าสมควรต่อไป และจบการชี้แจงในเวลา 16.18 น.