“จิราพร” ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสงสัย "หลานชายบิ๊กตู่" อาศัยอิทธิพล "พ่อ-บารมีลุง" ตั้งบริษัท ประมูลงานรัฐบาลมูลค่าร่วมพันล้าน โยงเอี่ยวธุรกิจทุนจีนสีเทา จี้ "ประยุทธ์" ไปตรวจสอบและตอบคำถามสังคม
วันที่ 15 ก.พ. เมื่อเวลา 14.26 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี หรือการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่รัฐสภา น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ดพรรคเพื่อไทย อภิปรายฯ กรณี หลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ เปิดบริษัทรับงานรับเหมาก่อสร้าง ตั้งบริษัทในค่ายทหาร หากินกับโครงการกองทัพต่อเนื่อง คล้ายกับ "ลุง" พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่ยอมย้ายออกจากบ้านพักทหาร แต่หลาน พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อถูกข้อครหาจากสังคม ก็เลยต้องย้ายสถานที่ตั้งบริษัทออกมา แต่ก็ยังไม่พ้นข้อครหาสังคม เนื่องจากบริษัทมีสถานะขาดทุน แต่ได้งานรัฐบาล 28 ล้านบาท เป็นโครงการของกองทัพทั้งหมด ที่ได้สงสัยว่าเพราะเป็นเขตอิทธิพลพ่อ-บารมีลุงหรือไม่
โดยขณะนั้น บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนต่ำ จึงมีข้อสงสัยทุนจดทะเบียนต่ำ แต่ทำไมกลับได้งานโครงการรัฐ ซึ่งรับงานโครงการรัฐจำนวนหลายสิบล้านบาท แต่มีเครื่องมืออุปกรณ์รับเหมาก่อสร้างเพียง 13 รายการ ซึ่งไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือเพียงพอ สงสัยใช้อิทธิพลพ่อ-บารมีลุงในการรับงานหรือไม่
ขณะเดียวกัน น.ส.จิราพร กล่าวอีกว่า สภาพบ้านที่ใช้รับงานของรัฐบาลมูลค่าราวพันล้านบาท แต่สภาพบ้านที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด เข้าร่วมประมูลงานไม่มีความเหมาะสม รวมทั้งสภาพที่ตั้งบริษัท "คู่เทียบ" มาแข่งขันราคาประมูลกับบริษัทหลาน พล.อ.ประยุทธ์ หลายที่ไม่มีสภาพเป็นบริษัทเลยแต่อย่างใด ไม่มีสภาพที่เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจแต่อย่างใด
...
ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเอาบริษัทมาเป็นคู่เทียบแล้วแข่งประมูลฮั้วกัน ให้บริษัทหลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ ชนะการประมูล ขณะที่ราคาที่ชนะการประมูลก็สงสัยว่า ราคากลางที่ตั้งกันนั้น ต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อย ทำให้ชนะการประมูลนิดเดียว ซึ่งมีหลายเคสที่ปรากฏ ขณะที่การประมูลชนะเพราะเสนอราคาต่ำกว่าคู่แข่งเพียงหลักพัน หรือหลักหมื่นบาทเท่านั้น น้อยกว่า 1% ชี้ พฤติการณ์สมยอมกันเข้าข่ายฮั้วประมูลให้บริษัทอื่นไม่สามารถเข้าประมูลใช่หรือไม่ และมีบางงานได้งานโดยไม่ต้องเปิดประมูล เพราะมีผู้เข้าประมูลเจ้าเดียว ทั้งที่ความจริงควรเปิดประมูลใหม่ ป.ประยุทธ์ ป.ปรีชา ป.ปฐมพล มีความสัมพันธ์เกื้อหนุนกันอยู่ตลอดใช่หรือไม่
น.ส.จิราพร กล่าวว่า เรื่องทุนจีนสีเทานำเข้ารถ หลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ ก็เอาไปให้บริษัททุนจีนเช่าช่วงต่อ ทั้งยังปรากฏการนำรถโดยสารจากจีนเข้ามาไทยใช้เอกสารปลอมว่า นำเข้ามาจากมาเลย์ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี แต่ความจริงไม่มีการถอดแยกชิ้นส่วนเลย นำเข้ามาทางเรือไม่มีการแยกชิ้นส่วน สำแดงภาษีเป็นเท็จ นาย ห.-ตู้ห่าว-หลานประยุทธ์ เป็นกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายตู้ห่าวเป็นคนจ่ายเงินให้หลาน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนอมินีทำธุรกิจ ซึ่งผิด พ.ร.บ.ปราบปรามการฟอกเงิน
"วันนี้ทุนจีนสีเทาน่ากลัวแล้ว แต่ทุนไทยสีเขียวน่ากลัวกว่า เรื่องนี้ถูกถามหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ดังนั้นเหลือเวลาอีก 37 วัน พล.อ.ประยุทธ์ รัฐบาลจะครบวาระ ท่านกล้าหรือไม่ ที่จะตั้งกรรมการหรือสั่งหน่วยงานเข้าตรวจสอบหลานชายตัวเองในข้อครหา เพื่อสร้างความกระจ่างให้สังคมไทย" น.ส.จิราพร กล่าว...