“ปดิพัทธ์” ก้าวไกล เร่ง กกต. แจงให้ชัด แบ่งเขตเลือกตั้ง จี้ตอบ นับรวมราษฎรไม่มีสัญชาติไทยด้วยหรือไม่ อัด ยิ่งทำงานยิ่งทำคนไม่ไว้ใจ ชี้ กรณี ป.ป.ช. ชี้มูลปมบัตรเลือกตั้งนิวซีแลนด์ ทำคะแนนประชาชนสูญเปล่า ต้องไม่ให้เกิดซ้ำอีก

วันที่ 14 ก.พ. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณีมีรายงานข่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะหารือในวันนี้ ประเด็นการนำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทย มาคิดคำนวณจำนวน ส.ส. ที่แต่ละจังหวัดพึงมีและแบ่งเขตเลือกตั้ง เนื่องจากมีหลายฝ่ายในสังคมทักท้วง โดยประเด็นหารือรวมถึงอาจพิจารณายื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องนี้ด้วย

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกล เคยแสดงความกังวลว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ไม่ชัดเจน อาจนำไปสู่เลือกตั้งโมฆะ เช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต รวมถึงตั้งคำถามว่า การนับรวมราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยนั้น เป็นสิ่งที่ กกต. เคยทำมาก่อนหรือไม่ หากเคยทำมาก่อน ก็ไม่น่าต้องกังวลว่าจะมีปัญหา แต่หากไม่เคยทำมาก่อน ครั้งนี้ก็ไม่ควรทำเช่นกัน หลังจากนั้น กกต. ออกมาชี้แจงว่า การประกาศจำนวนราษฎรในอดีต ก็ทำเป็นประกาศรวมที่นับทั้งคนสัญชาติไทยและคนที่ไม่มีสัญชาติไทย เพิ่งจะมาแยกคน 2 กลุ่มนี้ ออกจากกันในประกาศจำนวนราษฎร วันที่ 31 ธันวาคม 2557 แต่ กกต. ยังไม่ได้ตอบคำถามของพรรคก้าวไกลว่า แล้วการเลือกตั้งที่ผ่านมา เช่น ปี 2562 ได้คิดรวมคนที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณด้วยหรือไม่ ดังนั้น ในเมื่อ กกต. จะประชุมวันนี้ ก็ควรมีคำตอบเรื่องนี้ รวมถึงคำตอบว่า ถ้า กกต. จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จะกระทบต่อไทม์ไลน์การเลือกตั้งหรือไม่

นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า ตามกฎหมาย การเลือกตั้งควรมีขึ้นไม่เกินวันที่ 7 พฤษภาคม นี้ ทั้งที่ประชาชนมีความหวังให้การเลือกตั้ง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แต่จากการทำงานของ กกต. ปัจจุบัน ไม่ได้ทำให้ประชาชนรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจได้เลย ไม่ว่าจะเป็น การแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้งที่ทะเบียนราษฎรออกมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 แต่ตอนนี้หลายจังหวัดเริ่มพบกลไกที่ย้ายเขตเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางคะแนน เช่น พิษณุโลก เขต 1 มีความพยายามตัดพื้นที่ที่ตนทำงานอย่างต่อเนื่องออกไป และเอาพื้นที่ของนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นฝ่ายรัฐบาลมาเติมแทน นอกจากนี้ ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับระบบรายงานผลเลือกตั้งแบบ Real time ทั้งที่ กกต. ได้รับงบประมาณจัดเลือกตั้งถึงเกือบ 6,000 ล้านบาท

“กกต. ต้องชี้แจงเรื่องพวกนี้ เพราะสำคัญมากต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ในฐานะองค์กรอิสระที่มีหน้าที่หลักคือ จัดการเลือกตั้งให้โปร่งใสเป็นธรรม แต่ยิ่งใกล้เลือกตั้ง กกต. กลับยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามว่าทำงานกันอย่างไร ทำไมดูขาดความพร้อม ขาดความชัดเจนเต็มไปหมด” ปดิพัทธ์ กล่า

ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด ณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กับพวกรวม 3 ราย กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีละเว้นไม่ดำเนินการรับมอบและติดตามถุงเมล์การทูตที่บรรจุซองใส่บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกราชอาณาจักร จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเหตุให้ กกต. มีมติให้บัตรเลือกตั้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ไม่สามารถนำมานับเป็นคะแนนได้ ว่าเป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจน สะท้อนความผิดพลาดล้มเหลวของ กกต. ซึ่งต้องไม่ปล่อยให้เกิดซ้ำอีก แม้อดีตรองเลขาธิการ กกต. จะถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและต้องรับโทษ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผลการเลือกตั้ง เสียงของประชาชนที่ถูกทำให้สูญเปล่า เป็นสิ่งที่เรียกคืนไม่ได้ ทุกพรรคการเมือง รวมถึงอดีตพรรคอนาคตใหม่ ล้วนได้รับผลกระทบ เพราะคะแนนจากนิวซีแลนด์บางส่วน อาจทำให้พรรคมีคะแนนมากขึ้นและชนะเลือกตั้งในบางเขต เช่น นครปฐมเขต 1 อดีตพรรคอนาคตใหม่ ชนะ 4 คะแนน แต่กลับมาแพ้เพราะเจ้าหน้าที่นับรวมคะแนนผิดแล้วไม่ยอมรวมใหม่ เปลี่ยนไปนับคะแนนใหม่ มีการแสดงคะแนนเปลี่ยนไปมาถึง 5 ครั้ง ก่อนเกิดคะแนนเขย่งและพรรคอนาคตใหม่แพ้เลือกตั้งในที่สุด

...