พท.แขวะรัฐบาลดิ้นหนีอภิปราย ม. 152 เหตุเพราะซุกปัญหาไว้ใต้พรมเยอะ “ประเสริฐ” ขู่ลากคอ รมต.ฟ้อง ป.ป.ช.เชือด “ภราดร” ฮึ่มอย่ามาตีกินการเมืองหวังผลเลือกตั้ง ถล่มซ้ำซากหาเศษหาเลย ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมแน่ “สิริพงศ์” ดักคออภิปรายทั่วไป ไม่ใช่ซักฟอก ภท.ส่ง “อนุทิน” ชิงนายกฯคนเดียว “เสี่ยหนู” ลั่นกวาด 120 ส.ส. ขึงขังไม่ยกเก้าอี้นายกฯให้ใคร “วันชัย” ออกตัวเอี๊ยดขวางแลนด์สไลด์ พท. อ้าง 250 ส.ว.แท็กทีมแลนด์สไลด์ดับฝัน “อุ๊งอิ๊ง” คั่วนายกฯ หยัน พท.รวมไม่ได้ 376 เสียง ไปไม่ถึงดวงดาว ปชป.เปิดตัวพรรคแรกครบ 58 ผู้สมัคร ส.ส. 14 จังหวัดภาคใต้ “จุรินทร์” อ้อนคนปักษ์ใต้ขอคัมแบ็ก ชูพรรคสถาบันดับเครื่องชนพรรคเฉพาะกิจ “เจ๊หน่อย” ปัดข่าวยุบรวม รทสช. ลุยเดินหน้าเปลี่ยนแปลงประเทศ

หลังจากนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เห็นแย้งความเห็นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯที่ระบุ หากองค์ประชุมไม่ครบหรือสภาฯล่มในระหว่างการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 วันแรก ถือว่าจบการอภิปรายและสิ้นสุดญัตติทันทีจนถูกมองว่ารัฐบาลเล่นเกมการเมืองหนีการอภิปราย

...

“ประเสริฐ” ลั่นลาก รมต.ฟ้อง ป.ป.ช.

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมแล้วเหลือแค่รอเวลามีผู้แสดงเจตจำนงขออภิปรายมากถึง 35 คน เฉพาะพรรคเพื่อไทยมี 25 คน ในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านสัปดาห์หน้าคงได้หารือกันอีกครั้งเพื่อปรับจำนวนผู้อภิปราย เนื่องจากรัฐบาลให้เวลาฝ่ายค้านเพียงแค่สองวัน สำหรับหัวข้อในการอภิปราย จะอภิปรายถึงความไม่ชอบมาพากลและปัญหาการทุจริตโครงการต่างๆ ของรัฐบาลชุดนี้ รวมไปถึงเรื่องที่รัฐบาลต้องทำ แต่ปล่อยปละละเลยจนก่อให้เกิดความเสียหาย และแม้ว่าจะเป็นการอภิปรายแบบไม่ลงมติ แต่เราจะอภิปรายเพื่อส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาล หากข้อมูลที่เราอภิปรายรัฐมนตรีนั้นมีมูล พบว่ามีการกระทำผิดจริง ฝ่ายค้านจะยื่นร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่างานนี้มีรัฐมนตรีถูกยื่นร้องเพื่อเอาผิดแน่นอน

รบ.หนีเพราะมีปัญหาใต้พรมเยอะ

นายประเสริฐยังกล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า หากองค์ประชุมไม่ครบหรือสภาฯล่มตั้งแต่การอภิปรายวันแรก ถือว่าจบการอภิปรายและสิ้นสุดญัตติทันทีว่านายวิษณุเข้าใจผิด นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 พูดชัดเจนว่าองค์ประชุมไม่ครบไม่ได้หมายความว่าญัตติจะตกไป ญัตติการอภิปรายยังค้างอยู่ อยากให้รัฐบาลมารับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน อยากให้รัฐบาลเปิดใจรับฟัง อย่ามองว่าฝ่ายค้านจ้องจะอภิปรายนอกข้อบังคับอย่างเดียว หากเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาในสภาฯ ไม่ได้ จะให้ไปพูดนอกสภาหรือ หากเกิดปัญหาสภาล่มจริง เท่ากับรัฐบาลกำลังหนีเพราะมีของซุกอยู่ใต้พรมเยอะ และเมื่อการเลือกตั้งมาถึง ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะลงโทษรัฐบาลอย่างไร

“สมคิด” ไม่เชื่อ รบ.เล่นเกมขัดขวาง

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อ ไทย รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า กระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันที่ 15-16 ก.พ.ว่า ถ้าเป็นจริงเป็นการเล่นเกมการเมืองป้องกันตัวเอง ไม่เปิดโอกาสให้พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายได้ แม้ญัตติอภิปราย 152 จะไม่ตกไป แต่ฝ่ายค้านไม่สามารถเปิดอภิปรายได้ หากพรรคร่วมรัฐบาลจะใช้วิธีนับองค์ประชุมเป็นเกมการเมืองเพื่อให้สภาล่มไม่สามารถประชุมต่อไปได้ จะเลื่อนญัตติออกไปเรื่อยๆในครั้งต่อไป หากยังไม่ครบไม่สามารถเปิดประชุมได้จนกว่าองค์ประชุมจะครบจึงจะเปิดอภิปรายได้ ไม่ดีกับทุกฝ่าย วิปฝ่ายค้านไม่เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเล่นเกมแบบนั้น ญัตติอภิปราย 152 เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พรรคฝ่ายค้านไม่ได้ต่อว่ารัฐบาลอย่างเดียว แต่ฝ่ายค้านพร้อมชี้แนะวิธีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ฝ่ายรัฐบาลตอบโต้การอภิปรายของฝ่ายค้านได้

“อนุสรณ์” อัด “วันชัย” หิวแสงไปไหน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์ข้อความเรื่อง “250 ส.ส.หรือ ส.ว. ...ใครจะแลนด์สไลด์” ระบุว่า ส.ว.จะไม่เลือก “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกฯแน่ ดับฝันแลนด์สไลด์ว่า ดูเหมือนนายวันชัยยังไม่สำนึกที่เป็นคนเสนอให้มีคำถามพ่วง ส.ว.โหวตนายกฯที่สร้างบาดแผลให้กับระบอบประชาธิปไตย เป็นจุดเริ่มต้นทำให้หัวหน้าคณะรัฐประหาได้สืบทอดอำนาจมากว่า 8 ปี นายวันชัยจะหิวแสงไปไหนถึงมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ แต่ต้องไม่ดูถูกประชาชน สำนึกว่าตัวเองมี 1 เสียงเท่าประชาชน แคนดิเดตนายกฯทุกพรรคจะชื่อใด ตระกูลใด มีสิทธิเป็นนายกฯหากประชาชนเลือก ส.ว.ควรเป็นสภาที่มีวุฒิภาวะ นายวันชัยควรทำตัวให้สมกับเป็น ส.ว. แล้วไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่า ส.ว.คนอื่นจะคิดเหมือนนายวันชัย ถ้าจิตใจฟุ้งซ่านมาก นายวันชัยควรหาเวลาไปฝึกนั่งสมาธิเพื่อฝึกควบคุมสติที่วัดไก่เตี้ยบ้างก็ดี

ปัดค้านขึ้นเงิน อบต.

นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีมีการเสนอข่าวว่าพรรค พท.คัดค้านการปรับค่าตอบแทนสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ยืนยันไม่ได้คัดค้าน หากพรรค พท.ได้เป็นรัฐบาลคงปรับค่าตอบแทนมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ต้องรอ 8 ปี ยิ่ง อบต.เข้มแข็งประชาชนยิ่งได้ประโยชน์ และยังให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ คณะทำงานจะผลักดันให้คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบนโยบายสำคัญสร้างความเข้มแข็งและพลิกโฉมการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อทำให้ชีวิตของพี่น้องดีขึ้น ทั้งแนวคิดยกฐานะ อบต.เป็นเทศบาลตำบล แต่ยังคงให้มีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผลักดันเพิ่มสัดส่วนงบฯให้อปท. และเลือกตั้ง ผวจ.จังหวัดที่พร้อม เมื่อผ่านความเห็นชอบนโยบายจะประกาศเป็นนโยบายหาเสียงต่อไป

“แรมโบ้” ปลุกเลือก “ลุงตู่” ลูกอีสาน

ที่บ้านกลางน้อย ต.บ้านว้า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายเสกสกล อัตถาวงศ์ กรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ฯ พรรค รทสช. พร้อมนายอานนท์ แสนน่าน นายเสกสรร ชัยเจริญ (หนุ่มเสก) สมาชิกพรรค รทสช. จัดกิจกรรม “ตุ้มโฮมชาวอีสานเอาลุงตู่เป็นนายกอีกสมัย” โดยนายเสกสกลปราศรัยว่า ลูกอีสานต้องรักคนอีสานเลือดสีเดียวกัน ต้องไม่ทิ้งกัน ฝากชาวหนองคายเลือกผู้สมัคร ส.ส.เลือกพรรค รทสช. คนอีสานไม่ชอบคนขี้โกง คนบ้านเรารักผู้นำใจซื่อมือสะอาด ไม่ด่างพร้อยเรื่องโกงหรือทุจริตคอร์รัปชัน เราต้องการนายกฯเป็นคนอีสานเท่านั้น

ภท.ซัดฝ่ายค้านอย่าตีกินการเมือง

นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย และนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการพรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ “ผ่านช่องทางยูทูบและเฟซบุ๊ก พรรคภูมิใจไทย ถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ที่จะมีขึ้นวันที่ 15-16 ก.พ.โดยนายภราดรกล่าวว่า การอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ ต่างจากการอภิปรายไม่วางใจในมาตรา 151 แต่ไม่ว่าจะอภิปรายแบบใด อยากให้ฝ่ายค้านพูดในสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์ มากกว่าหวังประโยชน์ทางการเมือง ยิ่งช่วงเข้าสู่การเลือกตั้งเข้าใจได้ว่าต้องพยายามทำเรื่องให้เป็นประเด็นการเมืองทั้งหมด แต่ควรเอาแค่พอประมาณ เอาที่ชาวบ้านมีประโยชน์ด้วย

เตือนจ้อซ้ำหาเศษหาเลยเจอดีแน่

นายภราดรกล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวพรรคภท.จะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการอภิปรายตามมาตรา 152 อาจทำให้สภาล่ม อภิปรายต่อไม่ได้ ไม่ได้บอกว่าจะไม่เป็นองค์ประชุม แต่เมื่อมีการสอบถามเข้ามาได้เตือนไปว่าถ้าอภิปรายเรื่องที่เป็นประโยชน์ พรรค ภท.เป็นองค์ประชุมให้แน่นอน แต่ถ้านำเรื่องเก่าที่พูดไปแล้วซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อจะมาหาเศษหาเลย ฉกฉวยโอกาสทางการเมือง พรรคภท.จะไม่ร่วมองค์ประชุม

ดักคออภิปรายทั่วไปไม่ใช่ซักฟอก

ด้านนายสิริพงศ์กล่าวว่า ต้องย้ำว่าการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือเวทีซักฟอกที่เป็นเวทีของฝ่ายค้าน แต่มาตรา 152 ควรเป็นเวทีเปิดโอกาสให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เสนอแนะต่อรัฐบาล ตนมีหลายประเด็นอยากสอบถามเสนอแนะฝ่ายบริหารเช่นกัน เวทีอภิปรายมาตรา 152 ถูกสร้างภาพให้เราเข้าใจมาตลอดว่าเป็นเวทีของฝ่ายค้าน หลักจริงๆ ต้องให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลนำเสนอด้วย

ส่ง “อนุทิน” ชิงนายกฯคนเดียว

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค ภท. กล่าวในรายการ... ภูมิใจไทย พูดเเล้วทำ เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กและยูทูบพรรค ภท.ถึงแนวทางการเสนอชื่อบุคคลในบัญชีนายกฯของพรรคว่า จากการประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯเพียงคนเดียว มั่นใจว่ามีความพร้อมจะเป็นนายกฯ พี่น้องประชาชนได้เห็นผลงานแล้ว ในฐานะนักบริหารแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ทางภาคธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จบริษัทระดับยักษ์ใหญ่ของประเทศ เป็นคุณสมบัติสำคัญของคนจะมาเป็นนายกฯของประเทศ ไทยเวลานี้ สำคัญสุดการที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้มาเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ที่พรรค ภท. ถือว่ามีนัยในแง่ความเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ดังนั้นในระดับสากล นายอนุทินไม่ด้อยกว่าใคร แน่นอนว่าทุกพรรคเสนอมาแต่ละท่าน ส่วนมงจะลงที่ใครอยู่ที่พี่น้องตัดสินใจ ยืนยันพรรค ภท.เราเสนอนางงามที่เหมาะสมที่สุดที่จะให้พี่น้องสวมมงให้

“โอ๋” โอ่ตอกเสาเข็มยกเมืองกาญจน์

ที่โรงเรียนท่าม่วงราษฎร์บำรุง จ.กาญจนบุรี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท.ลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี 4 เขตจาก 5 เขต ประกอบด้วย พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ เขต 1 นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน เขต 3 นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ เขต 4 และนายอัฏฐพล โพธิพิพิธ เขต 5 มีประชาชนมาฟังปราศรัยคึกคัก โดยนายศักดิ์สยามกล่าวว่านโยบายพรรค ภท.พูดแล้วทำ ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายอย่าง เราภูมิใจเสนอนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิต แก้ปัญหาปากท้อง จ.กาญจนบุรีเราเคยได้ ส.ส.แล้วบางเขต รอบนี้จะมาร่วมกันสร้างกาญจนบุรีให้เป็น “กาญจน์ยูไนเต็ด” แบบเดียวกับ จ.บุรีรัมย์ ขอฝากเลือก ภท.ให้ชนะยกจังหวัด ให้เข้าสภาฯไปผลักดันความเจริญมาสู่บ้านเรา

“สุนทร” ถ่างขาเชียร์ทั้ง ภท.–พปชร.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ปรากฏคลิปวิดีโองาน “มองมุมไหนหัวใจเดียวกัน” ที่ จ.สมุทร ปราการ นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรฯ สมาชิกกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีหาเสียงว่า เลือกตั้งครั้งหน้าให้เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท. ที่ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม หรือน้องเพลง เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภท. ลูกสาวนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หัวหน้ากลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า กับ น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ ส่วนระบบเขตให้เลือกผู้สมัครกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าไม่ว่าจะลงสมัครในนามพรรคอะไร ท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้ร่วมงาน

นายสุนทรให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการหาเสียง ใครจะเลือกแบบไหนเป็นสิทธิ์ของประชาชน แต่หากเป็นไปได้ ส.ส.เขตขอให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.พรรคพปชร.ส่วนบัญชีรายชื่อขอให้เลือกพรรค ภท. บัตร 2 ใบเปิดโอกาสให้ชาวบ้านตัดสินใจได้มากขึ้น เมื่อถามว่าเกรงว่าพรรค พปชร.จะไม่เข้าใจหรือไม่ นายสุนทรตอบว่า “ผู้ใหญ่คุยกันแล้ว”

“หนู” จ่อช่วยว่าที่ลูกสะใภ้หาเสียง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องลงไปช่วยหาเสียงที่ จ.สมุทรปราการอยู่แล้ว ที่ผ่านมาช่วยคนอื่นหมดเลย ว่าที่ลูกสะใภ้ หรือ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม หรือน้องเพลง เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท.จะไม่ช่วยได้อย่างไร ลูกสะใภ้คนแรกด้วยก็เห่อ ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่ของน้องเพลงแล้วว่าให้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท.และต้องขอบคุณท่าน รมช.เกษตรฯด้วย

เมื่อถามว่านายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และ น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย จะช่วย น.ส.ชนม์ทิดาหาเสียงให้พรรค ภท.หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พ่อแม่ทุกคนรักลูก ขนาดเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ตนยังรักขนาดนี้ พ่อแม่แท้ๆจะรักขนาดไหน เมื่อถามว่า น.ส.ชนม์ทิดาจะอยู่บัญชีรายชื่อลำดับเท่าไหร่ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกอย่างต้องผ่านคณะกรรมการบริการพรรค ไม่มีเส้นแน่นอน อยู่ที่ความสามารถ เมื่อถามว่าอนาคตมีโอกาสที่ลูกทีมนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม จะมาทำงานร่วมกับพรรค ภท.หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าวันที่ 10 ก.พ.ถ้าดูคลิปที่นายสุนทรพูดไว้ก็ค่อนข้างชัดเจน

ลั่น ภท.ขอ ส.ส. 120 เสียง

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ลานปั๊มเชลล์ (ปฐมวิวัฒน์) เลขที่ 99 หมู่ที่ 1 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเวทีปราศรัยและเปิดตัวนายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ อดีต ส.ส.นครปฐม พรรคพลังประชารัฐ ลงรับเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม เขต 5 พรรคภูมิใจไทย โดยเปิดบ้านพักเป็นเวทีปราศรัย มีประชาชนมาร่วมกว่าพันคน โดยนายอนุทินกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ญาติตนเป็นคน จ.นครปฐม เด็กๆใช้ชีวิตที่เป็นครอบครัวคนจีน ดังนั้น การนับญาติไม่ใช่สิ่งที่แปลก นายปฐมพงศ์ ซึ่งเป็น ส.ส.มาหลายสมัยที่ได้พบกันในสภา ดังนั้น เมื่อถึงเวลาจึงชวนมาอยู่ด้วย เพราะเราอยากมี ส.ส.นครปฐม ที่เป็นเหมือนบ้าน ขอฝากพรรค ภท.กับชาวนครชัยศรี พุทธมณฑล ศาลายาและนครปฐม วันนี้ปราศรัยในบ้านนายปฐมพงศ์ ปกติวัดลานกลางแจ้ง อบอุ่นไปอีกแบบ ถือว่าเราเป็น “คนบ้านเดียวกัน” รอบหน้าขอ 120 เก้าอี้จะได้มีลุ้นให้หัวหน้าพรรค ภท.มีลุ้นได้เป็นนายกฯ กาทั้งคนทั้งพรรค

ทำขึงขังไม่ยกเก้าอี้นายกฯให้ใคร

นายอนุทินกล่าวว่า ได้รับเลือกให้เป็นแคนดิเดตนายกฯหนึ่งเดียวของพรรคภูมิใจไทย และจะได้เป็นลูกน้องของชาวนครปฐม ตอนนี้มีการใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทยว่าถ้าเลือกแล้วเขาจะยกตำแหน่งนายกฯให้พรรคอื่นนั้น เพราะว่าเขาสู้นโยบายของเราไม่ได้จึงต้องใช้วิธีสกปรก ซึ่งตนขอยืนยันว่าเมื่อเลือกพรรคภูมิใจไทยเยอะๆ ตนจะเป็นนายกฯเองแน่นอน

“วันชัย” ฮึ่ม ส.ว.ผนึกกำลังสกัด พท.

ก่อนหน้านี้ นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “250 ส.ส.หรือ ส.ว. ใครจะแลนด์สไลด์” ระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้ว ใครรวมเสียงส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ คนนั้น พรรคนั้นควรเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาล ส.ว.ส่วนใหญ่จะโหวตให้ตามหลักการ ส่วนใครจะเป็นนายกฯต้องมีภาวะความเป็นผู้นำ เป็นที่ยอมรับของคนทั้งสภาทั้งประเทศ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ของเล่นของใครหรือตระกูลใด นายกฯ คือหน้าตาคนทั้งประเทศ จะเที่ยวจับใครยัดมาเป็น เหมือนที่เคยเป็นมาคงไม่ได้ เป็นการตบหน้าประชาชนและสมาชิกรัฐสภา

ขู่ 250 ส.ว.แลนด์สไลด์ดับฝัน “อุ๊งอิ๊ง”

“ได้เห็นมาเต็ม 2 ลูกตา ได้ยินมาเต็ม2รูหูว่าเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ จะเลือกอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯเป็นเรื่องของเพื่อไทย แต่พรรคผมและพวกผมไม่เลือกแน่นอน หมายความว่าถ้าอุ๊งอิ๊งจะเป็นนายกฯ เพื่อไทยต้องรวมเสียงพรรคพวกตัวเองให้ถึง 376 เสียง และเสียงเหล่านั้นทุกคนต้องยอมรับตัวอุ๊งอิ๊ง ถ้าไม่ได้ 376 เสียง ทางเดินอุ๊งอิ๊งจะไปสู่ดวงดาวเป็นนายก รัฐมนตรีคงริบหรี่เต็มที ไม่ใช่ดูถูกดูแคลน แต่เป็นเรื่องทางการเมืองที่เป็นจริงไม่ใช่ปราศรัยหาเสียง ไม่ใช่โฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่เป็นเรื่องทางการเมืองของคนจะเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อถึงวันนั้นจะรู้เองว่าใครตัวจริงเสียงจริง ไอ้ที่ตะโกนปาวๆ มันของเล่นของหลอก ไม่เช่นนั้นจะไม่มีชื่อ ส.ตัวใหญ่โผล่ออกมา ที่เรียกร้องแลนด์สไลด์ ให้ 250 ส.ส.ปะทะ 250 ส.ว.ระวัง 250 ส.ว.จะแลนด์สไลด์ตีกลับ”

“ท็อป” ประกาศกร้าว ชทพ.ไม่มีเล็กลง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาได้แสดงพลังให้ทั่วประเทศเห็นแล้วว่า ถึงแม้ว่าเราจะเป็นพรรคเล็ก แต่เราก้าวเดินด้วยความมั่นคง ฐานที่มั่นของเรา เราก็ไม่ประมาทในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้งที่จะถึงนี้ จะมีการแข่งขันใน จ.สุพรรณบุรี พวกเราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้โอกาสในการรับใช้พี่น้องชาวสุพรรณบุรีเหมือนตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมา และที่สำคัญยังมีอีกหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ ในการที่จะเสนอตัวรับใช้พี่น้องคนไทยทั้ง 76 จังหวัด เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมาถือเป็นจุดเริ่มต้นในการหาเสียงในการเปิดตัวเวทีปราศรัยและยังมีสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาอีกมากที่ยังไม่ได้มาร่วมกัน เนื่องจากติดงานในพื้นที่ แต่ให้คำมั่นได้ว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีเล็กลงแน่นอน

ไม่ประมาททุกเขตตามเตี่ยสอนไว้

นายวราวุธกล่าวว่า หากถามว่าในพื้นที่ 5เขตของ จ.สุพรรณบุรี ยังกังวลทุกเขต เพราะเราไม่ประมาท การคิดว่าไม่มีปัญหาคือหนทางแห่งความพ่ายแพ้นี่คือสิ่งที่นายบรรหาร ศิลปอาชา บิดา ย้ำมาตลอด แม้แต่วาระสุดท้ายของนายบรรหารยังกลัวสอบตกอยู่ดังนั้นทั้ง 5 เขต จ.สุพรรณบุรี เราไม่ประมาทแต่จะทำงานกันเต็มที่และรักษาฐานคะแนนเสียง จะลงพื้นที่เข้าหาชาวบ้านทุกเขต ไม่มีเขตใดสบาย ไม่มีเขตใดลำบากไปกว่ากัน ที่สำคัญที่สุดว่าที่ผู้สมัครของ ชทพ.ทั้ง 5 เขต ทุกคนปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ด้วย มีนายประภัตร โพธสุธน เป็น รมช.เกษตรฯ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนทำงานกันเต็มที่ ไม่ว่าภัยแล้ง น้ำท่วม เราทำงานตลอด 24 ชั่วโมงแก้ไขปัญหา บางครั้งอาจล่าช้าไม่ทันใจต้องกราบขออภัย แต่รับประกันได้ว่าทุกคะแนนเสียงที่เลือกใน จ.สุพรรณบุรีไม่เสียหาย ไม่ตกน้ำ ไม่หายไปไหนแน่นอน

ปชป.เปิดตัว 58 ชิง ส.ส. 14 จ.ภาคใต้

เมื่อเวลา 14.00 น.ที่โรงแรมทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำ ส.ส.และสมาชิกพรรค จัดงานเปิดตัว 58 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยนายจุรินทร์กล่าวบนเวทีว่า พรรค ปชป.ถือโอกาสเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ภาคใต้ ครบทั้ง 58 เขต เป็นพรรคแรกของประเทศ แสดงถึงความพร้อมของ ปชป.ภาคใต้ว่า เราพร้อมเต็มร้อยสำหรับการที่จะเสนอตัวรับใช้พี่น้องชาวใต้ ขอประกาศตรงนี้ในฐานะหัวหน้าพรรคว่า ประชาธิปัตย์ปักษ์ใต้สู้ทุกเขตและขอถือโอกาสนี้ประกาศ ยุทธศาสตร์ใต้ คัมแบ็ก 58 คน 58 เขตเป็น ส.ส.ปัจจุบัน 18 คน อดีต ส.ส. 6 คน และอดีตรัฐมนตรีและเป็นรัฐมนตรีปัจจุบัน 4 คน ส่วนบัญชีรายชื่อคุณภาพคับแก้ว 1.นายชวน หลีกภัย 2.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน 3. จุรินทร์ ล้วนผ่านสถานภาพหัวหน้าพรรค ปชป.มาแล้วทุกคน มีคนถามว่าทุกพรรคมุ่งมาแข่งในปักษ์ใต้ ปชป.กลัวไหม ตอบเลยว่าไม่กลัว ไม่หวั่นไหว ยิ่งมากยิ่งดี คนบ้านเราได้รวย ยังมั่นใจว่า ปชป.ยังอยู่ในใจคนปักษ์ใต้

“อู๊ดด้า” ขอคัมแบ็กสู้ค่ายเฉพาะกิจ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราจะใช้ 1.ความเป็นสถาบันทางการเมืองสู้พรรคเฉพาะกิจ ต่างกันที่อุดมการณ์ พรรคเฉพาะกิจทำเพื่อคนเดียว เราเน้นสร้างคน สร้างนักการเมืองคุณภาพให้สังคม แต่พรรคเฉพาะกิจตกปลาในบ่อเพื่อน พรรคสถาบัน ซื่อสัตย์สุจริต แต่พรรคเฉพาะกิจโกงบ้านโกงเมือง สุดท้ายไม่ได้สร้างชาติ แต่ทำลายชาติ 2.ปชป.อยู่มาแล้ว 76 ปี เป็นสถาบันการเมืองยืนหยัดรับใช้คนปักษ์ใต้ ยึดมั่นอุดมการณ์ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาตลอด 3.เราเอาผลงานไปสู้ 3 ปีกว่าพิสูจน์ว่าเราทำได้และทำได้ไว ทำได้จริง และ 4.ใช้นโยบายสู้ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติเพื่อคนปักษ์ใต้ทุกคนและคนไทยทุกคน ถ้าได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล ต้องเดินหน้า 1.การเกษตร ปาล์ม ยาง ผลไม้ มีประกันรายได้เป็นหลักประกัน 2.อนาคตปักษ์ใต้ ต้องเป็นท่องเที่ยวทันสมัยที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทั อีโคโนมีช่วย 3.การค้าชายแดนเป็นนโยบายสำคัญ นำการค้าชายแดนเข้าประเทศไทย และ 4.โครงสร้างพื้นฐาน จะทำให้ปักษ์ใต้รุ่งเรือง ร่ำรวย เปิดโลกให้ปักษ์ใต้เชื่อมโลกในอนาคต ขอใจพี่น้องปักษ์ใต้ช่วยกัน ช่วยพรรคของเรา คนของเราช่วยกันลงคะแนนให้ ปชป. ใครใช่ ใครไม่ใช่ ใครจริง ใครไม่จริง ขอคนใต้ช่วยให้ ปชป.ใต้เราคัมแบ็กทั้ง 58 คน 58 เขต

“ตั๊น” ติดอาวุธโซเชียลให้ว่าที่ผู้สมัคร

ต่อมาเวลา 14.30 น. น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรค ปชป. บรรยายหัวข้อ “Social Media กับการเมือง” ภายใต้หัวข้อ “ประชาธิปัตย์ยุคใหม่ โอกาสใต้บ้านเรา” ตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันโซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในอาวุธสื่อสารที่สำคัญ สถิติล่าสุดปี 2566 คนไทยเข้าถึงอินเตอร์เน็ตแล้วถึง 85.3% ใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือเป็นอันดับ 4 ของโลก คนไทยเข้าสู่โลกออนไลน์เฉลี่ยสูงถึงวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อเข้าไปหาข้อมูลถึง 57.8% และพฤติกรรมผู้บริโภครับฟังข้อมูลข่าวสาร เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คอนเทนต์วิดีโอสั้น เช่น ติ๊กต่อก (TikTok) และรีล (Reels) ได้รับความนิยมมากที่สุด จึงต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคให้สามารถปรับตัว สื่อสารทางการเมืองทั้งแนะนำตัว เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้ใกล้ชิดมากขึ้น พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายของพรรคไปสู่ประชาชนได้โดยตรงและทั่วถึงอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

“เพื่อชาติ” จับเข่าคุยภาคประชาสังคม

ที่ PC Space พรรคเพื่อชาติ ชั้น 9 อาคารวรรณสรณ์ น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เปิดพีซีสเปซ ต้อนรับองค์กรภาคประชาสังคม เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและนำเสนอปัญหา รวบรวมข้อเสนอของภาคประชาสังคมมาพัฒนาเป็นนโยบายผลักดันเข้าสู่สภา โดยองค์กรภาคประชาสังคม อาทิ สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพฯ ตัวแทนจากกลุ่ม iLaw ที่รณรงค์ด้านรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะสิทธิในรัฐธรรมนูญ ของประชาชน กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) สหภาพ คนทำงาน องค์กรทำงานประเด็นสิทธิแรงงานและ การสร้างรัฐสวัสดิการในประเทศไทย สหภาพไรเดอร์ องค์กรที่เกิดจากการรวมกลุ่มของไรเดอร์ที่ประสบปัญหา จากการเป็นแรงงานแพลตฟอร์ม เข้าร่วม โดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์กล่าวว่า จากการพูดคุยวันนี้ได้รับทราบปัญหา และข้อเสนอขององค์กรภาคประชาสังคมในด้านต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิแรงงาน ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหา กฎหมาย ปัญหารัฐธรรมนูญ และสวัสดิการด้านต่างๆ พรรคเพื่อชาติจะรวบรวมปัญหาและข้อเสนอทั้งหมด มาพัฒนาและจัดทำเป็นนโยบายของพรรคต่อไป เพราะ เราให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมและเรา เชื่อว่านโยบายที่ดีควรจะมาจากเจ้าของปัญหาที่แท้จริง

ทสท.ลุยคลองสานโปรยเครดิต ปชช.

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมนายภัชริ นิจสิริภัช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองสาน ธนบุรี ลงพื้นที่ตลาดกลาง และตลาดพลู เขตคลองสานและธนบุรี พบปะพ่อค้าแม่ขายอย่างอบอุ่น มีผู้เข้ามาขอถ่ายภาพที่ระลึกจำนวนมาก โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า แม้ประชาชน เริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่กำลังซื้อและสภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัว จึงเสนอนโยบายกองทุนคนตัวเล็ก มอบเครดิตให้ประชาชนล้างหนี้นอกระบบ ช่วยให้หลุดพ้นอุปสรรคทางการเงินเข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบให้มีชีวิตที่ดีขึ้น จะหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลายรอบ ไม่สูญเปล่าเหมือนแจกเงินประชารัฐ หรือประชานิยม อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 1 ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เริ่มต้นกู้ได้ไม่เกิน 5,000 บาท ถ้ารักษาเครดิตได้ดี จะกู้ได้ถึง 50,000 บาท ยังมีอีกหลายนโยบาย เช่น บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท นโยบายเรียนฟรี จนจบปริญญาตรี เรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ

ปฏิเสธข่าวยุบรวมกับ รทสช.

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทย จะเดินหน้าทำงานสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยดีกว่านี้ ไม่มีทางที่จะยุบไปรวมกับพรรคใด โดยเฉพาะพรรคที่เป็นเผด็จการ ขอปฏิเสธกระแสข่าวที่จะยุบรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันไม่เป็นความจริง ต้องไปถามคนปล่อยข่าวว่ามีจุดประสงค์อย่างไร พรรค ทสท.แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่ขอเดินหน้าเต็มที่ จะไม่ใช้เงินเพื่อซื้อประชาชน แต่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ที่ถูกเอารัด เอาเปรียบ รวมถึงการทุจริตเชิงนโยบายที่เอื้อให้ทุนใหญ่ ไม่ว่า ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ที่คนไทยถูกปล้นอยู่ทุกวันนี้ ค่าไฟฟ้าต้องไม่เกิน 3.5 บาทต่อหน่วย และยืนยันยังไม่คิดจะจับมือใครต่อรองผลประโยชน์หรือโควตาในกระทรวงต่างๆ ขอเดินหน้าตามอุดมการณ์ สร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อส่งมอบประเทศไทยที่ดีที่สุดให้กับลูกหลาน จึงไม่สนใจว่าต้องไปจับมือกับใคร แต่ใคร ที่เห็นด้วยว่าต้องหยุดการเมือง 2 ขั้ว เพราะเลือกฝั่งหนึ่ง ก็ติดหล่ม เลือกอีกฝั่งติดล็อก ประเทศคอร์รัปชันเกิดการทุจริตมโหฬารจนเดินหน้าต่อไม่ได้ ขอให้มา ร่วมกับพรรค ทสท.เป็นทางออกทางรอดของประเทศ

“ชลน่าน” ปักธงยึดชัยภูมิยกจังหวัด

โรงแรมสยามริเวอร์รีสอร์ท อ.เมืองชัยภูมิ นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นำแกนนำ พรรค พท.ลงพื้นที่พบปะประชาชน เปิดโครงการผู้นำ ฝ่ายค้านในสภาฯ พบปะประชาชน ประจำปีงบปีฯ 2566 หัวข้อ “ระดมสมอง หาทางออก แก้หนี้แก้จน เพื่อชีวิตใหม่” เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่เขต อ.เมืองชัยภูมิ หลังจากนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิทั้ง 7 เขต ขึ้นเวทีปราศรัยส่งสัญญาณสะท้อนไปถึงพรรค พปชร.ว่า ได้ดูดนายเชิงชาย ชาลีรินทร์ ส.ส.ชัยภูมิเขต 2 อ.จัตุรัส พรรค พปชร.ย้ายมาอยู่กับพรรค พท.เรียบร้อย วางตัว ดังนี้ เขต 1 นพ.โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย เขต 2 นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ เขต 3 นายอนันต์ ลิมปคุปตถาวร เขต 4 นายมานะ โลหะวณิชย์ เขต 5 นายธนกฤต จรรย์โกมล ลูกชายคนโตของนายเจริญ จรรย์โกมล อดีตรองประธานสภา เขต 6 นางพรเพ็ญ บุญศิริวัฒนกุล เขต 7 นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ อดีต รมช.สาธารณสุข

นพ.ชลน่านเปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ 2 วัน 2 คืน ทั้งการขึ้นเวทีปราศรัยพบชาวบ้าน อ.จัตุรัส อ.บ้านเขว้า และเปิดเวทีระดมสมองหาทางออกแก้หนี้ แก้จน เพื่อชีวิตใหม่ของชาวบ้าน ได้รับการตอบรับอย่างดีอบอุ่น จะนำความเดือดร้อนของประชาชน หนังสือร้องเรียนข้อเดือดร้อนไปเสนอต่อสภาฯ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ 7 เขตได้ผู้สมัครแล้ว 6 เขต เหลือ 1 เขต กำลังพิจารณา มั่นใจ จ.ชัยภูมิ จะได้ ส.ส.ยกทีมทั้งจังหวัด 7 คน

ก.ก.บุกบึงกาฬ–หนองคายรบนายทุน

ที่ จ.บึงกาฬ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำคณะลงพื้นที่ภาคอีสานตอนบน จัดเวทีพบประชาชนรับฟังปัญหาที่ดินรัฐรุกล้ำทับซ้อน ที่ทำกินประชาชน และปัญหาจากกรรมสิทธิ์ ส.ป.ก. ช่วงเช้าเปิดเวทีพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบกรณีป่าสงวนดงสีชมพู ประกาศทับที่ทำกินประชาชนที่ตั้งรกรากมากว่า 60 ปี ก่อนประกาศพื้นที่ป่าสงวน บ้านเหล่าทองหลาง ต.เหล่าทอง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ช่วงบ่ายนายพิธานำคณะเดินตลาด อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย พื้นที่ปัญหาจัดการที่ดิน ส.ป.ก.ครอบคลุมเป็นวงกว้าง เข้าพูดคุยกับชาวบ้านที่ถูกสั่งรื้อถอนออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน จากนั้นที่วัดเฝ้าไร่วนาราม นายพิธาขึ้นเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พร้อมปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า ปัญหาที่ดินในประเทศไทย สะท้อนผ่านการถือครอง ที่ดินของรัฐ ที่ถือครองอยู่กว่า 62% ของทั้งประเทศ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาล ประชาชนทั่วประเทศจะได้ที่ดิน เพิ่ม 10 ล้านไร่ สิ่งแรกที่จะทำคือเอา ส.ป.ก.ออกจาก มือนายทุนมาคืนให้ประชาชน ผ่านกลไกธนาคารที่ดิน ที่รัฐบาล ก.ก.จะจัดตั้งขึ้นเป็นกลไกกระจายที่ดินสู่มือ ประชาชน เป็นกลไกเปลี่ยน ส.ป.ก.ให้เป็นโฉนดอย่างเป็น ธรรม เปลี่ยนจากสิทธิเข้าใช้ประโยชน์ให้เป็นกรรมสิทธิ์

ก.ก.นำลิ่วเงินอุดหนุนพรรค 47 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งการโอนเงินจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรค การเมือง ประจำปี 2566 รวม 64 พรรค และได้โอนเงิน เรียบร้อยแล้ว พรรคที่ได้รับสูงสุดคือพรรคก้าวไกล 47,454,254 บาท พรรคประชาธิปัตย์ 10,202,779 บาท พรรคเพื่อไทย 6,158,203 บาท พรรคกล้า 6,028,087 บาท พรรคภูมิใจไทย 3,813,531 บาท พรรคพลังประชารัฐ 3,415,012 บาท พรรคไทยภักดี 2,763,126 บาท พรรคเสรีรวมไทย 2,480,332 บาท พรรคไทยธรรม 1,875,028 บาท พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1,801,388 บาท พรรคไทยสร้างไทย 1,415,068 บาท พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1,260,699 บาท พรรค ทางเลือกใหม่ 1,086,211 บาท ตามลำดับ ส่วนที่เหลือ ได้รับไม่ถึง 1 ล้านบาท