รัฐบาล พร้อมดันส่งออกทุเรียนปี 66 ตรวจเข้มคุณภาพต้องได้มาตรฐาน สยบปัญหาทุเรียนอ่อน จัดตั้งจุดบริการตรวจเปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักแห้งในเนื้อ ในพื้นที่ 5 จังหวัด
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดผลไม้ในประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงการส่งออกผลไม้ไทยไปต่างประเทศยังสร้างรายได้ให้กับประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะทุเรียนถือได้ว่าเป็นราชาผลไม้ไทย มีมูลค่าส่งออกแสนกว่าล้านบาทต่อปี ซึ่งผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนสิงหาคม 2566 โดยจะออกสู่ตลาดกระจุกตัวมากที่สุดในเดือนเมษายน ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ขึ้นทะเบียน “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตัวใหม่ของจังหวัดยะลา ปัจจุบันทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลามีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 190 บาท สร้างรายได้ให้คนยะลามากถึง 2,800 ล้านบาทต่อปี
มากไปกว่านั้น ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์แก้ไขปัญหาผลไม้ทุเรียนอย่างเป็นระบบตั้งแต่ช่วงการดูแลผลผลิต จนไปถึงการตัดทุเรียนขาย ที่ผ่านมามักประสบปัญหาการลักลอบขายทุเรียนอ่อน ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้จัดระบบการทำงานเชิงรุก ผ่านคณะทำงานแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพและการสวมสิทธิ์ใช้ใบรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ของเกษตรกรเพื่อการส่งออกทุเรียนของประเทศไทย โดยคณะทำงานได้จัดทำแผนพร้อมรับมือการแข่งการส่งออกทุเรียนของประเทศเพื่อนบ้าน

...
นางสาวรัชดา กล่าวต่อไปว่า นายเฉลิมชัย ยังมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่สวนทุเรียน จัดตั้งจุดบริการตรวจเปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน ในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 68 จุด ได้แก่ จันทบุรี (40 จุด), ตราด (7 จุด), ระยอง (6 จุด), ชุมพร (10 จุด), นครศรีธรรมราช (5 จุด) โดยได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจากกรมประมงและกรมปศุสัตว์ รวม 100 ท่าน ลงพื้นที่ตรวจรายแปลง และกรมวิชาการเกษตรมีหน้าที่ตรวจสอบ โรงคัดบรรจุ (ล้ง) ทุเรียนที่นำมาส่งที่ล้งจะต้องมีใบรับรองผลการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน ซึ่งทุเรียนไทยมีคุณภาพดีกว่าต่างประเทศมาก ขออย่างเดียวอย่าตัดทุเรียนอ่อน โดยกรมฯ ได้กำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียน ดังนี้ ทุเรียนพันธุ์กระดุมและพวงมณี เก็บเกี่ยววันที่ 10 มีนาคม, พันธุ์ชะนี เก็บเกี่ยววันที่ 20 มีนาคม และทุเรียนพันธุ์หมอนทอง เก็บเกี่ยววันที่ 15 เมษายน 2566
“ขอความร่วมมือเกษตรกร ถ้าเก็บเกี่ยวก่อนวันประกาศฯ ให้นำตัวอย่างผลทุเรียนลูกที่อ่อนที่สุดในรุ่นที่จะทำการเก็บเกี่ยวมาให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เช่น แปลงใหญ่ ฯลฯ ตรวจวัดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งเพื่อออกใบรับรองความแก่ เพื่อแนบไปกับรถขนส่งทุเรียนไปจำหน่าย ณ ที่ล้ง/โรงคัดบรรจุ โดยพันธุ์กระดุมเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งไม่น้อยกว่า 27 เปอร์เซ็นต์ พันธุ์ชะนีไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ พันธุ์พวงมณีไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และพันธุ์หมอนทองไม่น้อยกว่า 32 เปอร์เซ็นต์” นางสาวรัชดา ย้ำ.
