ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบ ร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 5 คุ้มครองสิทธิ 11 กลุ่ม ครอบคลุมกลุ่มหลากหลายทางเพศ เร่งแก้ปัญหาท้าทาย ทั้งที่ดิน ฝุ่นพิษ หนี้ภาคครัวเรือน และธุรกิจเอสเอ็มอีจากสถานการณ์โควิด

วันที่ 7 ก.พ. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566-2570) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีสาระสำคัญให้หน่วยงานภาครัฐ (ระดับกรมหรือเทียบเท่า) บรรจุวิชาสิทธิมนุษยชน ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง ในหลักสูตรฝึกอบรมข้าราชการทุกระดับตามขอบเขตและเนื้อหาหลักการสิทธิมนุษยชนพื้นฐานที่กระทรวงยุติธรรมกำหนด โดย (ร่าง) แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 5 จำแนกออกเป็นแผนสิทธิมนุษยชนรายด้าน 5 ด้าน คือ ด้านการเมืองการปกครอง ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ และยังครอบคลุมถึงการคุ้มครองสิทธิรายกลุ่ม

โดยแบ่งออกเป็น 11 กลุ่ม อาทิ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน กลุ่มผู้เสียหายและเหยื่อในกระบวนการยุติธรรม กลุ่มเด็กและสตรี กลุ่มนักปกป้องสิทธิมนุษยชน กลุ่มความหลากหลายทางเพศ กลุ่มบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มผู้ป่วยเอดส์ ผู้ที่อยู่ร่วมกับ HIV และผู้ป่วยจิตเวช สำหรับการติดตามและประเมินผล ได้กำหนดให้หน่วยงานรับผิดชอบ ตามแผนฯ รายงานผลการดำเนินงาน ปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. ของทุกปี และให้ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและมีความเป็นกลางทำการประเมินผลการดำเนินการ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะเชิงกระบวนการ หรือกลไกเพื่อขจัดปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้แผนไม่บรรลุเป้าหมาย และเสนอ ครม. เพื่อทราบต่อไป.