นายกฯ นำคณะ อวยพรท็อปนิวส์ครบ 2 ปี “สนธิญาณ” ก้มกราบลงตักกลางสตูดิโอ ก่อนไปทักทายผู้ประกาศ ชมเปาะมีเวลาก็เปิดดู เป็นสื่อคุณภาพ ชวนคนทางบ้านติดตาม บอกเป็นช่องที่เสนอข่าวจากข้อเท็จจริง ด้าน อนุทิน-เอนก โผล่ร่วมอวยพรด้วย

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่ อาคารสถานีโทรทัศน์ TOP NEWS เพื่อร่วมงานครบรอบ 2 ปี “TOP NEWS VISION 2023 : เดินหน้าประเทศไทยด้วยข่าว และความจริง” โดยมี นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิตัล มีเดีย จำกัด ให้การต้อนรับ

โดยนายกฯ ได้เขียนคำอวยพรว่า “ชื่นชมยินดีในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 3 ขอให้ประสบความสำเร็จ เป็นสื่อที่มีคุณภาพ เสนอข่าวเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป ขอให้บุคลากรทุกคนมีความสุข”

...



จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมห้องสตูดิโอ พร้อมนั่งเก้าอี้ผู้ประกาศข่าว ซึ่งนายสนธิญาณ ได้ก้มลงไปกราบที่ตักนายกฯ ก่อนไปทักทาย นายกนก รัตน์วงศ์สกุล และ นายธีระ ธัญไพบูลย์ ที่กำลังดำเนินรายการเช้าข่าวเข้ม เพื่อร่วมพูดคุยและทักทายอย่างเป็นกันเอง

โดยกล่าวว่า ตนเองก็ติดตาม มีเวลาก็เปิดดู เป็นสื่อที่มีมีคุณภาพ ที่สำคัญที่สุดคือต้องให้ประชาชนเรียนรู้มากๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นความรู้ สร้างหลักคิดของเขา เพราะทุกวันนี้เราขาดตรงนี้เยอะ ฝากตรงนี้ไว้ด้วยแล้วกัน เพื่อให้ประชาชนได้มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีกรอบแนวคิดที่ถูกต้อง แต่ผมไม่ได้หมายความว่าไปจำกัดกรอบความคิด ไม่ใช่ ต้องคิดว่าอะไรมันดี อะไรไม่ดี อะไรถูก อะไรผิด ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาทั้งหมด ประเทศก็จะเป็นอยู่แบบนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้มีโอกาสทำหลายๆ อย่าง วันนี้เรามีผลงาน และเราก็จะสานต่อผลงานของเราไปข้างหน้า ตนคิดไว้ตลอดเวลาทุกวัน ไม่ใช่เฉพาะเวลาเลือกตั้ง ตนคิดทุกวันว่าวันนี้จะทำอะไร และอะไรจะทำให้สำเร็จ อะไรที่ยังไม่สำเร็จจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อเดินหน้าประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน เพื่อความสุขของคนไทยทุกคน นี่คือความตั้งใจของผม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับผู้ชมทางบ้านที่กำลังชมรายการอยู่ด้วยว่า สวัสดีผู้ชมที่รับชมรับฟังอยู่ทางบ้าน วันนี้ก็รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่ ก็ฝากความรักความระลึกถึง ความปรารถนาดีไปยังประชาชนทุกคน ตนทราบดีว่าหลายคนมีปัญหาทั้งสิ้น แต่จะทำอย่างไรให้ปัญหาเหล่านี้หมดสิ้นไป เราจะร่วมมือกันอย่างไรในการที่จะทำให้ทั้งประเทศชาติและตัวเราเองรวมถึงครอบครัวได้มีควาสมสุขอย่างที่ทุกคนคาดหวัง ตนพยายามสร้างโอกาสที่เท่าเทียม เพื่อพัฒนาตนเองไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ ที่หมักหมมมายาวนาน ซึ่งเราเป็นประเทศที่มีศักยภาพ แต่ช่วงนี้อยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยน จึงอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง พวกเราทางบ้านคงเข้าใจว่าผมมีเจตนารมณ์อย่างไร ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมพยายามทำอย่างเต็มที่ ฉะนั้นอย่าให้อะไรมาทำลายโอกาสที่เรามีกลายเป็นวิกฤติ

“วันนี้อยากจะบอกว่าผมรักทุกคน รักมากกว่ารักตัวเองอีก เพราะนี่คือภาระยิ่งใหญ่ที่ผมต้องรับผิดชอบ เพื่อประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันที่รักยิ่งของพวกเรา”

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขอบคุณท็อปนิวส์อีกครั้ง ที่ให้ผมมาพูดวันนี้ ความจริงผมพูดไม่เก่ง แต่อาจจะพูดเยอะหน่อย พูดจากใจ ผมบอกแล้วผมมีหัวใจดวงเดียว แต่หัวใจของผมต้องยิ่งใหญ่พอที่จะ รักคนทั้ง 70 ล้านคนให้ได้ และทำเพื่อคน 70 ล้านคนให้ได้ เพื่อประเทศไทยในวันนี้และอนาคต

นอกจากนี้ ในช่วงหนึ่ง พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า “สวัสดีอีกครั้ง ประชาชนที่รับชมอยู่ทางบ้าน ก็ขอให้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง จากท็อปนิวส์ ซึ่งเป็นช่องที่เสนอข่าวมาจากข้อเท็จจริง เท่าที่ผมประเมินเอานะ วิเคราะห์อย่างมีหลักมีเกณฑ์ ไม่ใช่เพื่อความขัดแย้ง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร นั้นคือสิ่งสำคัญ ไม่ได้ทำเพื่อใคร ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งก็ตรงกับเจตนารมณ์ของผม และแนวทางปฏิบัติของตนในวันข้างหน้า ครบรอบ 2 ปี ก้าวสู่ที่ 3 เหมือนเด็กที่กำลังตั้งไข่ อย่าล้ม ต้องก้าวไปข้างหน้า”


ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า นอกจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมคณะ เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วย.