“อนุทิน” ลั่น “บุญจง” คัมแบ็กภูมิใจไทยพร้อมลงชิงเก้าอี้ ส.ส.โคราช ชี้ไม่เห็นต้องคิดอะไร ประชาชนเลือกภูมิใจไทยเข้าสภามามาก ต้องพร้อมเป็นนายกฯ ตามกติกา

วันที่ 30 ม.ค. 2566 เวลา 10.20 น. ที่ทําเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กลับมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยว่า นายบุญจง จะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นครราชสีมา แทนนายอภิชา เลิศพชรกมล อดีตส.ส.เขต 9 นครราชสีมาที่ลาออกไป โดยนายบุญจง ถือเป็นผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทยมาตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว เคยเป็นรมช.มหาดไทย สมัยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคคนเก่า เป็นรมว.มหาดไทย และในพื้นที่จ.นครราชสีมา ตนเป็นหัวหน้าทีมเองร่วมกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะช่วยกันดูแล เนื่องจากนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หัวหน้าทีมคนเดิมแจ้งว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ และลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี ในโควตาของพรรคภูมิใจไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคภูมิใจไทย พร้อมรับมือกับคู่แข่งในพื้นที่ดังกล่าว หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปมองว่าใครเขาจะส่งหรือไม่ส่งลงสมัคร เพราะในทางการเมืองยังไม่เคยเจอเขตพื้นที่เลือกตั้งไหนที่ไม่มีคู่แข่ง หากคนนี้ไม่ลงแข่งก็ต้องลงแข่งกับคนนั้น เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่สำคัญคือทำอย่างไรให้คนของเราแข็งแรงมากที่สุด และลงไปใกล้ชิดทำความเข้าใจกับชาวบ้าน แม้แต่ตนยังเดินทางตลอดเวลา หมดเวลาราชการวันศุกร์ วันเสาร์ อาทิตย์ ก็ต้องอยู่ต่างจังหวัด เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาเต็มทน

เมื่อถามว่ากฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว พรรคภูมิใจไทยจะมีการปรับแผนอะไรในการหาเสียง หรือทำงานการเมืองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งมีแผน มีกำหนดการ มีวิธีการนําเสนอนโยบาย มีการประชุมวางกลยุทธ์ทุกอย่างตลอดเวลา และช่วงนี้พรรคได้นำเสนอทีมงานใน กทม.ที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับชาวกทม. สมัยก่อนเราเอาผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครมาสมัคร ส.ส. แต่ในครั้งนี้ทีมงานที่พรรคนําเสนอ เป็นอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี ที่ทำงานได้ต่อเนื่อง เป็นบุคคลที่ลาออกแล้วย้ายมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยแสดงว่าเขามีความมั่นใจในพรรคและนโยบาย จึงลาออกจากส.ส.มาอยู่กับเรา เป็นมาตราวัดให้เห็นว่านโยบายของพรรค ที่ทำให้คนระดับส.ส.เชื่อมั่นและตัดสินใจมาร่วมงานด้วย

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 400 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อครบ 100 คน ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ปัจจุบันยังเป็นเช่นนั้น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต้องส่งให้ครบอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ถึง 50-60 เสียง และพยายามส่งผู้สมัคร ส.ส.เขต ให้ครบทุกเขต เพราะทุกเขตสามารถกาให้พรรคได้ แต่ถ้าไม่มีผู้สมัคร ก็จะไม่มีประชาชนรู้จักพรรค

เมื่อถามถึงความชัดเจนว่าพรรคภูมิใจไทยจะเสนอให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทนรัฐมนตรีของพรรคที่ลาออกไป หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คงไม่มีแล้ว เพราะกฎหมายลูก 2 ฉบับ ได้โปรดเกล้าฯ ลงมาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ได้แค่รอวันและเวลา ว่านายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจยุบสภาเมื่อไหร่ดี หรือจะอยู่ไปจนครบวาระ แต่สำหรับพรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหา เพราะเตรียมการทั้งหมดไว้แล้ว จึงเป็นเหตุให้ส.ส.ลาออกจากพรรคเดิม และมาร่วมงานกับเรา หากกรณีไม่มีการยุบสภา ทุกคนยังเป็นสมาชิกเกิน 90 วัน ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการลงสมัครรับเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามวว่า ถ้าดูจากกระแสแล้วสามารถสู้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 2 ป. ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สู้กับตัวเองนี่แหละ พรรคภูมิใจไทยทำให้ชาวบ้านเชื่อมั่นว่าทำงานให้ประชาชนเต็มที่ ถึงพริกถึงขิง จะนําปัญหา ไปสู่การแก้ไขและปฏิบัติ วันนี้คิดแข่งกับตัวเอง ถ้าใครเลือกพรรคภูมิใจไทยและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เข้ามามาก หัวหน้าพรรค ก็ต้องพร้อมเป็นนายกฯ ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ไม่มีอะไรต้องคิดมาก และขอให้กำลังใจทุกพรรคทุกฝ่าย ต่างคนต่างทําหน้าของตัวเอง ถ้าสังเกตพรรคภูมิใจไทยพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และน่าจะเป็นพรรคเดียวที่เมื่อขึ้นเวทีก็ไม่พูดถึงพรรคอื่น พูดแต่เรื่องนโยบายและปัญหาของประชาชนว่าจะแก้อย่างไร.