“ไผ่ ดาวดิน” นำกลุ่มทะลุฟ้าและมวลชน เดินขบวนไปหน้าศาลยุติธรรม สนับสนุนทีมทนายความเข้ายื่นขอประกันตัว แนวร่วมม็อบราษฎร 12 คน ที่ถูกคุมขัง กลับไปปักหลักหน้าหอศิลป์ รอฟังผลพิจารณาบ่ายนี้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ม.ค. 2566 กลุ่มทะลุฟ้า นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นำมวลชนยืนหยุดขังปล่อยนักโทษการเมือง ที่ปักหลักอยู่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มาตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2566 เดินทางมารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมเดินขบวนเชิงสัญลักษณ์ “ยื่น หยุด ขัง” เพื่อสนับสนุนการยื่นหนังสือขอประกันตัวกลุ่มราษฎรที่ยังอยู่ในเรือนจำ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมออกเดินเท้าจากบริเวณเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน มุ่งหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อมกับชูป้ายสัญลักษณ์การชุมนุมต่างๆ อาทิ ดอกทานตะวัน ข้อความคัดค้าน มาตรา 112 ตลอดจนภาพผู้ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ และตะโกนข้อเรียกร้องปล่อยนักโทษการเมือง คืนสิทธิ์ประกันตัวยกเลิก 112 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน กระจายกำลังเฝ้าระวังเหตุ
ต่อมา กลุ่มทะลุฟ้ารวมตัวกันที่บริเวณหน้าป้ายสำนักงานศาลยุติธรรม ริมถนนรัชดาภิเษก โดยมีทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดย นายกิตติศักดิ์ กองทอง เดินทางมาชี้แจงว่า วันนี้จะมีการยื่นเอกสารต่อศาลเพื่อขอประกันตัวนักโทษการเมืองจำนวน 12 คนเท่านั้น เนื่องจากอีก 4 คน คือ นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท, น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ, น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม ไม่ประสงค์ที่จะยื่นขอประกันตัว สำหรับผลการพิจารณาของศาล จะต้องรอต่อจากนี้ว่าจะให้ประกันตัวตามที่ยื่นขอหรือไม่ จากนั้นทีมทนายความเข้ายื่นหนังสือขอประกันตัวกับศาลโดยมีมวลชนปักหลักรออยู่ด้านหน้า
...
ทางด้าน นายจตุภัทร์ อ่านแถลงการณ์กลุ่มใจความสรุปว่า เป็นเวลากว่า 10 วันแล้วที่ตะวันและแบม ผู้ต้องหาในคดีความผิดตามมาตรา 112 อดอาหารและน้ำจนร่างกายเข้าขั้นวิกฤติและต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อีกทั้งยังมี นายสิทธิโชค เศรษฐเศวต ผู้ต้องขังในคดีตามมาตรา 112 ที่กำลังเริ่มต้นการอดอาหารและอดน้ำด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในข้อเรียกร้องที่ทำให้ทั้ง 3 คน ตัดสินใจอดข้าวอดน้ำ คือ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และการคืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีการเมืองหรือคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้เสรีภาพในการแสดงออกหรือการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เนื่องจากมีผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีทางการเมืองที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำโดยไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวทั้งก่อนและระหว่างพิจารณาในชั้นศาลไม่น้อยกว่า 16 คน
ทั้งนี้ ประชาชนผู้ทำกิจกรรม ยื่น หยุด ขัง เห็นว่าสิทธิในการประกันตัวหรือสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้รับรองไว้ จึงขอเรียกร้องไปยังผู้พิพากษาเจ้าของคดี อธิบดีศาลอาญา และผู้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ขอให้ศาลพิจารณาปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีการเมืองทุกคดีตามหลักกฎหมาย
2. ขอให้ศาลพิจารณายกเลิกกำหนดเงื่อนไขการประกันตัว เช่น การใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อติดตามตัว การห้ามออกนอกเคหสถาน ในลักษณะที่เงื่อนไขกลายเป็นข้อจำกัดในการทำกิจกรรมและการใช้ชีวิต จนขัดต่อหลักความจำเป็นและได้สัดส่วน
“พวกเราประชาชนผู้ทำกิจกรรม ยื่น หยุด ขัง ขอเรียนต่อศาลว่า การทำกิจกรรมในครั้งนี้มิได้เป็นการกดดันการปฏิบัติหน้าที่ของศาล หรือกระทำการอันเป็นแทรกแซงการพิจารณาคดีที่ต้องเป็นอิสระและเป็นธรรมของศาล แต่เป็นการหาทางออกให้กับประเทศท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ขัดแย้งและตึงเครียด ด้วยมีความเชื่อมั่นว่าสถาบันตุลาการจะเป็นเสาหลัก นำพาความยุติธรรม ทำให้ความขัดแย้งเบาบางลง”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังทีมทนายความเข้ายื่นเอกสารขอประกันตัวผู้ถูกคุมขังในคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองรวม 12 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ออกมาแจ้งให้กลับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะทราบผลการพิจารณาของศาลในช่วงบ่ายวันนี้ นายจตุภัทร์ จึงนำมวลชนทั้งหมดเดินทางกลับไปปักหลักรอฟังผลการพิจารณาที่บริเวณลานหน้าหอศิลปะและวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครต่อไป.