“พิจารณ์” ส.ส.ก้าวไกล ทวงถามกองทัพเรือ ครบ 1 เดือน โศกนาฏกรรมเรือหลวงสุโขทัยอับปาง จี้ ส่งเอกสารให้ กมธ.ทหาร เผย 19 ม.ค.นี้ เชิญ ทร. หารือที่สภา หากยังชี้แจงไม่ชัดเจนเจอตามต่อในอภิปราย ม.152
วันที่ 17 มกราคม 2566 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการทหาร แสดงความเห็นกรณีเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ว่า ขณะนี้ครบรอบ 1 เดือนของโศกนาฏกรรม หลังจากคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ประชุมเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 และขอเอกสารสำคัญจากกองทัพเรือทั้งหมด 8 รายการ แต่ผ่านมา 25 วัน กองทัพเรือส่งให้เพียง 2 รายการ ยังไม่มีเอกสารเพิ่มเติมมาถึง กมธ. ตามที่ขอไป
นายพิจารณ์ ระบุต่อไปว่า สิ่งที่เราต้องการมากคือประวัติการซ่อมเรือหลวงสุโขทัย ตั้งแต่ปี 2540 ถึงปัจจุบัน เพื่อให้ทราบข้อมูลการซ่อมบำรุงตามวงรอบว่าได้ทำตามมาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าว รวมถึงข้อสังเกตที่สาธารณะตั้งคำถามเกี่ยวกับสภาพความพร้อมใช้งานของเรือ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมบำรุงครีบกันโคลง (Fin Stabilizer) ที่มีข้อมูลว่าถูกถอดออกไปแล้ว การซ่อมแซมตัวเรือบริเวณใต้ผิวน้ำที่สึกหรอและบางลงเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ รวมถึงการซ่อมเปลี่ยนแบริ่งรองรับเพลาจักร นอกจากนั้นยังมีรายชื่อของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งกองทัพเรือยังไม่เปิดเผยชื่อ โดยในวันที่ 19 มกราคมนี้ ทาง กมธ.การทหาร ได้เชิญกองทัพเรือมาหารือที่รัฐสภาเพื่อติดตามความคืบหน้าและทวงถามเอกสาร
“ต้องย้ำอีกครั้งว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทั้งทรัพย์สินของรัฐ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสียชีวิตกำลังพล เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราจำเป็นต้องถอดบทเรียนและหาสาเหตุที่ชัดเจนว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดจากอะไร”
...
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลและตนเองจะติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง แต่หากยังไม่มีความชัดเจนก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เรื่องนี้จะอยู่ในประเด็นการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เพราะยังมีข้อมูลอีกหลายอย่างที่สังคมตั้งคำถามและต้องการคำตอบ การอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการทำงานครั้งสุดท้ายของพรรคก้าวไกลในฐานะฝ่ายค้านในรัฐสภาชุดนี้ ซึ่งพรรคได้เตรียมข้อมูลเพื่ออภิปรายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไว้อย่างเต็มที่ แม้เป็นการอภิปรายทั่วไปที่ไม่มีการลงมติ แต่เชื่อว่าจะช่วยสะท้อนการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล สะท้อนความไม่โปร่งใสของกองทัพได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากการอภิปรายครั้งนี้จะนำไปสู่การพิพากษา พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ ผ่านการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน.