แกนนำ-อดีตแกนนำ นปช.ขึ้นศาลฟังคำพิพากษาหลังอัยการยื่นอุทธรณ์ คดีก่อการร้าย "จตุพร" ย้ำ เมื่อเลือกทางนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับ ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร บอก ผ่านมา 14 ปี คดียาวเป็นหาง บอก อีกไม่กี่วัน จะถูกยึดบ้าน  

ที่ศาลอาญา วันที่ 9 ม.ค. ศาลนัดฟังคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์คดีดำ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 75 ปี อดีตประธาน นปช. นายจตุพร หรือ ตู่ พรหมพันธุ์ อายุ 58 ปี ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ หรือเต้น ใสยเกื้อ อายุ 48 ปี อดีตเลขาธิการ นปช. ในฐานะ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 72 ปี นายก่อแก้ว พิกุลทอง อายุ 58 ปี นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อายุ 65 ปี นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง อายุ 59 ปี แกนนำ นปช. กับพวกรวม 24 คน เป็นจำเลยที่ 1-24 รวม 6 ข้อหาในความผิดฐานร่วมกันในคดีก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1, 135/2 ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ให้ล่วง ละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 116, 215, 216 และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวม 6 ข้อหา คดีนี้ศาลชั้นต้นยกฟ้อง วันนี้แกนนำส่วนใหญ่มาครบ

...

นายจตุพร กล่าวถึงการเดินทางมาฟังคดีในวันนี้ ซึ่งเป็นคดีก่อการร้ายในเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 ได้มาฟังการอ่านคำตัดสินในชั้นอุทธรณ์ ในคำพิพากษาศาลชั้นต้นศาลได้พิพากษายกฟ้อง แต่อัยการก็มีการยื่นอุทธรณ์ และศาลก็ได้นัดอ่านในวันนี้ จากสาระตามคำฟ้องและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นประเด็นคดีก่อการร้ายคดีเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อไม่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายข้อกฎหมาย ศาลก็พิพากษายกฟ้องไป

นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวก็ยังมีคดีเหลืออีกมากมายโดยเฉพาะในศาลอาญานี้ รวมคดีนี้ด้วย 4 คดี อยู่ในศาลชั้นต้นอีก 3 คดี ภายหลังจากที่คดีผ่านมาเกือบ 14 ปี ก็ถูกหยิบยกนำกลับมาฟ้อง ซึ่งตนโดนอยู่คนเดียว แต่ทั้งหมดทั้งปวงตนก็ได้พูดมาตั้งแต่ตอนต้นว่า ไม่ตายก็ติดคุก แต่เมื่อเลือกหนทางนี้แล้ว ตนไม่เคยมานั่งนับเวลาว่า เมื่อพ้นโทษแล้วจะได้กลับมาสนามการเมืองอีกครั้ง เพราะคดียาวเป็นหางว่าว ตนเจอในสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอ แม้กระทั่งคดีแพ่งเวลานี้ ก็ถูกฟ้องที่จะยึดบ้าน และอีกไม่กี่วันบ้านก็จะต้องถูกยึด เพียงแต่เราเองมีหลักการในการต่อสู้ ตนต่อสู้มาตั้งแต่ในวัยเด็ก แม้ว่าระหว่างทางจะแวะพรรคการเมืองบ้าง แต่อุดมการณ์ประชาธิปไตยของตนยังคงเหมือนเดิม บางเวลาก็ถูกใจคนบ้างไม่ถูกใจใครบ้าง และในวันนี้ก็น้อมรับในคำวินิจฉัยของศาลไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ตนออกและเข้าคุกมาแล้วกว่า 5 ครั้ง รวมถึงยังถูกตั้งข้อสงสัย ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากหลายครั้ง ซึ่งตนก็เป็นของตนแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยน หลักการเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปอย่างนั้น

จากนั้นแกนนำทยอยเดินขึ้นห้องพิจารณา รายละเอียดคำพิพากษาจะแจ้งต่อไป.