“มงคลกิตติ์” นำพรรคไทยศรีวิไลย์แถลง เตรียมรวบรวมหลักฐานยื่นแจ้งข้อกล่าวหาต่อ ปปป. ปมเปลี่ยนป้าย 33 ล้าน จากสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แนะเอามาปรับปรุงรถไฟ-สถานีดีกว่า
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 มกราคม 2566 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา กรณีโครงการจัดทำป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยแก้ไขจากชื่อเดิม สถานีกลางบางซื่อ จำนวนกว่า 33 ล้านบาทนั้น ได้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด หรือผู้ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐผู้ใด โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้ มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท หรือไม่
นายมงคลกิตติ์ ระบุต่อไปว่า จากราคา 33 ล้านบาทนี้ เทียบได้กับราคาบ้านหรูจำนวน 1 หลัง ที่สร้างในพื้นที่จำนวนหลายไร่ ถือว่ามีการใช้งบประมาณที่สูงมาก จึงได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยศรีวิไลย์ รวบรวมหลักฐานจากภาคส่วนต่างๆ เกี่ยวกับการเสนอราคา และวิธีการประมูล เพื่อยื่นแจ้งข้อกล่าวหาต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในวันที่ 10 มกราคม 2566 ต่อไป
...
พร้อมกันนี้ ฝากข้อสังเกตและขอเสนอแนะกับรัฐบาลว่า กระทรวงคมนาคมควรนำงบประมาณจำนวนดังกล่าวไปปรับปรุงขบวนรถไฟให้ทันสมัยมากขึ้น หรือนำมาปรับปรุงพื้นที่ภายในสถานีรถไฟให้สอดคล้องกับการอำนวยความสะดวกของประชาชนทั่วไป และการใช้งานของคนพิการให้มากขึ้น หรือนำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาความยากจนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน.