“อนุทิน” ยันรับนักท่องเที่ยวจีนมาตรการปึ้ก ขออย่าเทียบเคสคนจีนติดโควิดหนีที่เกาหลี เพราะ “ที่นี่ประเทศไทย” ย้ำไม่มีแถมแหลกแจกสะบัดวัคซีนฟรีคนต่างชาติ คาดตัวเลขลอตแรกเข้าไทย 4-5 หมื่นคน

วันที่ 5 มกราคม 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าวันนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านคมนาคม การท่องเที่ยว สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ภายในประเทศ จะได้รับทราบว่าจะใช้มาตรการอย่างไรในการรองรับสถานการณ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับคนไทย

ส่วนเรื่องการตรวจ ATK จะใช้วิชาการทางการแพทย์ มีคณะกรรมการวิชาการ กรมควบคุมโรคกำหนดมาตรการ ซึ่งต้องอ้างอิงตามหลักวิชาการเป็นแนวทางในการดำเนินการ ซึ่งมติที่ได้จะเป็นข้อกำหนดในการนำไปปฏิบัติ พร้อมย้ำว่าต้องปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ส่วนที่ได้มีการพูดคุยกับทางการจีนถึงเรื่องนี้หรือไม่เนื่องจากก่อนหน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาระบุว่าจะตอบโต้ประเทศที่มีการต่อต้านนักท่องเที่ยวจีน นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศจีน มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอด ทั้งความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติ เป็นมิตรประเทศ

ส่วนมาตรการการควบคุมและป้องกันที่แตกต่างไปจากเดิมมีอะไรบ้างนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะใช้มาตรการเดิมที่มีอยู่แล้วให้มากที่สุด วันนี้ประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก “ใกล้ๆ จีนก็มี ไต้หวันก็มี สิงคโปร์ก็มี เวียดนาม ยุโรป ทุกประเทศถ้าไปดูมีการติดเชื้อเหมือนกันหมด สิ่งที่มุ่งเน้นคือตัวเราเองต้องหุ้มเกราะให้เรียบร้อยก่อน”

...

นายอนุทิน ย้ำว่า คนไทยทุกคนควรฉีดวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็มเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการป่วยหนักและเสียชีวิต นอกจากนั้นควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปในที่สุ่มเสี่ยง ให้บริการนักเที่ยว หรือคนในประเทศก็ยังต้องใส่หน้ากากอนามัย ทางกระทรวงสาธารณสุขทำตามมาตรฐานที่สากลวางไว้ หรืออาจมากกว่าประเทศอื่นด้วยซ้ำ

เมื่อถามว่า มาตรการคัดกรองเชื้อโควิด-19 จะใช้ ATK กรือ RT-PCR นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มี เพราะประเทศต้นทางมีการคัดกรองอยู่แล้ว และเมื่อถึงประเทศไทยก่อนเดินทางกลับจะต้องตรวจ RT-PCR 48 ชั่วโมง ซึ่งได้เตรียมสถานที่ให้บริการที่ขึ้นทะเบียนกับสถานทูตจีนไว้แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการคัดกรองโดยธรรมชาติอยู่แล้ว “คนที่จะมาท่องเที่ยวก็ต้องมีการทำ RT-PCR ก่อน 48 ชม. เพื่อความชัวร์ต้องถามตัวเองก่อนว่าฉีดวัคซีนแล้วหรือยัง ก่อนออกจากประเทศต้นทางเขาก็ต้องฉีดวัคซีนแล้ว”

ทั้งนี้เพื่อความสะดวกควรจะต้องมีประกันสุขภาพ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาประเทศไทยก็มีประกันสุขภาพอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามตนจะถามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในที่ประชุมวันนี้ว่ามีค่าเหยียบแผ่นดินเท่าไร เพราะค่าเหยียบแผ่นดินเปรียบเหมือนเงินประกันกรณีที่นักท่องเที่ยวเจ็บป่วยโดยเฉพาะจากโควิด-19 จะได้ใช้งบประมาณส่วนนี้ ขณะที่ สปสช.ก็มีงบประมาณในการดูแลรักท่องเที่ยวในเบื้องต้น ยืนยันประเทศไทยไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้

เมื่อถามว่ามีกรณีตัวอย่างที่ประเทศเกาหลีใต้ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนติดเชื้อโควิด-19 หนีออกจากสถานที่กักตัว จะมีมาตรการป้องกันอย่างไร นายอนุทิน ตอบทันทีว่า “อย่าไปเทียบกับประเทศอื่น ที่นี่ประเทศไทย”

ส่วนจะให้ความมั่นใจกับคนไทยอย่างไรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่าอาจารย์แพทย์หลายคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบสาธารณสุขของไทย เช่น คณบดีคณะแพทย์หลายมหาวิทยาลัยก็ออกมาให้ความเห็นและโพสต์ให้ความรู้แล้ว ซึ่งตนต้องขอขอบคุณด้วย

เมื่อถามว่าจะมีมาตรการให้วัคซีนฟรีกับนักท่องเที่ยวชาวจีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่มีมาตรการให้วัคซีนฟรีกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่หากมีความประสงค์จะฉีดวัคซีนในไทยก็สามารถทำได้

“เขาอาจจะถูกจำกัดว่าไม่สามารถเลือกวัคซีนได้ เลยต้องหาวัคซีนชนิดอื่นๆ เขาก็มารับบริการทางการแพทย์ของเรา แต่ไม่ฟรีแน่นอน เราอยากให้เขามาแต่ก็มีเหตุมีผล ไม่ใช่ว่าจะแถมแหลกแจกสะบัด” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุมมาตรการตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว แต่วันนี้เป็นการมาหารือพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับทราบว่ามีมาตรการและแนวทางปฏิบัติอย่างใดบ้าง แต่ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยมีทุกกระทรวงทำงานบูรณาการร่วมกัน ทำหน้าที่เหมือนอย่างที่ ศบค.เคยทำ ซึ่งที่ผ่านมาคนไทยเคยติดเชื้อมาในระดับหนึ่งแล้ว ก็มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น ทุกอย่างเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้เราเตรียมการต้อนรับ นักท่องเที่ยวที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนจะมีการแบ่งโซนนิ่งการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนหรือไม่ นายอนุทินยืนยันว่าไม่มีสามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ ไม่มีการแบ่งแยก เพราะทุกคนก็เดินทางมาจากประเทศที่มีการติดเชื้อ แต่ต้องดูว่าเชื้อนั้นเป็นเชื้ออะไร หากเป็นเชื้อใหม่เราก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนมาตรการ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาถึงสนามบินประเทศไทยจำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ซ้ำอีกหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ก็เป็นไปตามขั้นตอน โดยในการประชุมวันนี้ก็จะมีการสอบถามไปยังฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองว่าได้มีการจะตรวจสอบเอกสารอะไรบ้าง “ก่อนที่จะมาถึง ตม. เขาจะมีเจ้าหน้าที่ชุดสีขาวสุ่มตรวจนักท่องเที่ยว ใหม่ๆ เขาก็คงสุ่มบ่อยหน่อย”

ส่วนแนวทางทำความเข้าใจกับประชาชน ที่บางคนมีการเหยียดและกังวลนักท่องเที่ยวชาวจีน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เคยเห็นใครบูลลี่ หรือเป็นกระแสทั่วประเทศ ประเทศไทยไม่เคยมีปัญหากับประเทศจีน เราก็ทำตามมาตรฐาน ทำนอกแนวทางไม่ได้

ทั้งนี้ นายอนุทิน คาดว่าช่วงระยะ 4-5 เดือนแรกจะมีนักเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 4-5 หมื่นคน มั่นใจว่ายังรับมือไหว เพราะปกติเราก็รับนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 10 ล้านคนต่อปีอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงาน ในที่ประชุม นายอนุทิน กล่าวถึงว่า แม้ว่าเราจะมีผลสรุปอะไรออกไปก็ ขอเรียนทุกท่านให้ทราบว่า เราโดยกระทรวงสาธารณสุข มีกรมควบคุมโรคเปรียบเสมือนผู้รับผิดชอบภารกิจนี้ ก็ได้มีการคอยติดตามสถานการณ์ทั่วโลกถ้ามีการกลายพันธุ์ของเชื้อ หรืออะไรต่างๆ เราก็สามารถที่จะปรับมาตรการต่างๆ ได้ ต้องเรียนให้ทุกท่านทราบว่าปัจจุบันนี้ไม่มีสเปก เพราะฉะนั้นภารกิจของการควบคุมโรคป้องกันโรคติดต่อต่างๆ กลับมาอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายฉบับนี้ เราก็คงต้องใช้ความร่วมมือ เราไม่ได้มีประกาศ.