น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชาธิปัตย์ ชี้ จีนเปิดประเทศ 8 ม.ค. มีทั้งโอกาส-ความเสี่ยงไทย จี้รัฐฟื้นธุรกิจห่วงโซ่ด้านท่องเที่ยว ชุบชีวิตจากที่ล้มหายตายจากไปก่อนหน้า เพราะโควิด-19 ระบาด ให้กลับมา
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2566 ที่รัฐสภา น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหารือในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดแรกของปี 2566 ถึงกรณีที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเปิดประเทศในวันที่ 8 มกราคมนี้ ว่า การเปิดประเทศของจีนแผ่นดินใหญ่ จะเป็นทั้งโอกาส และความเสี่ยงในคราวเดียวกัน ที่รัฐบาลไทยต้องบริหารจัดการให้ดี โดยมีประเด็นที่ต้องเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนคือ มาตรการรองรับ เพื่อไม่ให้กรณีนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศจะกลายเป็นการนำโรคเข้าไทย ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนในการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงการเข้าไปดูความพร้อมของการท่าอากาศยานนานาชาติแต่ละแห่งของไทยที่จะต้องรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้น ว่า ทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดปัญหาความแออัดในการตรวจคนเข้าเมือง มีมาตรการรองรับหรือไม่ รวมถึงปัญหาภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งเกิดกรณีรถ Shuttle Bus ไปรับผู้โดยสารลงจากเครื่องล่าช้า แม้จะเกิดจากผู้ประกอบการภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขาดความพร้อมด้านแรงงานและการจัดหารถ Shuttle Bus ให้เพียงพอต่อการให้บริการ แต่การท่าอากาศยานฯ ก็ต้องกำกับดูแลเพื่อให้สายการบินต่างๆ มีการบริหารจัดการที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในอนาคต
“สิ่งสุดท้ายที่อยากฝากถึงรัฐบาลคือ จะทำอย่างไรให้ห่วงโซ่ธุรกิจท่องเที่ยวที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง เมื่อโอกาสมาถึง มีอีกหลายธุรกิจที่ไม่สามารถไขว่คว้าได้ เพราะล้มหายตายจากไปแล้ว เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะนักธุรกิจเหล่านั้นมีประสบการณ์ มีความสามารถ แต่ต้องล้มไป เราต่อสายป่าน ต่อลมหายใจให้เขาได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ไปกู้ก็ไม่มีทางได้ เนื่องจากไร้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หากเขาเห็นช่องทางธุรกิจ มีโครงการที่เห็นความเป็นไปได้ อยากให้รัฐกำหนดมาตรการมารองรับ ถ้าทำได้ เราจะชุบชีวิตห่วงโซ่ธุรกิจท่องเที่ยวให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง” น.ส.พิมพ์รพี กล่าว.
...